กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--ปตท.
ฝ่ายบริหารความเสี่ยงราคาและวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันว่า ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปในสัปดาห์ที่ผ่านมาเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ทุกชนิดประมาณ 6.50-12.00 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล จากสถานการณ์ไม่สงบทางการเมืองในประเทศผู้ผลิตน้ำมันในแอฟริกาเหนือ และในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะเหตุจลาจลในประเทศลิเบียที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันลดลงประมาณ 0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และผู้ค้าเกิดความวิตกว่าหากเหตุการณ์ดังกล่าวยืดเยื้ออาจทำให้อุปทานน้ำมันตึงตัว จึงเข้าไปลงทุนในตลาดซื้อขายล่วงหน้าเป็นปริมาณมาก อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเริ่มชะลอความร้อนแรงลงหลังจากซาอุดีอาระเบียประกาศเพิ่มปริมาณการผลิตอีกอย่างน้อย 0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือประมาณ 8% ของปริมาณการผลิตในเดือน ม.ค. 54 ที่ระดับ 8.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ในส่วนของปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 ก.พ. 54 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน 0.8 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 346.7 ล้านบาร์เรล แม้ปริมาณสำรอง Gasoline และ Distillates ปรับลดลงแต่ยังอยู่ที่ระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีประมาณ 15-20 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้อัตราเดินเครื่องของโรงกลั่นในสหรัฐฯ เฉลี่ยอยู่ที่ 79.4% ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 2% เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดซ่อมบำรุงตามแผน
สำหรับภาคเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งสัญญาณดีขึ้นจากยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 ก.พ. 54 ลดลง 22,000 ราย มาอยู่ที่ 391,000 ราย และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ในเดือน ม.ค. 54 เพิ่มขึ้น 2.7% จากเดือน ธ.ค. 53 นับเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกตั้งแต่เดือน ก.ย. 53 (ธ.ค. 53 หดตัว 0.4%) อย่างไรก็ดีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ รายงาน GDP ไตรมาสที่ 4/2553 อยู่ที่ 2.8% ต่ำกว่าคาดการณ์เบื้องต้นที่ 3.2%
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์นี้ คาดว่าราคาน้ำมันจะทรงตัวในระดับสูงแต่จะไม่ปรับตัวขึ้นลงรุนแรงเหมือนที่ผ่านมาเนื่องจากประเทศผู้ผลิตรายใหญ่โดยเฉพาะ ซาอุดีอาระเบีย ให้คำมั่นว่าจะช่วยรักษาสมดุลของตลาด มิให้เกิดภาวะน้ำมันขาดแคลน ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าปัจจัยดังกล่าว รวมถึงปัจจัยพื้นฐานในด้านปริมาณสำรองน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง และการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นตามแผนจะบรรเทาความร้อนแรงของตลาดน้ำมัน อย่างไรก็ตามควรติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด ล่าสุดสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปประกาศคว่ำบาตรลิเบีย และเกิดเหตุประท้วงในประเทศโอมานซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายสำคัญของตะวันออกกลาง นอกจากนั้นให้จับตามองเศรษฐกิจโลกซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน โดยนายกรัฐมนตรีจีน นายเวิน เจียเป่า กล่าวว่าจีนจะหาลู่ทางให้เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 7 ต่อปี ในระยะ 7 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นการลดเป้าหมายลงท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ของจีนและแนวทางในการแก้ไขโดยอัตราเงินเฟ้อของจีนยังคงอยู่ที่ระดับสูงถึงร้อยละ 4.9
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
โทร. 0 2537-1630
โทรสาร 0 2537 2171