ทริสเรทติ้งห่วงปัญหาการเมืองกระทบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 24, 2014 15:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--ทริสเรทติ้ง สันติ กีระนันทน์ ประธาน บริษัท ทริสเรทติ้ง แสดงความคิดเห็นในวันนี้ว่า หากเกิดความไม่สงบทางการเมืองอย่างยาวนานจะส่งผลในเชิงลบต่อผลประกอบการของกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ในวันที่ 22 มกราคม 2557 รัฐบาลประกาศใช้ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก. ฉุกเฉิน) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่โดยรอบ เพื่อรับมือกับสถานการณ์การประท้วงทางการเมืองที่เริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2556 การประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ได้เพิ่มความกังวลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออก ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 60 % ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้าประเทศไทย ปัจจุบันมากกว่า 40 ประเทศที่ได้ออกประกาศเตือนประชาชนของประเทศตนที่จะเดินทางมาประเทศไทย อย่างไรก็ดี ดร. สันติ ได้กล่าวว่า จากประสบการณ์ในอดีตพบว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว หลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่ปกติ และวิกฤติการณ์ต่าง ๆ เช่น การปฏิวัติรัฐประหารในปี 2549 ความไม่สงบทางการเมืองช่วงปี 2551-2553 และวิกฤติอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 โดยอัตราการเข้าพักโรงแรมทั้งประเทศลดลงอยู่ที่ระดับ 50% ช่วงปี 2552-2553 แต่ฟื้นตัวกลับเป็นระดับปกติประมาณ 60% ในปี 2555-2556 จำนวนนักท่องเที่ยวตางชาติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 14-15 ล้านคนต่อปี ในช่วง 2550-2553 เป็น 19.2 ล้านคนในปี 2554 และมากกว่า 22 ล้านคนในปี 2555 และ 2556 ดร. สันติกล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากการประท้วงทางการเมืองในปัจจุบันเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นหลัก ดังนั้น ผู้ประกอบการโรงแรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือผู้ที่มีรายได้หลักจากโรงแรมที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมในกรุงเทพมหานครจะลดลง 30%-40% ในไตรมาสแรกของปี 2557 ปัจจุบันทริสเรทติ้งมีการจัดอันดับเครดิตให้กับผู้ประกอบการโรงแรม 3 ราย คือ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) (CENTEL) บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) (DTC) และ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) ภายใต้ภาวะการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน DTC น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากโรงแรมของ DTC ในกรุงเทพมหานครสร้างรายได้ประมาณ 22% ของรายได้รวม ตามมาด้วย CENTEL (15%) และ MINT (7%) อย่างไรก็ตาม การชุมนุมประท้วงที่ยาวนานจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการโรงแรมทั้งหมดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ธุรกิจสายการบินเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมือง โดยอัตราการขนส่งผู้โดยสารของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) มักปรับตัวลดลงในช่วงที่เกิดความวุ่นวายทางการเมือง ตัวอย่างเช่น อัตราการขนส่งผู้โดยสารปรับตัวลดลงจาก 76% ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2551 สู่ระดับประมาณ 66% ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 และ 2553 แต่ปรับตัวเพิ่มสู่ระดับประมาณ 70%-75% ในปี 2555 และ 2556 การออกประกาศคำแนะนำนักท่องเที่ยวให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมาประเทศไทยในหลายประเทศคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินการของบริษัทในปีนี้ นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทยังคงได้รับการกดดันจากต้นทุนที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับต้นทุนเชื้อเพลิงที่อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับภาพรวมอุตสาหกรรม ในมุมมองของทริสเรทติ้ง หากความขัดแย้งทางการเมืองสามารถแก้ไขได้ภายช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 ผลกระทบต่ออันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครติตของผู้ประกอบการที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากทริสเรทติ้งจะมีไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งจะติดตามสถานการณ์ทางการเมืองและประเมินผลกระทบต่อผลประกอบการของผู้ประกอบการแต่ละรายอย่างไกล้ชิด ปัจจุบัน อันดับเครดิตของลูกค้าของทริสเรทติ้งในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยอันดับเครดิตของบริษัทโรงแรมเซ็นทรัลพลาซาอยู่ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” บริษัทดุสิตธานีอยู่ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลอยู่ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” และบริษัทการบินไทยอยู่ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” อันดับเครดิตในปัจจุบันของลูกค้าของทริสเรทติ้งในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและสายการบิน 1. บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) (CENTEL) อันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้: A/Stable 2. บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) (DTC) อันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้: BBB+/Stable 3. บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) อันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้: A/Stable 4. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) อันดับเครดิตองค์กรและตราสารหนี้: A+/Negative บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ