กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,770 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,774 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.66 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,650 บาท กับ 25,750 บาท และกลับมาปิดที่ 25,650 บาท กับ 25,750 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 9,779 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 19,605 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 67 คู่สัญญา OpenInterest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 21% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 16.6% Silver Futures เพิ่มขึ้น 14.1% GFV12 ปิด 25,930 บาท และ GFZ12 ปิด 26,060 บาท GF10V12 ปิดที่ 25,930 บาท GF10Z12 ปิดที่ 26,070 บาท SVV12 ปิดที่ 1,040
สัญญา Comex ปิดลดลง 5.10 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,775.7 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 55.5 เซนต์ ปิดที่ระดับ 34.02 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,340.52 ตัน (ซื้อเข้า 7.08 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 55 เซนต์ ปิดที่ระดับ 89.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลดลง 26.50 จุด ปิดที่ระดับ 13,583.65 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk, Reuters, Infoquest, ForexCrunch และ CNBC
- ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ ในขณะที่นักลงทุนในตลาดยังคงรับข่าวตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวันศุกร์ของสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาดซึ่งเป็นผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 5.1 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,775.70 เหรียญ/ออนซ์
- กองทุน Gold ETFs ยังคงได้รับความสนใจ ซึ่งมีการถือครองทองคำที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มการถือครองทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอีก 1.43 ตันสู่ระดับ 2,583.71 ตัน ซึ่งคอมเมิร์ซแบงก์ระบุว่า ครึ่งหนึ่งของเหมืองทองทั่วโลกในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ถูกรับเอาไว้จากกองทุน ETFs
- ในขณะที่การถือครองทองคำของกองทุน ETPs แตะระดับสูงสุดใหม่ที่ระดับ 74.725 ล้านออนซ์เมื่อวันศุกร์ โดยเพิ่มขึ้นสุทธิ 5.7 ล้านออนซ์ ซึ่งกองทุน ETPs ณ ขณะนี้มีทองคำมากกว่าระดับการสำรองของสวิสเซอร์แลนด์และจีนรวมกัน ซึ่งอาจถูกจัดให้อยู่อันดับ 6 ของผู้สำรองทองคำแท่งรองจากฝรั่งเศส
- ตลาดจีนกลับมาเปิดอีกครั้งเมื่อวานนี้หลังจากการหยุดยาวในวันชาติ ในขณะที่ธนาคารสหรัฐหยุดทำการเนื่องในวันโคลัมบัส โดยธนาคารและตลาดพันธบัตรต่างๆ ปิดทำการ แม้ว่าตลาดหุ้นหลักๆ ยังคงเปิด ซึ่งเมื่อวานนี้ก็เป็นวันหยุดของญี่ปุ่นเช่นกัน
- CFTC กล่าวในรายงานว่า การเก็งกำไรในสถานะ Long Position สุทธิเพิ่มขึ้นเพียง 17.1 ตันในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ตุลาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นช้ากว่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านที่มีการเพิ่มการลงทุนในสถานะ Long Position 42.9 ตัน และ 55.8 ตันตามลำดับ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเพิ่มการลงทุนในสถานะ Long Position ใหม่ 23.4 ตัน แม้ว่าบางส่วนจะถูกชดเชยโดยการเพิ่มในสถานะ Short จำนวน 6.3 ตัน และนี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ที่สถานะ Shorts เพิ่มขึ้น
- เมื่อวานนี้มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งยุโรป ได้แก่ Trade Balance ของเยอรมนีออกมาดีกว่าที่คาดที่ 1.83 หมื่นล้านยูโร ซึ่งคาดไว้แค่ 1.58 หมื่นล้านยูโร ในขณะที่ตัวเลข Sentix Investor Confidence ของยูโรโซนประจำเดือนตุลาคมออกมาที่ระดับติดลบ 22 ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ระดับติดลบ 20.6 แม้ว่าตัวเลขจะออกมาดีกว่าครั้งก่อนก็ตาม
- การประชุมยูโรกรุ๊ปที่เริ่มต้นในสัปดาห์นี้ที่กรุงลักเซมเบิร์ก ซึ่งมีการให้ความสนใจไปที่การมีผลกำหนดใช้ของกองทุน ESM และเนื้อหารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียกร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินของสเปน โดยก่อนการประชุมเมื่อวานนี้นายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รัฐมนตรีคลังของเยอรมนีกล่าวว่า ประเทศพันธมิตรของสเปนควรรับฟังและเชื่อใจในรัฐบาลสเปนที่ยืนยันหลายครั้งหลายหนว่าสเปนไม่จำเป็นต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน สำหรับกรีซนั้น รมว.คลังเยอรมนีกล่าวว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับกรีซ เพราะถึงอย่างไรเสีย ยูโรโซนก็ต้องรอรายงานจากกลุ่มทรอยก้า ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป ธนาคารกลางยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ นอกจากนี้ นายชอยเบิลยังกล่าวถึงการเดินทางเยือนกรีซของนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีในวันอังคารนี้ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยกรีซพัฒนาเศรษฐกิจให้สามารถแข่งขันได้ และเพื่อบอกเล่าประสบการณ์ของเยอรมนีเพื่อช่วยให้กรีซผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากไปได้
- เมื่อวานนี้มีการโต้วาทีกันอย่างละเอียดรอบคอบและแข็งแกร่งระหว่างกลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซนและไอเอ็มเอฟ ซึ่งเป็นการโต้วาทีเกี่ยวกับปัญหาของกรีซ แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในความคืบหน้าว่าจะมีการตัดสินใจอย่างไรเพื่อดึงกรีซกลับมาสู่ภาวะปกติด้วยแผนการช่วยเหลือกรีซ ในขณะที่สเปนเองก็ยังไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ แม้ว่านักลงทุนในตลาดยังคงเชื่อว่าเป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่สเปนจะร้องขอความช่วยเหลือ
- ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และภูมิภาคแปซิฟิก รวมถึงจีน และระบุว่า มีความเสี่ยงที่จีนอาจมีเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงกว่าที่นักวิเคราะห์หลารายคาดการณ์ไว้
ในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่มีการปรับตัวลดลงติดต่อกัน 2 วันทำการ แต่การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์อันเนื่องมาจากความกังวลในวิกฤตหนี้ยูโรโซนยังคงกดดันราคาทองคำ
- ในวันนี้เวลา 14.30 น. นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีมีกำหนดการทำ Testimony ต่อผู้กำหนดกฎหมายของยุโรปก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและการเงินที่กรุงบรัสเซลส์ โดยไม่ว่าอะไรก็ตามที่เขาจะพูดเกี่ยวกับสเปนจะเป็นสิ่งที่ตลาดให้ความสนใจในขณะนี้ นอกจากนี้นางอังเกลา แมร์เคล นายกฯ เยอรมนี และนายแอนโทนิส ซามาราส นายกฯ กรีซมีกำหนดการหารือกันเกี่ยวกับการผ่อนคลายความตึงเครียด ซึ่งการแถลงการณ์ร่วมของทั้งสองจะถูกจับตา
- นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานยูโรกรุ๊ป เปิดเผยว่ายูโรโซนได้เปิดตัวกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือถาวรของภูมิภาค เมื่อวานนี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์โดยรวมในการสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับความมีเสถียรภาพทางการเงินในยูโรโซน โดยกองทุน ESM ซึ่งมีวงเงิน 5 แสนล้านยูโร (ราว 6.53 แสนล้านดอลลาร์) มีวัตถุประสงค์ในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศสมาชิกยูโรโซนที่ประสบปัญหา หากประเทศดังกล่าวดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้างและทางการคลังอย่างเข้มงวด ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
- มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศให้อันดับความน่าเชื่อถือกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือถาวรของภูมิภาค ที่ระดับ Aaa โดยมีแนวโน้ม "เชิงลบ"
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันจันทร์
- ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- ECOFIN Meetings
- ECB President Draghi Speaks
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังทรงตัวตลอดการซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อวานนี้ โดยค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นช้าๆ ในปลายตลาดลอนดอน ทำให้ราคาทองคำสามารถกลับมายืนเหนือระดับ 1,770 เหรียญได้ และเช้านี้กลับมายืนบริเวณ 1,778 เหรียญ ค่าเงินบาทเมื่อวานกลับมาอ่อนค่าลงมาทดสอบระดับ 30.67 บาท/ดอลลาร์ และเช้านี้ก็กลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 30.63 บาท/ดอลลาร์ โดยภาพรวม ราคาทองคำยังมีการซื้อเข้าต่อเนื่องจากกองทุน SPDR โดยเมื่อวานซื้อเพิ่มอีก 7.04 ตัน ถือครองทองคำที่ระดับ 1,340.52 ตัน ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงที่สุดในรอบปีที่ผ่าน และกองทุน ETFs ถือครองทองคำที่ระดับ 2,583.71 ตัน โดยราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นและมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,790 เหรียญ ยังแนะนำให้นักลงทุนทยอยเข้าช้อนซื่อเมื่อราคาอ่อนตัว และปรับ Portfolio เป็น Long Position สำหรับใน Gold Futures เองถ้ามีลักษณะของการผิดเพี้ยนของราคาใน Series Z และ Series V ก็แนะนำให้ไปทำ Spread Trading ระหว่าง 2 Series ได้ ฉะนั้นโดยภาพรวมยังมองแนวโน้มของทองคำเป็นทิศทางขาขึ้น ในขณะที่ภาพรวมทองคำในรูปของเงินบาทอาจจะขยับตัวไม่ได้มากนัก เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,930 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,130 บาท
Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 26,060 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,260 บาท
Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,040 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,070 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัว 1,770-1,785 เหรียญ ยังเป็นการเข้าซื้อและเก็งกำไรในวัน
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
เข้าซื้อเก็บเมื่อราคาอ่อนตัว ถือครองพอร์ทอยู่ที่ 40 %
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
น่าจะเข้าช้อนซื้อเก็บเช่นเดียวกัน ปรับพอร์ทเป็น 40%
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง