“SUTHA” เคาะราคาไอพีโอ 3.70 บาท/หุ้น เสนอขาย 26-28 มี.ค. เทรดใน SET 3 เม.ย.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 21, 2014 16:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--IRPLUS “SUTHA” กำหนดราคาขายหุ้น IPO ที่ 3.70 บาท/หุ้น ระดมทุนกว่า 277.5 ล้านบาท มั่นใจหุ้นจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนล้น “เชิดเกียรติ มนต์เสรีนุสรณ์” ประธานกรรมการ เผยหุ้นที่เสนอขายเพียง 75 ล้านหุ้น บวกกับราคาดึงดูดนักลงทุนและหวังเป็นหนึ่งในหุ้นที่เติบโตและจ่ายปันผลสม่ำเสมอ จากนโยบายปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ ชี้เงินที่ได้จากการระดมทุน เพื่อลงทุนขยายธุรกิจแถมหาโอกาสลงทุนร่วมพันธมิตรเพิ่ม โดยเฉพาะในต่างประเทศ ช่วงปลายปี 56 เราได้ร่วมทุนผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อินโดนีเซีย ด้าน “ชัยภัทร ศรีวิสารวาจา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เคที ซีมิโก้ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เชื่อว่า SUTHA ในฐานะบริษัทปูนขาวรายแรกที่จะจดทะเบียนใน SET เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานที่ดีและมีการเติบโตของธุรกิจที่ต่อเนื่องทั้งในไทยและอาเซียน อีกทั้งยังเชื่อว่าราคาที่กำหนดจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุน บวกกับการกำหนดราคา 3.70 บาท/หุ้น จูงใจนักลงทุน เหตุให้ส่วนลดมากกว่า 20 % จากราคาเป้าหมาย พร้อมเสนอขาย 26-28 มีนาคม ผ่าน บล.เคที ซีมิโก้ บล. เอเซีย พลัส และบล.ฟินันเซีย ไซรัส นายเชิดเกียรติ มนต์เสรีนุสรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท สุธากัญจน์ จํากัด (มหาชน) หรือ SUTHAผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า ปูนขาวร้อน (Quicklime) รายใหญ่ของประเทศและมีประสบการณ์มากว่า 10 ปี รวมทั้งแคลเซียมคาร์บอเนต ที่มีการใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมเหล็ก กระดาษ น้ำตาล เป็นต้น กล่าวว่า บริษัทฯ กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 75 ล้านหุ้น ที่ 3.70 บาทต่อหุ้น จากมูลค่าที่ตราไว้ 1 บาท รวมเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวน 277.5 ล้านบาท ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ โดยได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Lead Underwriter) พร้อมกับบริษัทหลักทรัพย์อีก 2 แห่งเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย(Co Underwriter) ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้จะจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 26-28 มีนาคม 2557 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ ในวันที่ 3 เมษายน 2557 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “SUTHA” ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเรียกชำระแล้ว 225 ล้านบาท และหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก 75 ล้านหุ้น จะมีทุนเรียกชำระแล้ว 300 ล้านบาท ขณะที่โครงสร้างการถือหุ้นภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯครอบครัวนายเกียรติกุล มนต์เสรีนุสรณ์ ยังคงสัดส่วนการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ร้อยละ 67.41 ประชาชนทั่วไปร้อยละ 25 ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนนำไปลงทุนขยายกิจการ ประกอบด้วย ขยายการผลิตแคลเซียมไฮดรอกไซด์, ลงทุนระบบและเครื่องบดถ่านหินชนิดระเหยง่าย, ลงทุนในกิจการที่เกี่ยวกับปูนขาว และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรวมทั้งคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน นอกจากนี้บริษัทฯ กำหนดนโยบายการจ่ายปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับโครงการลงทุนในอนาคตที่สำคัญ ประกอบด้วย 1. การขยายกำลังการผลิตแคลเซียมไฮดรอกไซด์ หรือปูนไฮเดรต บริษัทมีโครงการสร้างโรงบด และเครื่องบดแคลเซียมออกไซด์เพิ่มเติม จำนวน 2 เครื่อง และขยายกำลังการผลิตปูนไฮเดรต โดยติดตั้งเครื่องผลิตปูนไฮเดรตอีก 1 เครื่อง มูลค่าลงทุนรวมราว 80 ล้านบาท สามารถเพิ่มกำลังการผลิตปูนไฮเดรตจาก 61,300 ตันต่อปีได้เป็น 91,900 ตันต่อปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและติดตั้ง คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2557 2. ลงทุนระบบและเครื่องบดถ่านหินชนิดระเหยง่าย (High Volatile) ซึ่งบริษัทมีแผนลงทุนในระบบและเครื่องบดถ่านหิน ทั้งนี้ทางบริษัทประเมินมูลค่าการลงทุนของระบบและเครื่องบดใหม่ 70ล้านบาท ซึ่งเริ่มดำเนินการในช่วงปลายปี 2557 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2558 3. โครงการลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจปูนขาวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ในปี 2557-2558 ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการจดทะเบียนบริษัทร่วมทุน PT. Krakatua Golden Lime ซี่งบริษัทจะลงทุนประมาณ 10% (19.54 ล้านบาท) ร่วมกับบริษัทย่อยของผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของอินโดนีเซีย PT. Krakatau Steel 4. โครงการให้บริการจำหน่าย และติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์ในการผลิตปูนขาวบริษัทมีแผนจะใช้เงินทุนหมุนเวียนในการให้บริการจัดหาและติดตั้งเตาเผาปูนขาว อาทิเช่น การบริการจัดหา (sourcing) อุปกรณ์ส่วนประกอบของเตาเผา รวมถึงการทดสอบการทำงานของเตาเผาปูน (commissioning) เป็นต้น ซึ่งธุรกิจดังกล่าวนี้พัฒนาจากพื้นฐานความรู้ และประสบการณ์ของผู้บริหารในธุรกิจปูนขาว โดยดำเนินการผลิตได้ จะมีรายได้มูลค่าของสัญญาเป็นจำนวน 2.537 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีกำหนดการจัดส่งตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2556 และคาดว่าจะส่งมอบงานได้ทั้งหมดภายในปี 2558 ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังมีโอกาสเติบโตจากการขยายธุรกิจในและต่างประเทศโดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียนที่ยังเปิดกว้างในแง่ของคำสั่งซื้อและการร่วมลงทุนกับพันธมิตร หลังจากล่าสุดเมื่อปลายปี 2556 ที่บริษัทกำลังดำเนินการร่วมทุนกับ PT. Krakatau Industrial Estate Cilegon (“KIEC”) บริษัทย่อยของ PT. Krakatau Steel ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของอินโดนีเซีย ซึ่งทางบริษัทคาดว่ามีโอกาสที่จะเป็นผู้จัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตปูนขาวขนาด 150 ตัน/วัน จำนวน 3 เตา ให้กับบริษัทร่วมทุนเมื่อดำเนินการผลิต โดยผลิตภัณฑ์ปูนขาวส่วนใหญ่ คาดจะนำไปใช้ในโรงผลิตเหล็กในเครือของ PT. Krakatau Steel “ผมมั่นใจว่าหุ้น IPO ของ SUTHA จะได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนในการจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 26-28 มี.ค.นี้ เพราะบริษัทฯ เรามีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จากผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการทำกำไรที่สูง เนื่องจาก SUTHA เป็นหนึ่งในผู้นำของธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าปูนขาวรวมทั้งแคลเซียมคาร์บอเนต ที่มีการใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม มีประสบการณ์ยาวนาน รวมทั้งการบุกเบิกธุรกิจใหม่ในภูมิภาคอาเซียน ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้า ลูกค้า” นายเชิดเกียรติกล่าว ด้านนายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท สุธากัญจน์ จำกัด (มหาชน) หรือ SUTHA เปิดเผยว่า การกำหนดราคาหุ้นที่ 3.70 บาทต่อหุ้น โดยการกำหนดราคาดังกล่าวให้ส่วนลดมากกว่าร้อยละ 20 จากราคาเหมาะสมที่นักวิเคราะห์ให้ ซึ่งเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนรวม 277.5 ล้านบาท ด้วยทั้งพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท การเติบโตที่มั่นคงในอนาคต รวมถึงราคา IPO ที่กำหนดอย่างเหมาะสม จะสามารถดึงดูดความสนใจของนักลงทุนได้ ซึ่งขณะนี้ทางนักลงทุนสถาบันได้แสดงความประสงค์ที่จะจองซื้อหุ้นดังกล่าวเข้ามากับผู้จัดการการจัดจำหน่ายแล้ว “มั่นใจว่าหุ้น IPO ของ SUTHA จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน เนื่องด้วยเป็นหุ้นปูนขาวบริษัทแรก และมีโอกาสการเติบโตในไทยและภูมิภาคอาเซียน รวมถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ในขณะที่มีการกำหนดราคาที่เหมาะสม และเม็ดเงินระดมทุนที่ได้จำนวน 277.5 ล้านบาทใช้ในการลงทุนขยายธุรกิจ ซึ่งสร้างการเติบโตของรายได้ กำไรในอนาคต ของบริษัทในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า” นายชัยภัทรกล่าว สำหรับในปี 2556 บริษัทฯ มีรายได้รวม 857.14 ล้านบาท มีกำไรสุทธิที่ 100.88 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 11.77% โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2557 เติบโตร้อยละ12-15 ขณะเดียวกันกำไรสุทธิจะเติบโตจากปีก่อนด้วย ซึ่งสาเหตุหลักการเติบโตของรายได้ กำไร มาจากการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ