นิเคอิ สนับสนุนงานประชุมสุดยอดทางธุรกิจ Women in Business Summit คับคั่งด้วยเหล่าตัวแทนผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของญี่ปุ่น เพื่อการเปลี่ยนแปลง

ข่าวทั่วไป Monday June 30, 2014 10:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ ร่วมด้วยเอกอัครราชทูตประเทศสหรัฐอเมริกา แคโรไลน์ เคนเนดี้ และแคธี มัทซุย ผู้ให้กำเนิดคำว่า “Womenomics”* ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพื่อให้ผู้หญิงมีอำนาจในตลาดแรงงาน กลุ่มบริษัท นิเคอิ ได้สนับสนุนงานประชุมสุดยอดทางธุรกิจ ในหัวข้อ Womenomics: Engine for Economic Growth Women in Business Summit ภายใต้ความร่วมมือกันระหว่างองค์กรสนับสนุนด้านการศึกษาโดยไม่แสวงผลกำไรระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่น (USJC) และหอการค้าสหรัฐอเมริกาในประเทศญี่ปุ่น (ACCJ) ได้รวบรวมผู้นำจากทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่นเพื่อร่วมพูดคุยถึงอนาคตของตลาดแรงงานหญิงในประเทศ โดยงานประชุมสุดยอดครั้งนี้ได้จัดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยมีนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีประเทศญี่ปุ่น และเอกอัครราชทูตประเทศสหรัฐอเมริกาประจำประเทศญี่ปุ่น แคโรไลน์ เคนเนดี้ ร่วมด้วยผู้ให้กำเนิดคำ “Womenomics” แคธี มัทซุย ร่วมกล่าวแถลงและแสดงความคิดเห็นสำคัญภายในงาน “นิเคอิ มีความภูมิใจที่ได้สนับสนุนการริเริ่มดำเนินการประชุมสุดยอดของ Women in Business Summit โดยเป็นเวทีที่รวมเอาผู้นำทางความคิดชั้นนำของเอเชียร่วมวิเคราะห์และแก้ไขประเด็นความเสมอภาคและเท่าเทียมกันในเรื่องของการจ้างงาน” เคน โคยานางิ ผู้จัดพิมพ์นิตยสาร นิเคอิ เอเชี่ยน รีวิว กล่าวว่า “การสนับสนุนผู้หญิงในตลาดแรงงานทั่วทั้งทวีปเอเชียให้พัฒนาดีขึ้น ไม่เพียงเป็นสิ่งสำคัญทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่เป็นเรื่องถูกต้องที่ควรดำเนินการเพื่ออนาคตของภูมิภาค” ในงานประชุมสุดยอดครั้งนี้มีผู้ให้ความสนใจอย่างคับคั่งและบัตรถูกขายหมดเกลี้ยง นายกรัฐมนตรี อาเบะ ได้ปราศรัยกับผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 700 คนในงาน ถึงการสนับสนุนผู้หญิงในตลาดแรงงานให้ดียิ่งขึ้น เนื่องด้วยเป็นสิ่งสำคัญทางเศรษฐกิจสำหรับประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วยรายละเอียดแผนงานสำหรับโครงการทางเลือกที่ดียิ่งขึ้นสำหรับการดูแลและเลี้ยงดูเด็ก รวมไปถึงความสมดุลทั้งในเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำในเรื่องของเป้าหมายของคณะรัฐมนตรีในปี พ.ศ.2563 ถึงการรับประกันตัวเลขของผู้หญิงที่จะถูกผลักดันให้อยู่ในบทบาทระดับผู้นำที่ร้อยละ 30 “มาตรการต่างๆ ต้องถูกนำมาใช้ในการให้อำนาจแก่ผู้หญิงในทุกระดับ” นายกรัฐมนตรี อาเบะกล่าว เนื่องจากหลายประเทศทั่วทั้งเอเชีย ได้เตรียมรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากประชากรสูงอายุและอัตราการเกิดที่ลดลง ดังนั้น การริเริ่มให้สตรีได้เข้าถึงการจ้างงานที่มากขึ้นจึงมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน “ถึงเวลาแล้วที่ผู้นำต่างๆ ภาคธุรกิจจะมอบโอกาสทั้งหลายให้ลูกสาวของพวกเขาเช่นเดียวกันกับที่เคยมอบให้กับลูกชาย” เอกอัครราชทูต เคนเนดี้ กล่าว นางสาวมัทซุย กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้านักกำหนดยุทธศาสตร์ประเทศญี่ปุ่นและผู้บริหารร่วมแห่ง Asia Economics Commodities and Strategy Research ที่วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ โกลด์แมน แซคส์ ได้กล่าวระหว่างงานประชุมสุดยอดครั้งนี้ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศญี่ปุ่นสามารถเพิ่มขึ้นได้มากถึงร้อยละ 12.5 หากจำนวนแรงงานหญิงมีจำนวนเท่ากับแรงงานชาย โดยงานนี้เป็นงานประชุมสุดยอดประจำปีที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่สอง จัดโดย คณะกรรมการ USJC-ACCJ Women in Business

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ