เปิดตัว เอส-26 พีอี โกลด์ (S-26 PE Gold) สูตร Advanced 7+7 จัดงาน “Brain Based Learning ปี 2 : 7+7 สูตรความสำเร็จเพื่อลูกคนเก่ง”

ข่าวทั่วไป Monday July 11, 2011 13:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--Public Hit เปิดตัว เอส-26 พีอี โกลด์ (S-26 PE Gold) สูตร Advanced 7+7 จัดงาน “Brain Based Learning ปี 2 : 7+7 สูตรความสำเร็จเพื่อลูกคนเก่ง” ชวนคุณแม่คนดังเผยเคล็ดลับโภชนาการครบถ้วน สมดุล เสริมศักยภาพลูกน้อยเติบโตได้ถึงที่สุด ผู้ผลิตนมผงคุณภาพระดับพรีเมี่ยม เอส-26 เปิดตัวนวัตกรรมล่าสุด นมผง “เอส-26 พีอี โกลด์ สูตร Advanced 7+7” ที่ผ่านการค้นคว้าวิจัย มอบโภชนาการครบครัน เหนือกว่า ด้วย 7 สารอาหารสำคัญที่เด็กกินยาก ช่างเลือก วัย 1 ขวบขึ้นไป อาจได้รับไม่เพียงพอ ล่าสุดจัดงาน “Brain Based Learning ปี 2 : 7+7สูตรความสำเร็จเพื่อลูกคนเก่ง” ชวนคุณแม่คนดังเผยประสบการณ์เลี้ยงลูกกินยาก และนักโภชนาการแนะเคล็ดลับด้านโภชนาการเสริมศักยภาพสมอง ย้ำคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจ หากลูกมี 1 ใน 7 สัญญาณถึงเวลายกระดับศักยภาพ พฤติกรรม “เด็กกินยาก” เป็นปัญหาที่พบได้ในเด็กทั่วไปและพบบ่อยในเด็กอายุ 1-3 ขวบ เนื่องจากเด็กวัย 1 ขวบขึ้นไป เริ่มได้รับอาหารที่มีลักษณะแข็งขึ้น จึงมักจะพบปัญหาการกินยาก ช่างเลือก และอาจนำไปสู่การรับประทานอาหารไม่สมดุล ไม่ครบหมวดหมู่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็ก ซึ่งจากงานวิจัยของดร.นพ.ประสงค์ เทียนบุญ หน่วยโภชนศาสตร์และศูนย์วิจัยโภชนาการ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรื่องพฤติกรรมการกินของเด็ก Picky Eater และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เมื่อปีพ.ศ.2553 ระบุว่า คุณพ่อคุณแม่สามารถสำรวจพฤติกรรมการกินยาก ช่างเลือกของลูกได้จาก “7 สัญญาณถึงเวลายกระดับศักยภาพ” ดังนี้ 1) เขี่ยอาหารที่ไม่ชอบ 2) ชอบกินอาหารซ้ำๆ 3) กินอาหารช้า 4) เลือกกินแต่ของชอบ 5) กินยาก อมข้าว 6) กินน้อยไม่สมดุล 7) ชอบกินขนม น้ำอัดลม ไม่ชอบผักผลไม้ ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจหากลูกมี 1 ใน 7 สัญญาณถึงเวลายกระดับศักยภาพ ด้วยเล็งเห็นความสำคัญของโภชนาการที่ดี และเชื่อว่าพัฒนาการของเด็กทั้งทางด้านสมองและร่างกายสามารถเสริมให้เต็มศักยภาพเพิ่มขึ้นอีก ด้วยการมอบโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุล ดังนั้น ผู้ผลิตนมผงคุณภาพระดับพรีเมี่ยม เอส-26 จึงได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ นมผงปรุงแต่ง กลิ่นวานิลลา เอส-26 พีอี โกลด์ (S-26 PE Gold) สูตร Advanced 7+7 ครบครันเหนือกว่า เพื่อตอบสนองความต้องการโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุลสำหรับเด็กวัย 1 ปีขึ้นไปที่มีพฤติกรรมกินยาก ช่างเลือก สภาพร กังวานเวชกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจโภชนาการ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตนมผงคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ซึ่งผ่านการค้นคว้าวิจัยสำหรับเด็ก กล่าวว่า จุดเด่นของนมผงปรุงแต่งกลิ่นวานิลลา เอส-26 พีอี โกลด์ สูตร Advanced 7+7 คือ มอบ 7 สารอาหารสำคัญที่เด็กมีพฤติกรรมกินยาก ช่างเลือก มีความเสี่ยงที่จะขาด คือ แคลเซียม วิตามินดี สังกะสี เหล็ก ไอโอดีน วิตามินบี 1 และวิตามินเอ และอีก 7 สารอาหารสำคัญ ได้แก่ ฟอสฟอรัส วิตามินเค วิตามินบี 2, บี 6, บี 12 กรดแพนโทธินิค และวิตามินซี นอกจากนี้ยังมีสารอาหารสูตรเฉพาะของ เอส-26 อันได้แก่ DHA+AA, 5 นิวคลิโอไทด์ (ซึ่งมีอิโนซีน โมโนฟอสเฟต หรือ IMP หนึ่งในนิวคลิโอไทด์) และลูทีน ภายในงานเปิดตัวที่ Cyberia @ Central World ชั้น 7 ของเซ็นทรัลเวิลด์ที่ผ่านมา เอส-26 ได้รับเกียรติจาก แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมเด็ก ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เผยเด็กกินยาก ช่างเลือก มีหลายแบบ เช่น บางคนกินนมไม่กินอาหารอย่างอื่น บางคนก็ไม่ยอมกินนม บางคนจะต้องกินอาหารที่เละ ๆ เป็นโจ๊กเท่านั้น ที่พบบ่อย คือ ไม่ยอมกินผัก และไม่ยอมกินเนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นหมูหรือไก่หรือเนื้อวัว อะไรที่มีเส้นใยเหนียวๆ แข็งๆ จะไม่กินและเพื่อเป็นการแนะนำเคล็ดลับการสร้างสรรค์เมนูให้ถูกใจเจ้าตัวเล็กไปพร้อมกับเติมเต็มโภชนาการที่ครบถ้วนสมดุล ในงานยังได้ พล ตัณฑเสถียร เชฟชื่อดังมาสาธิตจานเด็ดที่มีส่วนผสมจากนมผงเอส-26 พีอี โกลด์ สูตร Advanced 7+7 ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวอย่างสปาเก็ตตี้ซอสขาว และของหวานอย่างมูสนมเย็น ซึ่งทั้งหมดได้รับการการันตีรสชาติจากผู้เข้าร่วมงานแล้วว่าน่ารับประทานเอร็ดอร่อยจนต้องขออีกจาน สำหรับกิจกรรม S-26 Club Brain Based Learning ปี 2 : 7+7 สูตรความสำเร็จเพื่อลูกคนเก่ง ซึ่งจัดขึ้น ณ ลาน Genius Planet ชั้น 6 เซ็นทรัล เวิลด์ เมื่อวันก่อน เป็นอีกงานหนึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากคุณพ่อคุณแม่ที่จูงลูกน้อยวัย 2 ขวบปีขึ้นไปมาร่วมกิจกรรมกันอย่างคับคั่ง โดยงานในวันนั้นแบ่งเป็น 2 รอบด้วยกัน คือ ภาคเช้า และ ภาคบ่าย ซึ่งเหล่าคุณพ่อคุณแม่และเจ้าตัวน้อยต่างเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะกิจกรรมเสริมทักษะพัฒนาไอคิวขั้นสูง และเคล็ดลับด้านโภชนาการเสริมศักยภาพสมองภายใน 7 นาที พร้อมการฝึกภาคปฏิบัติจริง ทั้งนี้ไฮไลท์ที่ทุกคนให้ความสนใจเป็นพิเศษคือการเสวนาเรื่อง “7+7 สูตรความสำเร็จเพื่อลูกคนเก่ง” โดยในช่วงเช้า มีผู้ร่วมเสวนาคือ พิมพ์ศร สินธวะวัฒน์ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์นมผงสำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป, พญ.วิมล งานทวี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเด็ก จากธุรกิจโภชนาการ บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และแขกรับเชิญพิเศษ ปริญดา เบญจรงคกุล คุณแม่ CEO จากบริษัท Cherry Serina จำกัด ที่ควงน้องวุธลูกชายวัย 4 ขวบมาร่วมพูดคุยด้วย สำหรับในภาคบ่าย เป็นการเสวนาในหัวข้อเดียวกัน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เกศกนก สุกแดง นักวิชาการโภชนาการ โรงพยาบาลศิริราช, พญ.วิมล งานทวี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเด็ก และ คุณแม่เวิร์กกิ้งมัม บัว-ปัทมน อดิเรกสาร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ที่มาพร้อมลูกสาวฝาแฝด น้องเทตและน้องเธมส์ คุณแม่คนสวย ปริญดา เบญจรงคกุล กล่าวถึงเทคนิคในการเลี้ยงลูกชายวัยซน ให้เป็นเด็กอารมณ์ดีว่า ส่วนใหญ่มักจะเล่นกัน อ่านนิทาน หรือการ์ตูน ด้วยกัน และดูแลในเรื่องการทานอาหารให้ครบถ้วย หลากหลาย พยายามให้มีสารอาหารครบทุกอย่าง แต่การเลือกทานอาหารของน้องวุธค่อนข้างตรงกับที่คุณหมอพูดถึงเรื่อง 7 สัญญาณ คือ ชอบทานซ้ำๆ และเขี่ยอาหารไม่ทานผัก จึงต้องใช้เทคนิคช่วย “น้องวุธชอบทานราเมง เวลาไปที่ร้านเขาจะบอกพนักงานว่าไมใส่ผักเลย ให้เส้นกับหมูแค่นั้น ก็กลัวว่าลูกจะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน บางที่ต้องหลอกใส่ผักลงไป หรือสั่งเทมปุระผักให้ลูกทาน บางครั้งเวลาทานข้าวด้วยกัน พยายามทานผักให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง บางครั้งก็อาศัยเทคนิคการทำอาหารให้ลูกทาน หาเมนูที่มีสารอาหารให้ครบ หรือการเลือกซื้อนมก็สำคัญ เวลาไปซูเปอร์มาเก็ต จะอ่านรายละเอียดหรือส่วนประกอบการชง ว่ามีสารอาหารจำเป็นที่ลูกต้องการครบถ้วนหรือไม่ จะเริ่มจากตรงนี้มากกว่า “หลังจากได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ทำให้ได้รับความรู้เกี่ยวกับทฤษฎี 7 กลุ่มอาหารซึ่งสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน อีกทั้งได้เรียนรู้จากการร่วมงานในวันนี้ด้วยว่า นมผงที่มีคุณภาพให้คุณค่าสารอาหารครบถ้วนทั้ง 7 กลุ่มอาหารตามที่เด็กวัยนี้ต้องการจริงๆ ก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่ช่วยเรื่องโภชนาการที่ดีเพื่อพัฒนาศักยภาพของลูกได้ถึงที่สุด ได้ทราบข้อมูลใหม่ๆ ขึ้นอีกเยอะ ทำให้รู้ว่าสมองของลูกช่วงนี้ยังมีพัฒนาการได้อีกเยอะ ถ้าเราดูแลอาหารให้ครบถ้วนตามที่ร่างกายเขาต้องการ ถ้าพลาดโอกาสช่วงนี้ไปก็เหมือนกับเราพลาดโอกาสสำคัญที่จะช่วยลูกให้มีพัฒนาการที่ดีสมวัย และฉลาดด้วย” คุณแม่คนเก่ง กล่าว เกศกนก สุกแดง เฉลยเคล็ดลับสำคัญของ 7+7 สูตรความสำเร็จเพื่อลูกคนเก่ง ก็คือ ทุกวันเด็กควรรับประทานให้ครบ 7 กลุ่มอาหาร คือ ธัญพืช ผัก ผลไม้ น้ำมัน นม เนื้อ ถั่ว ซึ่งเป็นหลักการทางโภชนาการที่แพร่หลายในสหรัฐอเมริกา และควรได้รับ 7 สารอาหารสำคัญที่เด็กต้องการ คือ แคลเซียม วิตามินดี สังกะสี เหล็ก ไอโอดีน วิตามินบี 1 และวิตามินเอ เพื่อเสริมการพัฒนาสมองและร่างกายได้ถึงที่สุด จากผลการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ของบริษัท Insight Asia เมื่อปี พ.ศ. 2553 พบว่า 74% ของเด็กวัย 1 ปีขึ้นไปมีพฤติกรรมกินยาก ช่างเลือก ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็ก ทั้งด้านการเรียนรู้ สุขภาพ การเจริญเติบโต และด้านโภชนาการ เพราะอาหารที่มีคุณภาพเป็น 1 ใน 3 องค์ประกอบหลักที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาสมองและร่างกายของเด็ก นอกเหนือจากปัจจัยเรื่องพันธุกรรมและกระบวนการเรียนรู้ผ่านสิ่งแวดล้อม แถมท้ายด้วยการเผยเทคนิคในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กให้รับประทานอาหารครบทั้ง 7 กลุ่มอาหาร ว่า ให้คิดไว้ล่วงหน้าว่าลูกจะทานอาหารอะไรบ้าง เช่น มื้อเช้าจะทานโจ๊ก ใส่ข้าวโอ๊ตลงไปแทนข้าว แล้วเติมหมู ไก่ ลงไป ส่วนผัก ผลไม้ ให้หั่นใส่จานเล็กๆ หั่นให้กับน้อง ที่สำคัญคือ เสริมนมที่มีสารอาหารครบถ้วนอีก 1 แก้ว จะทำให้คุณแม่มั่นใจได้ว่า ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ หลังจากฟังคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องโภชนาการเด็กแล้ว บัว-ปัทมน อดิเรกสาร กล่าวว่าโชคดีที่ลูกๆ ของเธอทุกคนชอบทานผักและผลไม้ จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องทานยาก แต่จากการพูดคุยครั้งนี้ทำให้ได้ความรู้ที่น่าสนใจว่าถึงลูกจะทานง่าย ก็ควรอ้างอิงตามหลักการโภชนาการด้วยว่าลูกทานครบ 7 กลุ่มอาหารในแต่ละวันหรือไม่ เพราะนั่นคือตัวบอกได้ว่าลูกได้สารอาหารที่ดีครบถ้วนตามความต้องการจริงๆ ทำให้ต้องใส่ใจเรื่องกลุ่มอาหารและนมที่ให้สารอาหารครบถ้วนเพื่อให้เหมาะกับวัยจริงๆ “ส่วนใหญ่บัวจะดูแลลูกเป็นหลักในเรื่องอาหารการกิน และนม เคยมีบ้างที่รู้สึกกังวลว่า เด็กๆ จะทานสารอาหารครบถ้วนหรือไม่ ส่วนการเลือกอาหารเพื่อพัฒนาสมองให้ลูกนั้นจะเน้นที่การให้ดื่มนมมากกว่าคือ ให้ลูกๆ ดื่มนมวันละ 10 ออนซ์ ก่อนนอนทุกคืน วิธีที่จะทำให้ลูกๆ ไม่เลือกทาน คือ ส่วนใหญ่เราจะทานให้ลูกดู แล้วเขาจะทานตามเรา บางทีเขาอยากดื่มน้ำอัดลมเราก็อธิบายตามจริงว่า ดื่มแล้วไม่ดี ทำให้ปวดท้อง บัวค่อนข้างโชคดีที่ลูกทานง่าย ตอนแรกก็คิดว่าลูกน่าจะได้สารอาหารที่ครบถ้วนแล้ว แต่พอมาฟังข้อมูลจากคุณหมอและนักโภชนาการในวันนี้ก็ทำให้รู้ว่าจริงๆแล้วลูกก็ยังอาจไม่ได้รับสารอาหารครบถ้วนเพียงพอ ถ้าทานไม่ครบ 7 กลุ่มอาหารในแต่ละวัน” “การที่มีเทคนิคดีๆ เช่น นม เอส-26 พีอี โกลด์ สูตร Advanced 7+7 มาเสริมศักยภาพสมองให้เด็กสามารถได้รับสารอาหารครบถ้วนทั้ง 7 กลุ่มอาหาร ช่วยให้เราดูแลลูกได้มั่นใจขึ้นเยอะค่ะ ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไปว่า ลูกอาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ โดยส่วนตัวแล้วบัวเลือกใช้นม S-26 มาตลอด บัวลองชิมดูก็รู้ว่า รสชาติโอเคเลย แต่รสชาติอย่างเดียวไม่พอ เราต้องดูที่สารอาหารด้วย ซึ่ง S-26 ตอบโจทย์ได้ตรงความต้องการมากค่ะ อยากฝากคุณพ่อคุณแม่ว่า ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกดู และอย่าลืมเอาใจใส่เรื่องโภชนาการในเด็กตั้งแต่เยาว์วัย เพื่อให้ลูกน้อยได้รับโภชนาการที่ดี มีคุณภาพครบถ้วนและสมดุล ไม่ควรนิ่งนอนใจหากลูกมี 1 ใน 7 สัญญาณถึงเวลายกระดับศักยภาพ ” คุณแม่ลูกแฝด กล่าว พิมพ์ศร สินธวะวัฒน์ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์นมผงสำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป กล่าวว่า เอส-26เชื่อว่าพัฒนาการของเด็กทั้งทางด้านสมองและร่างกายสามารถเสริมให้เต็มศักยภาพเพิ่มขึ้นอีก ด้วยการมอบโภชนาการที่ครบถ้วนและสมดุล โดยเฉพาะ 3 ขวบปีแรกซึ่งสมองจะมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ จะเห็นว่าส่วนใหญ่เด็กที่มี 7 สัญญาณ จะขาดสารอาหารสำคัญใน 7 อย่างด้วยกันได้แก่ แคลเซียม วิตามิน แคลเซียม วิตามินดี สังกะสี เหล็ก ไอโอดีน วิตามินบี 1 และวิตามินเอ ความสำคัญของสารเหล่านี้ไม่ธรรมดาสำหรับน้องๆ เช่น ธาตุเหล็ก ช่วยพาออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายและสมอง ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาศักยภาพทั้งทางร่างกายและสติปัญญาไปด้วย จึงอยากให้พ่อแม่ให้ความสำคัญกับการดูแลเอาใจใส่ให้ลูกได้รับประทานอาหารที่หลากหลาย ครบ 7 กลุ่มอาหาร เพื่อได้รับสารอาหารที่เด็กควรจะได้รับเพียงพอต่อวันด้วยค่ะ” พิมพ์ศร กล่าว ในขณะที่ พญ.วิมล งานทวี กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเด็ก กล่าวย้ำว่า 7 สัญญาณที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจหากพบในลูกวัย 1 ปีขึ้นไปคือ 1) เขี่ยอาหารที่ไม่ชอบ 2) ชอบกินอาหารซ้ำๆ 3) กินอาหารช้า 4) เลือกกินแต่ของชอบ 5) กินยาก อมข้าว 6) กินน้อยไม่สมดุล 7) ชอบกินขนม น้ำอัดลม ไม่ชอบผักผลไม้ เพราะจะทำให้เกิดผลกระทบกับร่างกายและพัฒนาการของสมอง ได้แก่ การเรียนรู้น้อยลง เมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่มี 7 สัญญาณเหล่านี้ ซึ่งเด็กใน 3 ขวบปีแรก สมองจะมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว หากได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็ได้รับสารอาหารที่สำคัญ จะช่วยพัฒนาความเก่งและฉลาดได้ นอกจากนี้ยังอาจพบผลข้างเคียงอื่นๆเช่น เด็กเจ็บป่วยได้ง่าย หรือมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ “เวลาไม่คอยท่า สมองก็ไม่คอยใครเหมือนกัน ถ้าเด็กมีปัญหาเรื่องการทานอาหาร บางทีเราอาจต้องเสริมด้วยนมที่ให้โภชนาการครบถ้วน โดยนมผงสูตรใหม่ เอส-26 พีอี โกลด์ สูตร Advanced 7+7 ให้คุณค่าทางสารอาหารครบถ้วน สมดุล และเหนือกว่านมที่มีอยู่ในท้องตลาด ช่วยเข้าไปเสริมสร้างพัฒนาการสมองและร่างกายของลูกน้อยเติบโตได้ถึงที่สุด” กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเด็ก กล่าว นอกจากมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการดูแลลูกน้อยแล้ว แขกรับเชิญสาวสวยทั้ง 2 ยังร่วมโชว์ฝีมือทำเมนู “โปเตโต้ สลัด 7 กลุ่มอาหาร” โดยมี เชฟเซร่าห์ เจนเสน จาก a little something สถาบันสร้างเสริมพัฒนาการเด็ก ผ่านการทำอาหาร คอยแนะนำ เมนูสำหรับลูกน้อยนี้ มีสารอาหารครบ 7 กลุ่มอาหาร ทั้งคุณแม่และคุณลูกแบ่งหน้าที่กันทำงานอย่างตั้งใจ เช่น คุณแม่ตีไข่กับน้ำมันมะกอก ทำเป็นมายองเนส เมื่อเข้ากันเป็นครีม ปรุงรสด้วยเกลือ และ น้ำตาล พอประมาณ บีบมะนาวใส่ จากนั้นซอยแอ๊ปเปิ้ลเขียวเป็นฝอย ส่วนลูกๆ ช่วยหั่นแครอทเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำมาผสมลงไปกับมัน แอ๊ปเปิ้ลเขียว ธัญพืช ทูน่า ราดมายองเนส คลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ภายในบริเวณที่จัดงาน ยังมีโซนกิจกรรมที่เตรียมไว้สำหรับน้องๆ หนูๆ อีก 7 โซน ซึ่งล้วนแล้วแต่ช่วยพัฒนาศักยภาพให้กับเด็กๆ อย่างเต็มศักยภาพ ได้แก่ 7+7 IQ โซน ช่วยฝึกด้านพัฒนาการสมอง, 7+7 Health โซน ที่ตรวจเช็คร่างกายหนูๆ และช่วยคุณพ่อคุณแม่เช็ค 7 สัญญาณถึงเวลายกระดับศักยภาพ, Cooking Academy โซน เน้นให้ลูกรักรู้จักและคุ้นเคยกับ 7 กลุ่มอาหารพร้อม 7 สารอาหารสำคัญผ่านการฝึกทำอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย, 7+7 Education โซน ฝึกกระบวนการคิด พัฒนาการทำงานของสมองผ่านกิจกรรมต้นไม้ 7+7 เสริมศักยภาพสมอง,7+7 Play โซน มีของเล่นมากมายมาให้น้องๆ พัฒนาร่างกาย สมอง จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์, 7+7 Balloon Mini Theater ที่มีพี่สิงโตลีออน มาสอนน้องๆ ร้องเพลง ยืดเส้นยืดสาย โซนสุดท้ายคือ Young Artist เป็นจุดที่หนูๆ และผู้ปกครองมาร่วมกันแสดงจินตนาการผ่านงานศิลปะ โซนต่างๆ เหล่านี้ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เติมเต็มศักยภาพทางร่างกายและสมองกันอย่างเต็มที่ 1 ดร.นพ.ประสงค์ เทียนบุญ. “งานวิจัยพฤติกรรมการกินของเด็ก Picky Eater”. หน่วยโภชนศาสตร์ และศูนย์วิจัยโภชนาการ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. ปี พ.ศ. 2553. 2 บริษัท Insight Asia งานวิจัยเชิงปริมาณ Quantitative Research ปี พ.ศ. 2553.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ