กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส
- ทองคำเริ่มมีแรงเทขาย หลังจากเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือน
- SPDR ไม่เปลี่ยนแปลงการถือทอง
- คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.คาดชะลอตัวลง
ราคาทองคำเมื่อวานเคลื่อนไหวผันผวน โดยปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ระดับ 1,244 ดอลลาร์/ออนซ์ ราคาทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นเข้าสู่ทองคำจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี แต่ในช่วงกลางคืนเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี ทำให้มีแรงเทขายทองคำ
เงินดอลลาร์สหรัฐที่กลับมาแข็งค่าขึ้นจากการเปิดเผยความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจขนาดย่อมของสหรัฐเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 ปี ขณะที่เจ้าหน้าที่จากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายต้องจัดการกับภาวะเงินฝืดอย่างเร็วในสัปดาห์หน้า ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอีซีบีอาจจะประกาศมาตรการ QE หรือมาตรการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในการประชุมวันที่ 22 ม.ค.นี้
วันนี้ติดตามการเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ของยูโรโซน โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะไม่เปลี่ยนแปลง จากที่เดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 0.1% ส่วนคืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ตลาดคาดการณ์จะเพิ่มขึ้น 0.2% ชะลอตัวลงจากเดือนพ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 0.7% จากตัวเลขยอดค้าปลีกที่คาดชะลอตัวลงส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว เนื่องจากการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐเป็นสัดส่วนที่สูงราว 70% ของจีดีพี
แนวโน้มราคาทองคำคาดแกว่งตัวในกรอบแคบลง โดยทองคำมีแนวต้านที่ 1,240-1,245 ดอลลาร์/ออนซ์ และมีแนวต้านถัดไปที่ 1,255 ดอลลาร์/ออนซ์ที่คาดว่าเป็นแนวต้านสำคัญ โดยยอดค้าปลีกสหรัฐคาดจะช่วยหนุนราคาทองคำ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,220 และ 1,210 ดอลลาร์/ออนซ์ ตามลำดับ