กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--พม.
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) จัดพิธีปิดการสัมมนา “ปฏิรูปที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย โดยขบวนการองค์กรชุมชนท้องถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก โดยมีนายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีและกล่าวนโยบายการสนับสนุนการแก้ปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ณ โรงเรียนบ้านไผ่ (ขก.๕) อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน นับเป็นปัญหาพื้นฐานที่สุด และเป็นปัญหาที่มีมายาวนาน ทั้งปัญหาการกระจายการถือครองที่ดินอย่างไม่เป็นธรรม การสูญเสียที่ดินทำเกษตรกรรม การบุกรุกที่ดินของรัฐประเภทต่างๆ และอีกหลายประเด็นปัญหา รัฐบาลปัจจุบัน มีนโยบายและการดำเนินงานที่จริงจังในการปฏิรูปที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย โดยขบวนการองค์กรชุมชนท้องถิ่น ซึ่งแก้ไขปัญหาตั้งแต่ระดับฐานรากไปจนถึงการแก้ปัญหาในระดับนโยบาย โดยมีความพยายามผลักดันเรื่อง การปรับปรุงระบบภาษี เช่น ภาษีที่ดิน ภาษีท้องที่ ภาษีโรงเรือนฯลฯ ซึ่งจะต้องมีการจัดการอย่างเป็นธรรม โดยจะนำเป็นรายได้หลัก เพื่อสร้างแรงจูงใจในการใช้ประโยชน์จากที่ดินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีบทลงโทษ ในกรณีที่ละทิ้งที่ดินให้รกร้างว่างเปล่า ไม่สมประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งจะช่วยลดการถือครองที่ดินที่กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มคนไม่กี่กลุ่ม และไม่เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรได้ ในส่วนของธนาคารที่ดิน รัฐบาลจะนำส่วนหนึ่งของภาษีที่ดินที่เก็บได้มาเป็นกองทุนเพื่อธนาคารที่ดิน รวมถึงมีการเสนอให้นำที่ดินบางส่วน เช่น โฉนดชุมชน มาจัดสรรส่วนนี้ด้วย โดยจัดตั้งองค์การมหาชน เพื่อเป็นองค์กรในการบริหารจัดการธนาคารที่ดินดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นเตรียมการ
นายอิสสระ กล่าวต่อว่า โครงการบ้านมั่นคงและโครงการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย เป็นส่วนหนึ่งในนโยบายสังคมสวัสดิการของรัฐบาล และเป็นวาระแห่งชาติ ที่มีเป้าหมายให้ประเทศไทย มีแนวทางการพัฒนาระบบสวัสดิการสังคมสู่สวัสดิการถ้วนหน้า ในปี ๒๕๖๐ ซึ่งมีกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กำกับดูแล โดยจัดให้ประชาชนได้รับสวัสดิการอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือการจัดสวัสดิการชุมชนตำบลที่ พอช.ดำเนินการอยู่ ซึ่งเป็นการจัดสวัสดิการที่เน้นให้ชุมชนได้ดูแลซึ่งกันและกันภายในชุมชน จึงเป็นแนวทางการพัฒนาสู่ระบบสังคมสวัสดิการอีกแนวทางหนึ่ง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน มาร่วมกันสร้างสังคมสวัสดิการให้เป็นจริงในอนาคต.