เปิดผลการเจรจาการค้าเสรี ไทย-ชิลี ไปได้สวย คาดพร้อมมีผลบังคับใช้ต้นปีหน้า

ข่าวทั่วไป Thursday October 18, 2012 13:44 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ระบุมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรไทยชิลี 8 เดือนแรกของปี รวมกว่า 3 พันล้านบาท สินค้าส่งออกสำคัญคืออาหารแปรรูป พร้อมเผยผลการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี ไทย-ชิลี ครั้งล่าสุด ณ ซานติอาโก สาธารณรัฐชิลี ไปได้สวย โดยเฉพาะการเปิดตลาดสินค้าข้าว

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงมูลค่าการค้าสินค้าทั้งหมดระหว่างไทยกับชิลี (รวมทั้งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม) ใน 8 เดือนแรกของปี 2555 (มกราคม — สิงหาคม 2555) พบว่ามีมูลค่าการค้ารวม 20,357 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นมูลค่าส่งออก 12,179 ล้านบาท และมูลค่านำเข้า 8,178 ล้านบาท ซึ่งหากพิจารณาเฉพาะสินค้าเกษตร (ไม่รวมยางพารา) จะพบว่ามีมูลค่าการค้ารวม 3,811 ล้านบาท โดยเป็นมีมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร 740 ล้านบาท มีสินค้าส่งออกสำคัญ คือ อาหารแปรรูป และเป็นมูลค่านำเข้าสินค้าเกษตร 3,071 ล้านบาท ซึ่งกว่าร้อยละ 80 นับเป็นการนำเข้าวัตถุดิบสินค้าประมงเพื่อนำมาแปรรูป และจากผลการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี ไทย-ชิลี ครั้งที่ 6 ณ ซานติอาโก สาธารณรัฐชิลี ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ประมาณต้นปีหน้า ในส่วนสินค้าเกษตรไทย สรุปได้ว่า สินค้าเชิงรุก ซึ่งสามารถส่งไปชิลีโดยมีอัตราภาษี 0% เช่น ทูน่ากระป๋อง สับปะรดกระป๋อง น้ำสับปะรด อาหารปรุงแต่ง แป้งมันสำปะหลัง อาหารสุนัข/แมว เป็นต้น ส่วนสินค้าข้าว ทางชิลีจะทยอยลดภาษีจนเหลือ 0% ในปีที่ 5 ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดตลาดข้าวที่ดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคู่เจรจาอื่นๆ ของชิลี เช่น มาเลเซีย ซึ่งชิลีไม่ลดภาษีข้าวในการเจรจา หรือเวียดนาม ที่ชิลีจะทยอยเปิดตลาดสินค้าข้าวภายใน 10 ปี

นอกจากนี้ ในส่วนของสินค้าเกษตรที่ฝ่ายไทยอาจมีข้อกังวล ทั้งจากผลการเปิดตลาดให้แก่ชิลีโดยตรงและผลทางอ้อมต่อพันธกรณีในกรอบ FTA อื่นๆ ของไทย (เช่น องุ่น ส้มแมนดาริน และสินค้าที่มีโควตาภาษี) ก็จะเปิดตลาดโดยคำนึงถึงพันธกรณีเหล่านั้นด้วย ส่วนสินค้าประมง ซึ่งมีข้อกังวลจากสมาคมผู้เพาะเลี้ยงปลาไทย ก็ได้บรรจุสินค้ากลุ่มนี้ไว้ในกลุ่มอ่อนไหว โดยจะสามารถคงภาษีเดิมไว้ไประยะเวลาหนึ่ง และจะลดเหลือ 0% ทันที ในปี 2563 เพื่อให้มีเวลาปรับตัวภายใต้ฐานภาษีเดิมเป็นระยะเวลา 8 ปี ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นการบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่ในขั้นของการเจรจาแล้ว อย่างไรก็ตาม ผลการเจรจาในภาพรวมจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาพิจารณาตามลำดับต่อไป เลขาธิการ กล่าวในที่สุด

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ