ปตท.สผ. เปิดเผยแผนการลงทุน 5 ปี ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ รับมือภาวะราคาน้ำมันผันผวน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 25, 2014 16:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--ปตท.สผ. - แผนการลงทุน 5 ปี 2.4 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ เกือบร้อยละ 80 เป็นการลงทุนในไทยและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ - จัดลำดับความสำคัญแผนการลงทุนตามสถานการณ์ราคาน้ำมัน - ตั้งเป้าเพิ่มอัตราการขายปิโตรเลียมในปี 2558 ที่ 343,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เติบโตร้อยละ 6 - ยืนยันความพร้อมด้านฐานะการเงินและสภาพคล่อง สำหรับโอกาสทางธุรกิจโดยการซื้อกิจการที่มีศักยภาพและสอดคล้องกับกลยุทธ์บริษัทในช่วงราคาน้ำมันลง นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. สรุปผลการดำเนินงานในปี 2557 เปิดเผยกลยุทธ์การดำเนินงานและแผนการลงทุน 5 ปี ภายใต้ความผันผวนของสถานการณ์น้ำมัน ดังนี้ ผลการดำเนินงานของ ปตท.สผ. ในปี 2557 ยอดขายยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2557 ที่ผ่านมา ปตท.สผ. คาดว่ามีอัตราการขายปิโตรเลียม 320,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 9 เป็นผลมาจากการเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติของโครงการ ซอติก้า และการเข้าซื้อกิจการใน Hess Thailand ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคเรื่องราคาน้ำมันที่ลดลงใน ไตรมาส 4 แต่ผลการดำเนินงานปกติของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากในส่วนของผลิตภัณฑ์น้ำมันที่ขายคิดเป็นร้อยละ 33 ของปริมาณขายทั้งหมด บริษัทได้มีการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันโดยการทำอนุพันธ์ประกันความเสี่ยง (Hedging) ไว้แล้วเป็นส่วนใหญ่ สำหรับก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท คิดเป็นประมาณร้อยละ 67 ของปริมาณการขายทั้งหมด มีราคาขายที่อ้างอิงราคาน้ำมันประมาณร้อยละ 30-50 ประกอบกับราคา ก๊าซฯ มีการปรับราคาตามสัญญาซื้อขายก๊าซฯ ของแต่ละโครงการในทุก ๆ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ทำให้แนวโน้มการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันในระยะสั้นไม่ส่งผลกระทบต่อราคาก๊าซฯ มากนัก อย่างไรก็ตาม จากการที่ราคาน้ำมันได้ปรับลดลงอย่างมาก อาจมีผลให้มูลค่ายุติธรรมของทรัพย์สินบางโครงการ ณ สิ้นงวดตามมาตรฐานบัญชีปรับลดลงซึ่งจะมีผลกระทบต่องบกำไรขาดทุน ในการนี้บริษัทจะติดตามความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดและจะดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรฐานบัญชีต่อไป แผนการลงทุน 5 ปี (2558 - 2562) 2.4 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ สำหรับงบประมาณการลงทุน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2558 - 2562 ของ ปตท.สผ. ประกอบด้วย ประมาณการรายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure) และรายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure) รวมทั้งสิ้น 24,295 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ (สรอ.) เพื่อใช้ลงทุนและพัฒนาโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของ ปตท.สผ. มุ่งเน้นลงทุนในประเทศไทยและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เกือบร้อยละ 80 โดยแบ่งตามแผนรายปี ดังนี้ หน่วย : ล้านดอลล่าร์ สรอ. 2558 2559 2560 2561 2562 2558 - 2562 รายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure) 3,071 3,437 3,833 3,110 2,411 15,862 รายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure) 1,761 1,767 1,660 1,648 1,597 8,433 รายจ่ายรวมทั้งสิ้น (Total Expenditure) 4,832 5,204 5,493 4,758 4,008 24,295 ทั้งนี้ รายจ่ายลงทุน 5 ปีดังกล่าวยังไม่รวมประมาณการเงินลงทุนที่ ปตท.สผ. อาจต้องใช้เพิ่มสำหรับโอกาสทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองให้กับบริษัท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาทบทวนอย่างรอบคอบ อีกทั้งบริษัทได้จัดเรียงลำดับความสำคัญของการใช้เงินลงทุน (Prioritization) เพื่อรองรับสภาวะราคาน้ำมันที่ผันผวน ดังนี้ โครงการที่มีการผลิตอยู่แล้ว จะดำเนินต่อไปเพื่อรักษาระดับการผลิต ไม่ให้กระทบต่อความต้องการใช้ปิโตรเลียมในประเทศ โครงการที่อยู่ในขั้นพัฒนา มีการประเมินและปรับแผนการลงทุนให้มีความยืดหยุ่นตามสถานการณ์ราคาน้ำมัน โครงการที่อยู่ในขั้นสำรวจ จะชะลอการดำเนินงานในโครงการมีความเสี่ยงสูงและไม่มีภาระผูกพันออกไปก่อน เพื่อรอเวลาที่เหมาะสมในอนาคต แผนการดำเนินงานปี 2558 สำหรับปี 2558 ปตท.สผ. ได้ประมาณการรายจ่ายรวมอยู่ที่ 4,832 ล้านดอลล่าร์ สรอ. โดยกว่า 2 ใน 3 ของรายจ่ายลงทุนจะเน้นการดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ในประเทศไทย และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ โดยร้อยละ 52 ของการลงทุนเป็นกิจกรรมส่วนใหญ่มุ่งเน้นเพื่อรักษาระดับปริมาณการผลิตในประเทศไทย ได้แก่ โครงการอาทิตย์ โครงการเอส 1 โครงการบงกช โครงการคอนแทร็ค 4 และโครงการ MTJDA ส่วนอีกร้อยละ 20 ของรายจ่ายลงทุนได้จัดสรรไว้สำหรับโครงการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายจ่ายสำหรับโครงการในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ได้แก่ การลงทุนเพื่อรักษาระดับการผลิตของโครงการซอติก้า กิจกรรมการพัฒนาของโครงการเมียนมาร์เอ็ม 3 กิจกรรมการสำรวจเพื่อประเมินศักยภาพทางปิโตรเลียมของโครงการเมียนมาร์ พีเอสซีจี และอีพี 2 โครงการเมียนมาร์ เอ็มโอจีอี 3 และโครงการเมียนมาร์ MD-7 และ MD-8 จากประมาณการรายจ่ายลงทุนและรายจ่ายดำเนินงานในปี 2558 ดังกล่าว ปตท.สผ. คาดว่าจะสามารถเพิ่มปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยสำหรับปี 2558 ได้ถึง 343,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 6 จากปี 2557 โดยส่วนใหญ่จะมาจากการผลิตเต็มปีของโครงการซอติก้า และโครงการผลิตปิโตรเลียมของ Hess Thailand ที่บริษัทเข้าซื้อกิจการในปี 2557 รวมถึงการผลิตน้ำมันดิบจากโครงการแอลจีเรีย 433เอ & 416บี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มการผลิตครั้งแรกได้ในไตรมาส 2 ของปี 2558 “จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ผันผวนซึ่งมีผลกระทบต่อ ปตท.สผ. ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนแผน กลยุทธ์และแผนดำเนินงานของปี 2558 และแผนการดำเนินงาน 5 ปี เพื่อให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจและการลงทุน รวมถึงการทำโครงการ “SAVE…to be SAFE” เพื่อปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดี สามารถรองรับโอกาสใหม่ๆ ในการควบรวมหรือ เข้าซื้อกิจการที่มีศักยภาพในราคาที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทจะติดตามสภาวะราคาน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังอยู่ในระดับต่ำ บริษัทก็สามารถปรับลดการลงทุนลงอีก เพื่อรักษาสภาพคล่องและความแข็งแกร่งในการดำเนินงานต่อไป” นายเทวินทร์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ