
นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการติดตามผลการดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพเพื่อเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานเศรษฐกิจชีวภาพ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรให้สามารถผลิตพืชสมุนไพรและแมลงเศรษฐกิจที่มีคุณภาพและมีปริมาณสอดคล้องกับความต้องการของตลาด
โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกาตรและสหกรณ์ ร่วมบูรณาการ ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเกษตรกรรม กรมวิชาการเกษตร สำนักปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ทำหน้าที่ติดตามประเมินผลโครงการฯ โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา โครงการประสบความสำเร็จ ซึ่งภาพรวมสามารถถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกร จำนวน 3,150 ราย เกษตรกรร้อยละ 92.06 มีรายได้เพิ่มขึ้น และมูลค่าของสินค้าเกษตรชีวภาพภายในโครงการเพิ่มขึ้น ร้อยละ 38.88 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของแผนแม่บทย่อยเกษตรชีวภาพ ที่กำหนดให้สินค้าเกษตรชีวภาพมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โครงการได้ขับเคลื่อนต่อเนื่อง โดยกำหนดเป้าหมายการอบรมพัฒนาศักยภาพเกษตรกร 4,850 ราย โดยผลสำเร็จการดำเนินงาน (ตุลาคม 2567 - พฤษภาคม 2568) ในส่วนของการดำเนินงานของกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งดำเนินการพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรผู้ผลิตสมุนไพรและแมลงเศรษฐกิจจำนวน 1,810 ราย พบว่า ขณะนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินการพัฒนาความรู้และทักษะของเกษตรกรในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสมุนไพรและแมลงเศรษฐกิจ ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแล้วจำนวน 1,810 ราย ครบตามเป้าหมาย 57 จังหวัด
นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่ของ สศก. โดย ศูนย์ประเมินผล ณ พื้นที่จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 12 - 17 พฤษภาคม 2568 โดยติดตามผลการดำเนินโครงการของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปบ้านหนองแซง อำเภอบ้านแฮด ปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มฯ จำนวน 30 ราย มีนางมณีจันทร์ โยธาทูน เป็นประธานกลุ่ม เกษตรกรเริ่มปลูกพืชสมุนไพรเป็นปีแรก เช่น ไพล ขิง ข่า ตะไคร้ เป็นต้น โดยโครงการได้เข้ามาส่งเสริมองค์ความรู้ครอบคลุมครบทุกด้าน ทั้งด้านการผลิต การปลูก การดูแลรักษาแปลง การป้องกัน การกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชในการผลิตสมุนไพร ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายผลผลิตเฉลี่ย 3,051 บาทต่อครัวเรือนต่อปี
กลุ่มเลี้ยงจิ้งหรีด อำเภอหนองสองห้อง มีสมาชิก 14 ราย มีนางสุภี ช่างทำ เป็นประธานกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีดซึ่งกลุ่มจัดตั้งขึ้นและเริ่มเลี้ยงจิ้งหรีดเป็นปีแรก จากการเข้าร่วมโครงการ เกษตรกรเริ่มเลี้ยงจิ้งหรีดสายพันธุ์ทองดำ และทองแดง โดยโครงการได้เข้ามาส่งเสริมด้านการจัดการฟาร์ม การดูแล การให้อาหาร การป้องกันและกำจัดศัตรูในการเลี้ยงจิ้งหรีด ส่งผลเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายผลผลิตเฉลี่ย 2,771 บาทต่อครัวเรือนต่อปี
ภาพรวมเกษตรกรทั้ง 2 กลุ่ม ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา จะเห็นได้ว่าหลังเข้าร่วมโครงการฯ ช่วยเกษตรกร มีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งเกษตรกรทุกรายนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ มีการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตการตลาด กับแหล่งรับซื้อผลผลิตในพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย อาทิ โรงพยาบาลสิรินธร โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองแซง พ่อค้าภายในชุมชน เป็นต้น
ทั้งนี้ ระหว่างเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2568 สศก. โดยศูนย์ประเมินผล มีแผนติดตามโครงการฯ ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี ลำปาง สุโขทัย และพิษณุโลก อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการติดตามผลการดำเนินโครงการเพิ่มเติม ในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้โครงการฯ อาทิ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเกษตรกรรม ซึ่งดำเนินการในส่วนของการสนับสนุนโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ และฝึกอบรมหลักสูตรการแปรรูป สมุนไพรด้วยโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ ติดตามในส่วนของกรมวิชาการเกษตร ด้านการจัดทำแปลงต้นแบบเทคโนโลยีการผลิตพืชสมุนไพรท้องถิ่น และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบจากพืชสมุนไพรท้องถิ่น รวมทั้งติดตามผลในส่วนของสำนักปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้านการผลิตวัตถุดิบสมุนไพรที่มีคุณภาพเพื่อเข้าสู่มาตรฐาน และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในส่วนของการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการผลิตพืชสมุนไพรมีคุณภาพตามมาตรฐาน GAP อินทรีย์ หรือมาตรฐานอื่น ๆ ตลอดจนการลดต้นทุนพืชสมุนไพรทั้งระบบ โดย สศก. จะได้รายงานผลลัพธ์จากการดำเนินโครงการให้ทราบในโอกาสต่อไป