กรุงเทพฯ--31 มี.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,293 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,293 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 32.49 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,850 บาท กับ 19,950 บาท และกลับมาปิดที่ 19,850 บาท กับ 19,950 บาท
ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 744 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,586 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.77% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1%
GFJ14 ปิด 19,990 บาท และ GFM14 ปิด 20,050 บาท GF10J14 ปิดที่ 19,980 บาท GF10M13 ปิดที่ 20,040 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 0.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,294.3 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 8.2 เซ็นต์ ปิดที่ 19.79 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 816.97 ตัน (คงทองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 39 เซ็นต์ ปิดที่ 101.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 58.83 จุด ปิดที่ 16,323.06 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงประมาณ 100 เหรียญ/ออนซ์ จากที่ปรับตัวไปทำจุดสูงสุดในรอบ 6 เดือน จากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ รวมไปถึงการแถลงการณ์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดที่ระบุว่าอาจจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 1% หลังสิ้นสุด QE
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่า ราคาทองคำเข้าสู่ภาวะขาลง และราคาทองคำในตลาด COMEX ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้วทั้งสิ้น 43 เหรียญ/ออนซ์
นักวิเคราะห์ตลาดทองคำ กล่าวว่า พวกเขากำลังจับตาดูสัญญาณทางเทคนิค เพื่อประเมินว่าทองคำในสัปดาห์หน้าจะมีปัจจัยอะไรใหม่ๆเข้ามากระตุ้นปริมาณความต้องการทองคำหรือไม่
ผลสำรวจจาก Kitco ระบุว่า นักวิเคราะห์จำนวน 6 ราย มองว่าราคามีโอกาสจะปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ 12 รายมองว่าราคามีโอกาสปรับตัวลดลงต่อ และอีก 4 ราย คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวทิศทาง Sideways
จิม เวคคอฟ นักวิเคราะห์จาก Kitco ประเมินว่า เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนเมษายน ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง โดยเมื่อพิจารณาจากกราฟรายวันจะเห็นว่าราคาทองคำได้หลุดทิศทางขาขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม-เดือนมกราคมแล้ว
นอกจากนี้ เขายังระบุว่า หากราคาสามารถขึ้นไปยืนที่ระดับ 1,330 เหรียญได้ก็มีโอกาสที่จะกลับเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นอีกครั้ง แต่หากหลุดต่ำกว่าระดับ 1,288เหรียญ ก็อาจเห็นราคาทองคำกลับไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมในปีที่แล้วที่ระดับ 1,180 เหรียญ
เมื่อประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่จะประกาศสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์ กล่าวว่า พวกเขาจับตาไปยังการประชุมของอีซีบีในวันพฤหัสบดี และการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯในคืนวันศุกร์
เอเดล ทูลลี่ นักกลยุทธ์จาก UBS กล่าวว่า “ในการประชุมครั้งล่าสุดของเฟด ระบุว่าอาจจะใช้มาตรการแบบ Hawkish หรือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นเราจึงต้องจับตาไปยังข้อมูลตลาดแรงงานอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการที่เฟดส่งสัญญาณจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากการประชุมครั้งล่าสุดทำให้ทองคำปรับตัวลดลง ดังนั้นทองคำจึงน่าจะอ่อนไหวต่อข้อมูลแรงงานในสัปดาห์นี้อย่างมาก”
ขณะที่ นักวิเคราะห์จากสถาบันโนมูระ กล่าวว่า “ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯในสัปดาห์นี้มีความสำคัญกับตลาดมาก เนื่องจากจะเป็นตัวชี้วัดตลาด โดยการจ้างงานนอกภาคการเกษตรคาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 195,000 ตำแหน่ง จากเดิม 139,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราคนว่างงานคาดว่าจะปรับลดลงสู่ระดับ 6.6% จากเดิม 6.7%”
นาย ฟิลลิปส์ สเตรเบิล นักกลยุทธ์อาวุโสจาก RJO Futures ระบุว่า “สัญญาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ในยูเครนและรัสเซียที่คลี่คลายมากขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงจับตาไปยังการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด”
เควิน เกรดี้ ผู้บริหาร Phoenix Gold Futures and Options คาดการณ์ว่า กลุ่มผู้ซื้อทองคำจะกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้งเมื่อราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสถานการณ์ของทองคำขณะนี้เป็นลักษณะภาวะขาลง และหากราคาทองคำลงมาสู่ระดับแนวรับสำคัญบริเวณ 1,270 เหรียญ ก็มีโอกาสจะเกิดการรีบาวน์อีกครั้ง
ปริมาณความต้องการทองคำในจีนลดลง ตั้งแต่สิ้นสุดเทศการลตรุษจีน ซึ่งหากว่าราคาทองคำลดต่ำกว่าระดับ 1,300 เหรียญอีกครั้ง อาจส่งผลกระตุ้นให้ผู้บริโภคในจีนกลับมาซื้อทองคำเพิ่มขึ้นจากราคาที่ลดลง
SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 816.97 ตัน
ทำเนียบขาว รายงานว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย มีการโทรศัพท์ไปเจรจากับ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อหารือการแก้ไขปัญหาวิกฤตยูเครน
โดย นายโอบามา ได้กล่าวเตือนนายปูตินให้หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุ ซึ่งรวมถึงการเสริมกำลังทหารบริเวณชายแดนที่ติดกับยูเครน และย้ำว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงคัดค้านการกระทำของรัสเซีย แต่จะเดินหน้าสนับสนุนการแก้ปัญหาด้วยการเจรจา ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรัสเซียถอนกำลังทหารและไม่ดำเนินการใดๆ ที่จะเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครนไปมากกว่านี้
ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องต้องกันที่จะจัดการเจรจาอีกรอบระหว่างนายจอห์น เคอร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และนายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ในสัปดาห์นี้
นายอเล็กซานเดอร์ ชลาพัค รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของยูเครน แสดงความหวังว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือจากโครงการเงินกู้ของไอเอ็มเอฟ ในช่วงเดือนเมษายนนี้ ในวงเงินงวดแรก 3 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี คณะทำงานของไอเอ็มเอฟในยูเครน เห็นชอบให้เงินกู้แก่ยูเครนในระดับ 1.4-1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อให้เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของประเทศสามารถผ่านพ้นภาวะความผัวนทางเศรษฐกิจและการเมือง
ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงแตะระดับ 2.70% หลังจากรายงานค่าใช้จ่ายผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยปรับตัวขึ้น 0.2% ที่ระดับ 1.3769 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากมีรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อในเยอรมนีชะลอตัวลง อาจส่งผลให้อีซีบีเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมวันที่วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายนนี้
ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นลดลงเกินคาดจากที่ญี่ปุ่นได้ทำการปรับเพิ่มภาษีค้าขายขึ้นระดับภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นลดลง2.3% ขณะที่ BOJ ได้ส่งสัญญาณในเรื่องการอัดฉีดเพิ่มขึ้น หากตลาดนั้นต้องการเพิ่มเงินเฟ้อ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดปรับตัวสูงขึ้น หลังจากสหรัฐอเมริกามี่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน
อย่างไรก็ดี ตลาดได้ชะลอภาวะขาขึ้น หลังจากที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ในช่วงปลายเดือนมีนาคมออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 80 จุด จากเดิม 79.9 จุด
ตลาดหุ้นนิเกอิเปิดบวกในเช้าวันนี้ เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินเยน และการปิดบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์กและยุโรปในคืนวันศุกร์
นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า ในสัปดาห์นี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจับตาไปยังสถานการณ์การเมืองไทย ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่ม กปปส. ประกาศจะยกระดับการชุมนุมในวันที่ 5 เม.ย.นี้
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์
- Core PCE Price Index m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงออกมาเท่าเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1%
- Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลข ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.3%
- Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 79.9 ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 80.0
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนนี้
- Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 59.8 ตัวเลขคาดการณ์ลดลงอยู่ที่ระดับ 59.2
- Fed Chair Yellen Speaks
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงอยู่ในภาวะกดดันในทิศทางขาลงจากถ้อยแถลงของนางเยลเลน ที่กล่าวว่าจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในต้นปีหน้า รวมทั้งการที่ยังปรับลด QE ต่อเนื่อง และมีเป้าหมายที่จะหยุดยั้ง QE เป็นศูนย์ด้วยซ้ำ การที่ราคาทองคำหลุดแนวรับ 1,300 เหรียญ ทำให้ภาพรวมนักลงทุนยังรอดูความชัดเจนในการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ โดยจะมีตัวเลขที่สำคัญอยู่ในคืนวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ คือการจ้างงานนอกภาคการเกษตร สำหรับในค่ำคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจได้แก่ Chicago PMI ที่คาดว่าจะแย่ลงเล็กน้อยสู่ระดับ 59.2 จุด จากเดิม 59.8 จุด ซึ่งคาดว่าจะมีผลต่อราคาทองคำไม่มากนัก ขณะที่ภาวะทางการเมืองไทยคาดว่าจะสงบลงบ้าง ทำให้ค่าเงินบาทเองกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ในเช้าวันนี้เงินบาทแข็งค่าหลุดระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์ลงมา อยู่ที่ระดับประมาณ 32.43 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดในคืนวันศุกร์ประมาณ 1,289 เหรียญ และดีดกลับขึ้นมาปิดในตลาด COMEX ที่บริเวณ 1,294.3 เหรียญ เช้านี้ราคาทองคำเคลื่อนไหวบริเวณ 1,297 เหรียญ ขณะที่ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยยังถือครองที่ระดับ 816.97 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ในเชิงเทคนิคราคาทองคำยังคงเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง ในวันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways 1,288 – 1,300 เหรียญ ถ้าหลุดระดับ 1,288 เหรียญลงไป น่าจะลงได้ลึกถึงระดับ 1,250 เหรียญ ขณะที่แนวต้านด้านบนดูจะค่อนข้างแข็งแกร่งบริเวณ 1,300 เหรียญและ 1310 เหรียญตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเป็นกลยุทธ์ในทิศทางขาลง ปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้แนะนำไปแล้วว่าการลงทุนทองคำขณะนี้เหมาะสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้นไม่เหมาะสำหรับการซื้อเพื่อถือครองระยะยาว และดูจะเป็นผลดีกับนักลงทุนที่จะได้ผลตอบแทนที่ไวขึ้นภายในระยะเวลา 2 เดือนแทนที่จะถือครองทองคำยาวเป็นปี ซึ่งพบว่าการถือครองทองคำยาวเป็นปี อาจจะได้ผลตอบแทนไม่มากนัก เนื่องจากความผันผวนของราคาทองคำมีมากกว่า
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ยังแนะนำให้ลดสถานะ Long และมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,288 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ปิดทำกำไร และเปิด Short เพิ่มขึ้นบริเวณ 1,300 เหรียญ
Gold Futures J14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,100 บาท
Gold Futures M14 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,170 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. เชิญร่วมงานสัมมนา คลินิกการลงทุน: การบริหารพอร์ตช่วงสงกรานต์และแนวโน้มราคาทองไตรมาส 2" บรรยายโดย นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทในเครือ เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก วันที่ 31 มีนาคม 2557 เวลา 15.30-17.00น. ณ MTS สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 28 สำรองที่นั่งหรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ MTS Call Center 02 770 7777
2. รายการ “รู้ก่อนรวยกว่า” ทางสถานี TNN24 มีการเปิดสายด่วนเพื่อให้นักลงทุนสอบถามเรื่องการลงทุนในทองคำและทิศทางแนวโน้มของทองคำได้ในช่วง“คลินิกการลงทุน” ทุกวันจันทร์และวันศุกร์ เวลา 13.05-13.30น. โดยติดต่อได้ที่หมายเลข 02-725-7997
3. รายการ Gold Tonight by MTS Gold ทางสถานี Money Channel ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 21.30 – 21.35น. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป