ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันวงเงินไม่เกิน 1,550 ล้านบาท “บ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น” ที่ระดับ “A/Stable”

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 14, 2015 10:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--ทริสเรทติ้ง ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 1,550 ล้านบาทของ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำของบริษัทในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่า ตลอดจนกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากรายได้ค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกลดทอนบางส่วนจากภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นจากการลงทุนจำนวนมาก ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” อยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโรงงานสำเร็จรูป และคลังสินค้าให้เช่าได้ต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะสามารถเพิ่มอัตราการให้เช่าและสามารถควบคุมระดับหนี้สินให้เหมาะสมในช่วงที่มีการขยายการลงทุน บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่นเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปให้เช่าในประเทศไทย โดยก่อตั้งในปี 2533 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2545 บริษัทได้ขยายธุรกิจสู่การให้บริการคลังสินค้าให้เช่าตั้งแต่ปี 2548 โดย ณ เดือนธันวาคม 2557 บริษัทมีโรงงานให้เช่าจำนวน 60 แห่งและมีคลังสินค้าให้เช่าจำนวน 57 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมและพื้นที่โลจิสติกส์หลักของประเทศ รวมเป็นพื้นที่ให้เช่าทั้งสิ้น 435,948 ตารางเมตร (ตร.ม.) ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2557 ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทยังคงเป็น บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) (24.3%) กลุ่มซิตี้เรียลตี้ (7.2%) และกลุ่มผู้บริหารของบริษัท (5.8%) ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากผลงานการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปที่มีคุณภาพ รวมทั้งความสามารถในการก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูปตามมาตรฐานในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งจากการใช้ทีมงานก่อสร้างของบริษัทเอง จากรายงานของ CB Richard Ellis (CBRE) ระบุว่าบริษัทยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทย ณ เดือนกันยายน 2557 บริษัทและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในเครือมีส่วนแบ่งทางการตลาดของพื้นที่โรงงานให้เช่ารวม 46% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งรายอื่น โดยคู่แข่งสำคัญประกอบด้วย บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (26%) บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (11%) นอกจากนี้ บริษัทยังเป็น 1 ใน 2 ของผู้ให้บริการคลังสินค้าให้เช่ารายใหญ่ของประเทศไทย พื้นที่คลังสินค้าให้เช่าของบริษัทและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็น 47% ของพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าของทั้งประเทศ ในปี 2557 พื้นที่ให้เช่ารวมของบริษัทเพิ่มขึ้นมาก โดยพื้นที่ให้เช่ารวมของบริษัท (หากไม่นับรวมผลกระทบจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน) เพิ่มขึ้นเท่ากับ 288,142 ตร.ม. เทียบกับการเพิ่มขึ้นประมาณ 135,000 ตร.ม. ในปี 2556 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของพื้นที่คลังสินค้าในพื้นที่ภาคกลาง พื้นที่คลังสินค้าให้เช่าของบริษัทเพิ่มขึ้น 264,852 ตร.ม. ในปี 2557 เทียบกับการเพิ่มขึ้นประมาณ 79,000 ตร.ม. ในปี 2556 สำหรับธุรกิจโรงงานให้เช่า พื้นที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่ากับ 23,290 ตร.ม. ในปี 2557 พื้นที่โรงงานให้เช่าในเขตที่เคยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม (จังหวัดอยุธยาและปทุมธานี) ยังคงไม่ฟื้นตัว ถึงแม้พื้นที่ให้เช่ารวมของบริษัทเพิ่มขึ้นมาก แต่อัตราการให้เช่าพื้นที่ของบริษัทยังคงอยู่ในระดับต่ำ บริษัทมีอัตราการให้เช่าไม่รวมพื้นที่เช่าล่วงหน้า (Pre-leased area) ณ สิ้นปี 2557 เท่ากับ 57% เทียบกับระดับ 73% ณ สิ้นปี 2555 อัตราการให้เช่าพื้นที่ที่ต่ำ เนื่องจากบริษัทลงทุนสร้างโรงงานและคลังสินค้าเพิ่มเติมในพื้นที่ใหม่ ๆ จำนวนมากในช่วงระหว่างปี 2555-2557 และโรงงานที่ไม่มีผู้เช่าในเขตที่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมยังมีจำนวนมาก รายได้ของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับประมาณการของทริสเรทติ้ง รายได้ค่าเช่าอยู่ที่ระดับ 685 ล้านบาท ลดลง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้ค่าเช่าที่ลดลง เนื่องจากบริษัทขายสินทรัพย์เข้ากองทุนจำนวนมากในช่วงปลายปี 2556 ถึงต้นปี 2557 รวมทั้งจำนวนผู้เช่าใหม่ที่ย้ายเข้ามาในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 ยังมีจำนวนไม่มาก อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าเช่าคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นภายในสิ้นปี 2557 เนื่องจากผู้เช่าที่ทำสัญญาเช่าล่วงหน้า (Pre-leased area) ประมาณ 100,000 ตร.ม. ทยอยเข้ามาใช้พื้นที่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทยังอยู่ในเกณฑ์ดี อัตรากำไรขั้นต้นของค่าเช่าเท่ากับ 78.3% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 76.2% ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2556 อย่างไรก็ตามอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ ของบริษัทเท่ากับ 51.1% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 ลดลงจากระดับ 56.1% ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2556 อัตราส่วนที่ลดลงมาจากโครงสร้างรายได้ที่แตกต่างกัน บริษัทขายสินทรัพย์เข้ากองทุนจำนวนมากในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนมีอัตรากำไรที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้จากการให้เช่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากบริษัทมีการลงทุนสร้างโรงงานและคลังสินค้าเพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในเขตภาคตะวันออกและจังหวัดใหญ่ ๆ การขยายพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นมากส่งผลให้ บริษัทมีภาระหนี้เงินกู้รวมเพิ่มขึ้นเท่ากับ 19,105 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2557 เพิ่มขึ้นจากระดับ 10,600 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2555 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มขึ้นเป็น 64.9% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 จาก 57.3% ในปี 2555 บริษัทมีแผนลงทุนประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อปีในปี 2558 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความสามารถในการรักษาโครงสร้างเงินทุน เนื่องจากบริษัทสามารถจัดหาเงินลงทุนบางส่วนได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และในเดือนธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา บริษัทได้ขายสินทรัพย์มูลค่าประมาณ 4,200 ล้านบาทเข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON) อันดับเครดิตองค์กร: A อันดับเครดิตตราสารหนี้: TICON155A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A TICON158A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 700 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A TICON162A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A TICON165A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 650 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 TICON165B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A TICON169A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A TICON171A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A TICON171B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A TICON177A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A TICON177B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,150 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A TICON178A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A TICON185A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A TICON187A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 350 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A TICON189A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561 A TICON19OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 620 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A TICON191A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A TICON205A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A TICON217A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A TICON229A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 1,550 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2568 A แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ