สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 14 มกราคม 2559 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 14, 2016 17:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ม.ค.--พีอาร์ดีดี สภาวะตลาดวันที่ 14 มกราคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,088.40-1,094.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,600 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG16 อยู่ที่ 18,910 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 180 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,730 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.57 น.ของวันที่ 14/01/16) แนวโน้มวันที่ 15 มกราคม 2559 ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุในรายงาน Beige Book ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงแสดงสัญญาณที่ไร้ทิศทางตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นมกราคม ขณะที่การฟื้นตัวของตลาดแรงงานและการใช้ จ่ายของผู้บริโภคได้ถูกบดบังโดยผลกระทบของดอลลาร์ที่แข็งค่าและราคาพลังงานที่ระดับต่ำ ความกังวลกับผลกระทบที่เศรษฐกิจสหรัฐอาจได้รับจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในจีนและความเป็นไปได้ที่การคาดการณ์ภาวะเงินเฟ้ออาจจะปรับลดลงส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำอีกครั้ง หลังจากราคาทองคำอ่อนตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธันวาคมที่สามารถใช้เป็นดัชนีวัดอัตราเงินเฟ้อได้ ซึ่งจะเปิดเผยโดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผย ในวันพฤหัสบดีนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ดัชนี PPI ทั่วไปอาจลดลง 0.2% ในเดือนธันวาคม หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพฤศจิกายน และ ดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานอาจเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนธันวาคม หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำขยับขึ้นไปได้ไม่ไกลนักเพราะ สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน หลังจากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน การสำรวจดังกล่าวครอบคลุมผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยรายย่อยของสหรัฐมากกว่า 75% บ่งชี้ว่า ดัชนียื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน เพิ่มขึ้น 17.8% ขณะที่ดัชนียื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ เพิ่มขึ้น 23.8% ซึ่งแสดงถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจและเป็นตัวขับเคลื่อนการจ้างงาน ทั้งนี้หากราคาทองคำอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,079 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้เข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้น แต่หากหลุดจะมีแนวรับถัดไปอยู่ที่บริเวณ 1,071-1,060 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,079 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณแนวรับ 1,071-1,060 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,108-1,118 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านโซน 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อาจเกิดแรงขายกดดันราคาปรับตัวลดลงเข้าใกล้บริเวณ 1,079 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นคาดว่าราคาจะวิ่งในกรอบ 1,100-1,071 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนเพื่อเตรียมรอทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1,118 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้งและควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,079 (18,520บาท) 1,071 (18,380บาท) 1,060 (18,190บาท) แนวต้าน 1,100 (18,880บาท) 1,108 (19,020บาท) 1,118 (19,190บาท) GOLD FUTURES (GFG16) แนวรับ 1,079 (18,700บาท) 1,071 (18,560บาท) 1,060 (18,370บาท) แนวต้าน 1,100 (19,060บาท) 1,108 (19,200บาท) 1,118 (19,370บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ