PPS เคาะราคา IPO 0.70 บาท เปิดจอง 17-19 ก.ย.นี้ เข้าซื้อขายในตลาดเอ็มเอไอวันแรก 26 ก.ย.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 17, 2012 10:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ก.ย.--WorkLink PPS เคาะราคา IPO 0.70 บาท เปิดจอง 17-19 ก.ย.นี้ เข้าซื้อขายในตลาดเอ็มเอไอวันแรก 26 ก.ย. ประกาศลุยขยายงานวิศวกรที่ปรึกษา พร้อมขยายงานออกแบบ รักษาอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี APM ที่ปรึกษาการเงินระบุ ธุรกิจน่าสนใจลงทุน ภาคก่อสร้างขยายตัวต่อเนื่อง งานรัฐเอกชนรุมจีบ แถมมีโอกาสเปิดตลาดโครงการขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ด้าน บมจ.ฟินันเซีย ไซรัส แกนนำการจำหน่ายหุ้น มั่นใจ IPO กระแสตอบรับดี นายสัมพันธ์ หงษ์จินตกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)(PPS) ผู้นำในธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาและบริหารจัดการงานก่อสร้าง ที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 25 ปี เปิดเผยว่า บริษัทจะทำการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ในราคาหุ้นละ 0.70 บาท โดยจะทำการเสนอขายในระหว่างวันที่ 17 — 19 กันยายนนี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอในวันที่ 26 กันยายน 2555 สำหรับการระดมทุนในครั้งนี้ PPS จะนำเงินไปใช้ลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพการรับงานที่ปรึกษาด้านการบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้าง ขยายงานออกแบบด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม รวมทั้งนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานโครงการต่างๆ ที่มีจำนวนมากขึ้น และมีขนาดของโครงการที่ใหญ่ขึ้น “การระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอของบริษัท นอกจากจะเป็นการเสริมศักยภาพทางธุรกิจให้มีโอกาสในการเติบโตมากยิ่งขึ้นแล้ว บริษัทยังมีวัตถุประสงค์ที่จะตอกย้ำความน่าเชื่อถือด้านการบริหารงานอย่างมืออาชีพ เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจ การร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมของบริษัทรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 ด้วยเช่นกัน”นายสัมพันธ์ กล่าว ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างน้อย 10% โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 133.03 ล้านบาท และมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ วันที่ 30 มิ.ย. 55 อยู่ที่ 432.08 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่างานที่จะรับรู้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 ประมาณ 124.29 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายรักษาอัตราการเติบโตเฉลี่ยให้อยู่ที่ประมาณ 10% ต่อปี นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทโปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาด้านการบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้างถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีความน่าสนใจลงทุน เนื่องจากในปัจจุบันธุรกิจมีแนวโน้มการขยายตัวอยู่ในระดับสูง ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชน ผนวกกับความต้องการของเจ้าของโครงการที่ต้องการให้การก่อสร้างโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตรงเวลา เกิดต้นทุนที่คุ้มค่า และไม่ก่อให้เกิดการเสียโอกาสทางธุรกิจในด้านอื่นๆติดตามมา ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ PPS มีโอกาสในการรับงานบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้างรูปแบบต่างๆได้อีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้การที่บริษัทมีระบบการดำเนินงานที่มีมาตรฐานเชื่อถือได้ มีความเชี่ยวชาญการบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้างอย่างครบวงจรมากว่า 25 ปี และยังเป็นโอกาสที่สำคัญในการต่อยอดธุรกิจกับพันธมิตรในต่างประเทศ เพื่อขยายบริการทั้งในด้านของบริหารจัดการงานก่อสร้าง และงานออกแบบด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานโครงการต่างๆที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีการขยายตัวของการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) แกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น เปิดเผยว่า ราคาหุ้น PPS ที่เสนอขายให้กับนักลงทุนถือเป็นราคาที่มีความน่าสนใจ เมื่อเปรียบเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัท ซึ่งเชื่อว่าการเปิดจองหุ้น IPO ในระหว่างวันที่ 17-19 กันยายนนี้ จะได้รับความสนใจและมีกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากนักลงทุน ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้น IPO ของ PPS มีผู้จัดจำหน่ายร่วม ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)และ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) อนึ่ง PPS ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.25 บาทต่อหุ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 100 ล้านบาท ทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 70 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ