กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 จัดเวทีสัมมนาแผนพัฒนาการเกษตรฯ ฉบับที่ 12 ระดมภาคส่วนเกี่ยวข้อง 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างร่วมให้ข้อคิดเห็น เผย ผู้เข้าร่วมสัมมนาเห็นสอดคล้อง ต้องการให้ภาครัฐเน้นความสำคัญกับการสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ ผลักดันสู่เกษตรอินทรีย์ โดยยึดเศรษฐกิจพอเพียงทำการเกษตรแบบยั่งยืน
นายพลเชษฐ์ ตราโช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 จังหวัดสงขลา (สศท.9) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลการจัดเวทีระดมความคิดเห็น (ร่าง) แผนพัฒนาการเกษตรในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 - 2564) เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ โรงแรมหาดใหญ่ พาราไดซ์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งจากการสัมมนา พบว่า ผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียที่เข้าร่วมสัมมนาจากทั้ง 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง (สงขลา สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) มีความเห็นเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่าแผนพัฒนาการเกษตรฯ ฉบับที่ 12 ภาครัฐจะต้องให้ความสำคัญกับประเด็นต่างๆ ได้แก่
การสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ โดยเน้นการจัดแหล่งเรียนรู้ทางด้านการเกษตรให้สอดคล้องกับภูมิสังคม โดยให้ผู้รู้ที่ปฏิบัติจริงและมีความเชี่ยวชาญมาเป็นครู เพื่อให้โอกาสให้กับลูกหลานเกษตรกรที่ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้จากข้างนอก ได้ศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ที่ตั้งขึ้น ต้องผลักดันให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในทุกระดับปรับโครงสร้างองค์กร โดยการเพิ่มกองการเกษตร มาทำหน้าที่ดูแลด้านการเกษตรโดยตรง
นอกจากนี้ ควรผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรอินทรีย์อย่างแท้จริง เพื่อสร้างความต่าง เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และเพื่อสุขภาพของผู้บริโภค มีการส่งเสริม/สนับสนุน กลุ่มเกษตรกร/สถาบันเกษตรกร/สหกรณ์ ให้มีความเข้มแข็ง โดยเน้นการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมตัดสินใจ และร่วมรับผิดชอบ ตลอดถึงต้องผลักดันให้ดำเนินการกิจกรรมแบบครบวงจรตั้งแต่การผลิต การแปรรูป และการตลาด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร รวมทั้งต้องสร้างความตระหนักให้กับเกษตรกร ในเรื่องของการเป็นเกษตรกรมืออาชีพ โดยการใช้ องค์ความรู้ และทุ่มเทเวลาให้กับกิจกรรมทางการเกษตรอย่างเต็มที่ และให้เกษตรกรทำการเกษตรแบบยั่งยืน โดยยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ทั้งนี้ แผนพัฒนาการเกษตรฯ ฉบับที่12 ที่ได้จากการจัดระดมความคิดเห็นร่วมกัน12 ครั้ง ทั่วประเทศของ สศก. ถือเป็นกรอบภาพรวม ซึ่งการที่จะให้มีผลในทางปฏิบัติในระดับจังหวัด กลุ่มจังหวัดได้ ทุกภาคส่วนจะต้องมาร่วมคิด ร่วมทำ แผนงาน/โครงการให้ตอบโจทย์ และสอดคล้องกับพื้นที่ โดยอาศัยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตรในระดับพื้นที่ เป็นฟันเฟืองช่วยขับเคลื่อนร่วมกันต่อไป นายพลเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย