ทุ่ม 569 ล้านบาท โปรย 8 จังหวัด เข็นมาตรการลำไยปี 52

ข่าวทั่วไป Wednesday July 15, 2009 15:20 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

กระทรวงเกษตรฯ อัดฉีดเงิน กว่า 569 ล้านบาท ให้ 8 จังหวัดภาคเหนือ ตามโครงการบริหารจัดการลำไย ปี 52 เผย แต่ละจังหวัดสามารถเคาะวงเงินได้ทันทีแบบไม่ต้องรอปิดบัญชีในโครงการเดิม ผู้ที่สนใจเข้าโครงการสามารถติดต่อสำนักงานเกษตรจังหวัดได้ทั้ง 8 จังหวัด

นายมณฑล เจียมเจริญ รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการลำไย และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน และตาก เพื่อเร่งการดำเนินการตามโครงการบริหารจัดการลำไย ปี 2552 ซึ่งได้ประกาศเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยขณะนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้รับอนุมัติวงเงินจากกองทุนรวมเพื่อเกษตรกร (คชก.) เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามโครงการบริหารจัดการลำไย ปี 2552 แล้ว ในวงเงิน 569 ล้านบาท และได้ดำเนินการมอบเงินให้จังหวัดที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว ซึ่งแต่ละจังหวัดสามารถดำเนินการได้ทันที โดยให้เบิกจ่ายแบบไม่ต้องรอปิดบัญชีโครงการเดิม เพื่อแก้ไขปัญหา และเร่งระบายผลผลิต รวมถึงรักษาระดับราคาลำไยไม่ให้ตกต่ำ

สำหรับงบประมาณทั้งสิ้น 569 ล้านบาท จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เงินทุนหมุนเวียน 370 ล้านบาท ประกอบด้วย (1) วงเงิน 120 ล้านบาท ที่ให้สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน กู้ยืมรับซื้อลำไยสดเพื่อกระจายออกนอกพื้นที่ ดอกเบี้น 1% จำนวน 20,000 ตันสด (2) วงเงิน 250 ล้านบาท ให้กับสถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน กู้ยืมรับซื้อลำไยสดเพื่อแปรรูปเป็นลำไยอบแห้งเนื้อสีทอง ดอกเบี้น 1% จำนวน 30,000 ตันสด

ส่วนที่ 2 คือ เงินจ่ายขาด 199 ล้านบาท แยกเป็น (1) วงเงิน 60 ล้านบาท เป็นค่าชดเชย ค่าขนส่งเหมาจ่าย และค่าบริหารจัดการ กก.ละ 2 บาท โดยเป็นค่าคัดแยกสินค้าให้เกษตรกร สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน กก.ละ 1 บาท และค่าใช้จ่ายในการขนส่งให้ผู้เข้าร่วมโครงการที่ขึ้นทะเบียนไปจังหวัดปลายทาง กก.ละ 1 บาท จำนวน 30,000 ตันสด (2) วงเงิน 75 ล้านบาท เป็นค่าชดเชยค่าขนส่งเหมาจ่ายและค่าบริหารจัดการ กก.ละ 2.50 บาท ให้แก่สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้เข้าร่วมโครงการผลักดันการส่งออกลำไยสดเกรด AA, A, B, C ในราคาขั้นต่ำที่กำหนด จำนวน 30,000 ตันสด (3) วงเงิน 50 ล้านบาท เพื่อชดเชยผลต่างของดอกเบี้ยให้แก่ธนาคารในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ระยะเวลา 1 ปี ให้แก่สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และภาคเอกขน ที่กู้ยืมเงินผ่าน ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(SME) ตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร (วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท) เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินการอบแห้งลำไยทั้งเปลือก จำนวน 100,000 ตันสด นอกจากนี้ยังนำมาดำเนินงานด้านประชาสัมพันธ์ และค่าบริหารจัดการอีกในวงเงินประมาณ 14 ล้านบาท

รองเลขาธิการ กล่าวเพิ่มเติมถึงโครงการดังกล่าวว่า อยากขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย รวมถึงสื่อมวลชนทุกแขนงในการช่วยประชาสัมพันธ์โครงการให้ทั่วถึง โดยเฉพาะ สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการได้ทราบ ซึ่งผู้ที่สนใจที่จะเข้าร่วมโครงการสามารถสมัครและสอบถามได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด ทั้ง 8 จังหวัด โดยจะมีรายละเอียดพร้อมหลักเกณฑ์และเงื่อนไขไว้บริการพร้อมอยู่แล้ว

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ