ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกมองตลาดหุ้นน่าลงทุนในไตรมาส 1/56 ผู้จัดการกองทุน 3 ใน 4 รายเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 21, 2013 11:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ธนาคารเอชเอสบีซี ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกมองตลาดหุ้นน่าลงทุนในไตรมาส 1/56 ผู้จัดการกองทุน 3 ใน 4 รายเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้น ภาพรวมหุ้นสหรัฐ หุ้นเอเชียยกเว้นญี่ปุ่น และหุ้นในกลุ่มประเทศจีนสดใส ธนาคารเอชเอสบีซี เผยผลสำรวจความเห็นของผู้จัดการกองทุนทั่วโลกล่าสุด พบว่า ในไตรมาส 1/56 ร้อยละ 75 ของผู้จัดการกองทุนทั่วโลกเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น จากร้อยละ 40 ในไตรมาส 4/55 ขณะที่ร้อยละ 25 ยังมองเป็นกลาง เทียบกับร้อยละ 50 ในไตรมาส 4/55 และไม่มีรายใดเลยที่ปรับลดน้ำหนักลงทุนในหุ้น ผู้จัดการกองทุนเกิน 6 ใน 10 รายลดน้ำหนักการถือครองเงินสด เทียบกับร้อยละ 30 ในไตรมาส 4/55 ขณะที่มีผู้จัดการกองทุนเกิน 1 ใน 3 ที่ปรับลดน้ำหนักลงทุนในพันธบัตร เทียบกับร้อยละ 20 ในไตรมาส 4/55 และไม่มีรายใดเลยที่เห็นว่าการลงทุนในพันธบัตรมีแนวโน้มที่สดใสหรือให้ถือครองเงินสดในไตรมาส 1/56 นายวินีต โวฮ์รา ผู้อำนวยการบริหารระดับภูมิภาค ฝ่ายการพัฒนาความมั่งคั่ง ธนาคารเอชเอสบีซี ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า “ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกที่ไม่ต้องการถือครองเงินสดในไตรมาสนี้ ย้ำถึงโอกาสการลงทุนที่มีศักยภาพในตลาด โดยกำลังมองหาลู่ทางลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้บางแห่งที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า โดยพิจารณาถึงปัจจัยด้านราคาและข้อมูลเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นของสหรัฐและจีนเป็นหลัก” ในไตรมาส 1/56 ร้อยละ 75 ของผู้จัดการกองทุนให้น้ำหนักลงทุนในหุ้นอเมริกาเหนือ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 60 ของไตรมาส 4/55 เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้น และพบว่ามีผู้จัดการกองทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นเอเชีย แปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น (ร้อยละ 43 ในไตรมาส 1/56 เทียบกับร้อยละ 33 ในไตรมาส 4/55) และสนใจลงทุนในหุ้นกลุ่มประเทศจีนเพิ่มขึ้นเช่นกัน (ร้อยละ 50 ในไตรมาส 1/56 เทียบกับร้อยละ 43 ในไตรมาส 4/55) นายวินีต กล่าวต่อว่า “ผลสำรวจได้ชี้ให้เห็นถึงภูมิภาคที่ยังคงมีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจจีนที่ถึงจุดต่ำสุดแล้ว กำลังสะท้อนถึงโอกาสในการปรับตัวขึ้นของหุ้นในอเมริกาเหนือและในกลุ่มประเทศจีน” ในด้านการลงทุนในพันธบัตร พบว่า ผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่ยังให้ความสนใจลงทุนในพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูง และพันธบัตรของตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมองหาผลตอบแทนที่ดีในภาวะที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์การจัดสรรเงินลงทุน ลดน้ำหนักการลงทุน(Underweight) คงน้ำหนักการลงทุน เพิ่มน้ำหนักการลงทุน(Overweight) (Neutral) ไตรมาส 1/56 ไตรมาส 4/55 ไตรมาส 1/56 ไตรมาส 4/55 ไตรมาส 1/56 ไตรมาส 4/55 หุ้น 0% 10% 25% 50% 75% 40% -หุ้นอเมริกาเหนือ 25% 30% 0% 10% 75% 60% -หุ้นยุโรป 25% 30% 25% 30% 50% 40% (ยกเว้นสหราชอาณาจักร) -หุ้นเอเชีย แปซิฟิก 0% 11% 57% 56% 43% 33% ยกเว้นญี่ปุ่น -หุ้นตลาดเกิดใหม่ 14% 20% 57% 50% 29% 30% -หุ้นกลุ่มประเทศจีน 0% 0% 50% 57% 50% 43% พันธบัตร 38% 20% 63% 60% 0% 20% -พันธบัตรตลาดเกิดใหม่ 0% 0% 38% 30% 63% 70% -พันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูง 0% 0% 29% 10% 71% 90% เงินสด 63% 30% 38% 60% 0% 10% การเคลื่อนย้ายเงินลงทุนทั่วโลกในไตรมาส 3/55 ปริมาณเงินลงทุนภายใต้การบริหารจัดการ (fund under management) ของบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำของโลกจำนวน 10 แห่ง ที่ร่วมในการสำรวจ ณ สิ้นไตรมาส 3/55 มีมูลค่าทั้งสิ้น 3.87 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 จากไตรมาสที่แล้ว ผลการสำรวจ พบว่า ในไตรมาส 3/55 กองทุนหุ้นมีเงินทุนไหลออกสุทธิ 13.2 พันล้านเหรียญสหรัฐนับเป็นไตรมาสที่ 9 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบาง นอกจากนี้ จากการที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยง การลงทุนในตราสารหนี้จึงได้รับความสนใจมากขึ้น ทำให้กองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรมีเงินไหลเข้าสุทธิ 33.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไหลเข้าลงทุนในพันธบัตรทั่วโลก และพันธบัตรในตลาดเกิดใหม่/พันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูง กระแสเงินลงทุนสุทธิ (เทียบเป็นร้อยละของปริมาณเงินลงทุนภายใต้การบริหารจัดการของผู้จัดการกองทุนที่ร่วมทำการสำรวจ) ประเภทสินทรัพย์ที่ลงทุน สิ้นไตรมาส3/55 สิ้นไตรมาส2/55 พันธบัตรตลาดเกิดใหม่/พันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูง(Emerging markets/High yield bonds) +5.3% +2.0% พันธบัตรทั่วโลก(Global bonds) +4.0% -5.2% พันธบัตรเอเชีย(Asian bonds) +2.7% -0.5% หุ้นตลาดเกิดใหม่(Emerging markets equities) +1.8% -1.3% หุ้นยุโรป รวมสหราชอาณาจักร(Europe including UK equities) +0.9% +0.8% พันธบัตรอเมริกา(US bonds) -0.2% -2.3% หุ้นอเมริกาเหนือ(North American equities) -1.1% -1.5% หุ้นญี่ปุ่น(Japan equities) -1.9% -2.0% หุ้นทั่วโลก(Global equities) -4.0% -4.3% หุ้นกลุ่มประเทศจีน(Greater China equities) -5.2% -1.3% หุ้นเอเชีย แปซิฟิก ไม่รวมญี่ปุ่น(Asia-Pacific ex-Japan equities) -6.4% -6.6% พันธบัตรยุโรป รวมสหราชอาณาจักร(Europe including UK bonds) -9.2% -7.9% ผลการดำเนินงานของตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร ในไตรมาส 3/55 เทียบกับไตรมาส 2/55 ตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นทุกแห่ง ยกเว้นหุ้นญี่ปุ่นให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นในไตรมาส 3/55 โดยหุ้นเอเชีย แปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) โดดเด่นที่สุด โดยให้ผลตอบแทนร้อยละ 9.6 รองลงมา คือ หุ้นยุโรป (รวมสหราชอาณาจักร) ร้อยละ 8.7 และหุ้นตลาดเกิดใหม่ ร้อยละ 7.7 ส่วนตลาดตราสารหนี้ พบว่า พันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูงให้ผลตอบแทนร้อยละ 6.2 และพันธบัตรตลาดเกิดใหม่ให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วรนันท์ สุทธปรีดา, สาวิตรี หมวดเมือง โทรศัพท์ 02-614-4609, 02-614-4606

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ