ทส. ลดค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล บรรเทาภาระค่าใช้น้ำของประชาชนและภาคอุตสาหกรรม

ข่าวทั่วไป Monday November 26, 2012 09:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 พ.ย.--กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมออกกฎกระทรวง ลดอัตราค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลเหลืออัตราลูกบาศก์เมตรละ 4.50 บาท พร้อมปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเรียกเก็บค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล และยกเว้น ค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลสำหรับการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การใช้น้ำเพื่อการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์ เพื่อช่วยบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนและภาคอุตสาหกรรม มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 สืบเนื่องจากที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ทำหน้าที่กำกับดูแลการใช้น้ำบาดาลในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่วิกฤตการณ์น้ำบาดาล 7 จังหวัดที่มีการสูบใช้ น้ำบาดาลขึ้นมาใช้ในปริมาณที่มากเกินกว่าปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่ชั้นน้ำบาดาล ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม ทำให้เกิดการลดระดับลงของชั้นน้ำบาดาล เกิดการทรุดตัวของแผ่นดิน หรือมีการแพร่กระจายของน้ำเค็มเข้าสู่ชั้นน้ำบาดาลในบริเวณชายฝั่งทะเล จึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขวิกฤตการณ์น้ำบาดาลและการทรุดตัวของแผ่นดิน ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากการใช้น้ำบาดาลเกินสมดุล โดยหนึ่งในกลไกมาตรการทางเศรษฐศาสตร์ คือ การจัดเก็บ "ค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล" ซึ่งเริ่มมีการเก็บตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2547 ในอัตราลูกบาศก์เมตรละ 1 บาท และทยอยขึ้นในอัตราก้าวหน้าทุกไตรมาส จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2549 เป็นต้นมา จึงจัดเก็บเต็มในอัตรา 8.50 บาท ต่อลูกบาศก์เมตร และเมื่อรวมค่าใช้น้ำบาดาล อีก 8.50 บาทต่อลูกบาศก์เมตร เท่ากับผู้ใช้น้ำบาดาลในพื้นที่วิกฤตการณ์น้ำบาดาลทั้ง 7 จังหวัด ต้องจ่ายค่าน้ำรวมทั้งสิ้น 17 บาทต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งราคาดังกล่าวนับว่าสูงพอสมควร ทำให้มีการใช้น้ำบาดาลเฉพาะผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้เท่านั้น จนทำให้ปริมาณการใช้น้ำบาดาลในแต่ละพื้นที่ลดลงสู่ภาวะคืนสมดุลธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันพบว่าปริมาณการใช้น้ำบาดาลโดยรวมลดลงทั้ง 7 จังหวัด ซึ่งจากเดิมมีปริมาณการใช้น้ำสูงเกือบ 2 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ลดลงเหลือประมาณ 2.4 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน อนึ่ง ด้วยสถานการณ์น้ำบาดาลที่เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น และเพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระ ค่าใช้น้ำบาดาลให้แก่ประชาชนและภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้น้ำบาดาล ไม่ว่าเพื่อการอุปโภคบริโภค การเกษตร และอุตสาหกรรม ดังนั้น นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยคำแนะนำของคณะกรรมการน้ำบาดาล จึงได้ออกกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการเรียกเก็บค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2555 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำบาดาลที่เปลี่ยนไป โดยมีสาระสำคัญ คือ การยกเลิกอัตราค่าอนุรักษ์น้ำบาดาลเดิมจาก 8.50 บาทต่อลูกบาศก์เมตร โดยกำหนดอัตราใหม่ คือ 4.50 บาทต่อลูกบาศก์เมตร และกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลได้รับยกเว้นค่าอนุรักษ์น้ำบาดาล กรณีใช้น้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค (ไม่รวมถึงการใช้น้ำบาดาลของโรงงานอุตสาหกรรม) การใช้น้ำบาดาลเพื่อการเพาะปลูก และการใช้น้ำบาดาลเพื่อการเลี้ยงสัตว์ (เฉพาะในส่วน ไม่เกินวันละ 50 ลูกบาศก์เมตร) หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักควบคุมกิจการน้ำบาดาล โทร. 0 2793 1090 หรือ 0 2793 1083

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ