กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--ซีพีเอฟ
นายอดิเรกกล่าวว่าสถานการณ์น้ำท่วมอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้พนักงานบางส่วนของบริษัทกลายเป็นผู้ประสบภัยด้วย บริษัทจึงตั้งศูนย์ช่วยเหลือพนักงานเป็นการเร่งด่วน โดยให้ความช่วยเหลือในหลายระดับ ตั้งแต่การจัดกระสอบทรายให้กับพนักงานในพื้นที่เสี่ยง การจัดที่พักชั่วคราวบริเวณใกล้ที่ทำงานให้แก่พนักงานที่ได้รับความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย มีการสำรองที่จอดรถสำหรับพนักงาน ตลอดจนจัดเตรียมเรือช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน โดยมีสายด่วนสำหรับพนักงาน ตลอด 24 ชั่วโมง ที่โทร.02-675-7505 พร้อมกันนี้ บริษัทจะทำการจ่ายโบนัสล่วงหน้าให้กับพนักงานด้วย
นอกจากนี้ กรณีพนักงานที่ประสบอุทกภัยไม่สามารถมาปฏิบัติงานได้ บริษัทอนุญาตให้หยุดงานได้โดยไม่นับเป็นวันลา ส่วนพนักงานจิตอาสาที่เข้าช่วยเหลือเพื่อนพนักงานในกรณีดังกล่าวจนไม่สามารถมาปฏิบัติงานได้ สามารถแจ้งแก่ผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาอนุมัติ ให้หยุดงานเป็นกรณีๆไป โดยไม่นับเป็นวันลาเช่นกัน
สำหรับในด้านความช่วยเหลือประชาชนนั้นบริษัทยังคงดำเนินนโยบาย “ซีพี-ซีพีเอฟเคียงข้างคนไทยช่วยภัยน้ำท่วม” อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด หลังจากน้ำเข้าท่วมพื้นที่ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นเหตุให้ต้องมีการอพยพผู้ประสบภัยไปยังพื้นที่อื่นนั้น เต็นท์โรงอาหารของซีพีเอฟจากรังสิตก็ได้เคลื่อนย้ายไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จ.นนทบุรี แทน
ทั้งนี้ เต็นท์โรงอาหารของซีพีเอฟ ทั้ง 12 จุด ใน 11 จังหวัด ได้แจกจ่ายอาหารไปแล้วมากกว่า 1 ล้านกล่อง จนถึงปัจจุบันซีพีเอฟได้รวมการบริจาคเงินสด สิ่งของ และอาหาร ช่วยเหลือผู้ประสบภัยกว่า 100 ล้านบาท และยังคงดำเนินการปรุงอาหารแจกจ่ายผู้ประสบภัยต่อเนื่องต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
อนึ่ง การช่วยเหลือของซีพีเอฟ ได้ดำเนินการตามลำดับขั้นมาแล้ว ดังนี้ 1.สนับสนุนเงินช่วยเหลือผ่านนายกรัฐมนตรี จำนวน 30 ล้านบาท 2.มอบผลิตภัณฑ์และถุงยังชีพผ่านองค์กรต่างๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย ครัวสายใยรักแห่งครอบครัวฯ กาชาดจังหวัด ผู้ว่าราชการ นายอำเภอ องค์การบริหารส่วนตำบล และสื่อมวลชน จำนวน 20 ล้านบาท 3.ตั้งเต็นท์โรงอาหารเพื่อประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับประชาชนผ ู้ประสบภัย จำนวน 12 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 11 จังหวัด ใช้งบอีก 50 ล้านบาท รวมมูลค่าความช่วยเหลือกว่า 100 ล้านบาท
สำหรับเต็นท์โรงอาหารจำนวน 12 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 11 จังหวัดที่ประสบปัญหาน้ำท่วม ได้แก่ จังหวัดอยุธยา นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สระบุรี ลพบุรี ปทุมธานี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และ ศูนย์พักพิงชั่วคราว ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ล่าสุดคือจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นจุดที่ 13 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟได้นำอาหารสำเร็จรูปในซองพร้อมรับประทาน หรือ รีทอร์ต เพาซ์ (Retort Pouch) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ในการผลิตอาหารที่สามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิปกติได้นานถึง 1 ปี ง่ายต่อการบริโภค เพียงฉีกซองไม่ต้องอุ่นก็สามารถทานได้ดังเช่นอาหารปรุงเสร็จใหม่ๆ จึงไม่เป็นภาระในการปรุงอาหารสำหรับผู้ประสบภัยไปแจกจ่ายด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เพิ่มเติมความช่วยเหลือโดยนำผลิตภัณฑ์กุ้งต้มสุกและกุ้งแปรรูปคุณภาพส่งออก จำนวน 40 ตัน มูลค่า 10 ล้านบาท เพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ เนื้อหมู ไข่ไก่ และผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน หรือรีทอร์ต เพาซ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาหารแก่พี่น้องประชาชน จนถึงปัจจุบันได้ปรุงอาหารเป็นข้าวกล่องแล้วกว่า 1 ล้านกล่อง ( ณ 27 ต.ค. 2554)