กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--อินไซด์ อินเวสเตอร์
อินไซด์ อินเวสเตอร์ บริษัทสื่อชั้นนำ เกาะติดเศรษฐกิจไทยโตขึ้นต่อเนื่อง เตรียมจัดทำรายงานพิเศษ “อินไซด์ ไทยแลนด์” เจาะลึกข้อมูล เพิ่มโอกาสลงทุนจากกลุ่มนักธุรกิจตะวันออกกลาง
คามิล โรวิลเลียน ผู้อำนวยการอินไซด์ อินเวสเตอร์ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า จากอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทจึงได้ส่งทีมงานมาจัดทำ อินไซด์ ไทยแลนด์ รายงานธุรกิจที่มีเนื้อหาครบครัน เพื่อเป็นข้อมูลให้กับนักลงทุนจากตะวันออกออกลางเข้ามาลงทุนในเอเชีย โดยจะมีการตีพิมพ์ในช่วงต้นปี 2012 หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างงดงามในการจัดทำอินไซด์ มาเลเซีย และอินไซด์ ซาราวัก ในปีนี้
เนื้อหาในอินไซด์ ไทยแลนด์ เจาะลึกข้อมูลข่าวสารต่างๆในวงการอุตสาหกรรมหลัก และรายงานทางเศรษฐกิจ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ โดยเน้นโอกาสทางธุรกิจ การส่งเสริมจากรัฐบาล และปัจจัยสำคัญสำหรับนักลงทุน จัดทำโดยนักหนังสือพิมพ์ที่มีประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการธุรกิจอุตสาหกรรม ซึ่งได้ตรวจสอบและวิเคราะห์ตลาดมาเป็นเวลาหลายเดือน จากการสัมภาษณ์ผู้นำทางการเมือง บุคคลสำคัญในวงการธุรกิจ รวมถึงผู้ประกอบการในประเทศไทย
“เรากำลังวางแผนขยายงานมายังประเทศไทย เพราะเรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าไทยสามารถนำเสนอโอกาสการลงทุนใหม่ๆอีกมากมาย” คามิล โรวิลเลียน กล่าว
ด้าน อิมราน ซาดดีก ผู้อำนวยการประจำภูมิภาค กล่าวเสริมว่า ประเทศไทยกำลังได้รับความนิยมสำหรับนักลงทุนที่กำลังแสดงหาช่องทางการลงทุน และขยายธุรกิจในเอเชีย เนื่องจากเป็นประเทศที่เปิดกว้าง ความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
รายงานฉบับนี้ได้รับการสนับสนุนจาก นายสมชัย จรณะสมบูรณ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงอาบูดาบี ที่ประทับใจกับผลการตอบรับของอินไซด์ มาเลเซีย และการประชุมที่จัดขึ้นที่อาบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อเดือนมกราคมปี 2011 ที่ผ่านมาและเสนอแนะให้จัดทำรายงานแบบเดียวกันสำหรับประเทศไทย
นอกจากการเน้นย้ำโอกาสทางธุรกิจหลักในประเทศไทย เช่น น้ำมันและก๊าซ การเงินและการธนาคารอุตสาหกรรมและการผลิต เกษตรกรรม การท่องเที่ยว พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน ข้อมูลและการสื่อสาร และอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ รายงานยังมุ่งเน้นถึงเทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับภูมิภาคอย่างมาก และก่อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
รายงานฉบับนี้จะถูกตีพิมพ์เผยแพร่ในกลุ่มประเทศคณะมนตรีความมั่นคงรัฐอ่าวอาหรับหรือ (GCC) ทั้ง 6 ประเทศได้แก่ บาห์เรน, คูเวต, โอมาน, กาตาร์, ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสถาบันการเงินระหว่างประเทศ
"เราจัดทำอินไซด์ ไทยแลนด์ เพราะต้องการให้นักลงทุนจากตะวันออกกลางทราบว่าสามารถนำเงินมาลงทุนในภาคส่วนใดในประเทศที่มีสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง รายงานนี้จะให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับภูมิทัศน์ของการลงทุนในประเทศไทย" ผู้อำนวยการภูมิภาคของอินไซด์ อินเวสเตอร์กล่าวเสริม
ทั้งนี้จากรายงานของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (บีโอไอ) พบว่าการลงทุนโดยตรงจากชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น 31 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสี่เดือนแรกของปี 2011 จำนวนของโครงการเพิ่มขึ้น 53 เปอร์เซ็นต์ และมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น 31 เปอร์เซ็นต์ บวกกับตัวเลขเอฟดีไอ/FDI ที่เพิ่มขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์ตลอดปี 2010 มากกว่าปี 2009 มูลค่ารวม 236.03 พันล้านบาท (ประมาณ 8.2 พันล้านดอลลาร์) บ่งชี้ว่ามีประเทศไทยมีแรงดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุน
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังให้ความสำคัญที่จะหาช่องทางการขยายการค้าและการลงทุนกับประเทศในภูมิภาคตะวันออกลาง โดยนอกเหนือจากกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันแล้ว ทั้งสองภูมิภาคยังเป็นแหล่งศูนย์รวมโอกาสลงทุนในด้านธนาคารอิสลาม อุตสาหกรรมอาหารฮาลาล โครงการท่องเที่ยว การก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล ขณะเดียวกันประเทศไทยยังมีจัดตั้งกองทุนความมั่นคงแห่งชาติสำหรับชาติตะวันออกกลางเพื่อสนับสนุนการร่วมทุนอีกด้วย
ดังนั้น อินไซด์ ไทยแลนด์ น่าจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับให้ข้อมูลพื้นฐานกับนักลงทุนในภูมิภาคตะวันออกกลาง และเป็นผลิตภัณฑ์พิเศษที่สร้างสรรค์โอกาสทองสำหรับธุรกิจระหว่างสองภูมิภาค
ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับ อินไซด์ ไทยแลนด์ และการเปิดตัวในต้นปี 2012 กรุณาโทรไปที่ +603-2776 6840/6841 หรือ อี-เมลล์ contact@investvine.com
ข้อมูลเกี่ยวกับ อินไซด์ อินเวสเตอร์
อินไซด์ อินเวสเตอร์ คือบริษัทระหว่างประเทศ ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ สื่อสิ่งพิมพ์ รับจัดอีเวนต์ และเป็นที่ปรึกษาด้านสื่อ โดยมีสำนักตั้งอยู่ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ดูไบ ฮ่องกง และบาร์เซโลนา จุดมุ่งหมายเบื้องต้นก็คือการตีพิมพ์ และการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง และทันเหตุการณ์ ในแต่ละประเทศทั่วโลก โดยตีพิมพ์รายงานเหล่านี้แนบไปพร้อมกับนิตยสารธุรกิจที่มีชื่อเสียงในตะวันออกกลาง และผ่านเครือข่ายผู้นำทางธุรกิจ และผู้นำรัฐบาลทั่วทั้งภูมิภาค GCC และทวีปเอเชีย