ไอบีเอ็มส่งสตอเรจรุกตลาดธุรกิจขนาดกลางด้วยราคาต่อประสิทธิภาพที่เป็นต่อ เปิดตัว IBM TotalStorage ใหม่ มอบคุณภาพเหนือ EMC และ HP ถึงสองเท่า

ข่าวทั่วไป Thursday July 14, 2005 10:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--ไอบีเอ็ม ประเทศไทย
ไอบีเอ็มขยายฐานระบบการจัดเก็บข้อมูลระดับมิดเรนจ์ ส่ง IBM TotalStorage DS4800 ใหม่ ซึ่งเป็นระบบการจัดเก็บข้อมูลที่ความเร็ว 4 กิกะบิตต่อวินาที มีราคาเทียบเท่า EMC CX700 และ HPEVA5000 แต่ให้ประสิทธิภาพสูงเป็น 2 เท่า ดันขึ้นเป็นระบบดิสก์ระดับกลางที่เร็วที่สุดในตลาดขณะนี้
ผลการทดสอบค่าประสิทธิภาพและเกณฑ์มาตรฐานจากสถาบันประสิทธิภาพระบบการจัดเก็บข้อมูล (Storage Performance Council) ชี้ว่า DS4800 สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเซิร์ฟเวอร์ระบบการจัดเก็บข้อมูลระดับมิดเรนจ์ ด้วยค่าความสามารถสูงสุดที่มากกว่า 42,000 SPC-1 IOPS ปัจจัยที่ DS4800 ให้ผลทดสอบค่าประสิทธิภาพที่สูงเช่นนี้ คือเทคโนโลยีระดับความเร็ว 4 กิกะบิตต่อวินาที
คุณศุภกิจ ติยะวัชรพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจ Systems and Technology Group บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “DS4800 ใหม่จากไอบีเอ็ม เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า เหมาะสำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาระดับความสามารถการประเมินผลชั้นสูงที่ใช้โปรแกรมที่ต้องการแบนด์วิดมาก และมีการประมวลผลที่ซับซ้อน จึงมีความจำเป็นต้องเก็บและใช้งานข้อมูลปริมาณมาก ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าในอุตสาหกรรมด้านพลังงาน บันเทิงและงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ด้วยประสิทธิภาพที่ได้รับการทดสอบแล้วของ DS4800 ไอบีเอ็มมั่นใจว่าได้นำเสนอทางเลือกใหม่ที่เปี่ยมค่าให้แก่ลูกค้า โดยที่ EMC และ HP ไม่สามารถเทียบได้”
นอกจากประสิทธิภาพอันโดดเด่นแล้ว คุณสมบัติการรองรับการขยายตัวของ IBM DS4800 ออกแบบมาเพื่อให้เก็บข้อมูลได้ถึง 67 เทราไบต์ ผลิตภัณฑ์มาพร้อมซอฟต์แวร์ป้องกันระบบข้อมูลเสียหาย และคุณสมบัติการทำงานที่แม่นยำและใช้งานได้ตลอดเวลา โดยทั้งหมดควบคุมจากหน้าจอระบบกราฟิก ในอนาคต DS4800 จะรองรับระบบการสำรองแบบเชื่อมตรงกับฐานข้อมูลบนระบบปฎิบัติการ AIX และฐานข้อมูล IBM DB2 Universal ที่ประกาศตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ คุณสมบัติเด่นของ DS4800 ประกอบด้วยฟังก์ชันการ “เรียกคืน” ที่ส่งสัญญาณเตือนเมื่อเกิดปัญหา มีแบตเตอรีที่ใช้งานได้นาน เพื่อให้การทำงานดำเนินต่อไปได้ในกรณีที่มีเหตุบกพร่อง พอร์ตอีเทอร์เน็ตสำรองสำหรับการบริหารระบบ และเฟรมเพิ่มขยายเพิ่มเติมเพื่อรองรับการขยายความจุข้อมูลและ ปริมาณงานของลูกค้าในอนาคต
DS4800 ได้รับการออกแบบให้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ประกอบด้วยระบบปฏิบัติการหลายชนิดรวมกัน ได้แก่ AIX, HP-UX , โซลาลีส, วินโดวส์ และ ลีนุกซ์บนเครื่องอินเทลและพาวเวอร์ โดยมีซอฟต์แวร์ IBM TotalStorage Productivity Center ทำหน้าที่จัดการดูแล ค้นหารายละเอียดระบบ ทำรายงานด้านระดับความสามารถและรายการอุปกรณ์ที่มีอยู่ ติดตามสภาวะการทำงาน ปรับแต่งค่าติดตั้ง และกำหนดผู้ใช้ นอกจากนี้ DS4800 ยังสามารถใช้งานได้กับซอฟต์แวร์การทำคลัสเตอร์ชั้นนำ ได้แก่ HACMP ของไอบีเอ็ม ระบบคลัสเตอร์ของไมโครซอฟท์และโนเวล Steeleye Lifekeeper และ เวอริทัส VCS
โซลูชั่น Storage Virtualization ชั้นนำจากไอบีเอ็ม
DS4800 ใหม่จะก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำของกลุ่มเซิร์ฟเวอร์การจัดเก็บข้อมูลระดับเอ็นเตอร์ไพรสในตระกูล DS4000 และรองรับซอฟต์แวร์ทางด้านการจัดเก็บข้อมูลของไอบีเอ็มทุกชนิด ซึ่งรวมถึง IBM TotalStorage SAN Volume Controller (SVC) ใหม่ล่าสุดที่ประกาศตัวในวันนี้เช่นกัน
เทคโนโลยี Storage Virtualization รุ่นที่เจ็ด ได้ขยายขีดความสามารถการทำงานให้กว้างและครอบคลุมการประสานงานมากขึ้น ทั้งยังช่วยให้ SVC สามารถบริหารสภาพการทำงานที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนขึ้นโดย SAN Volume Controller มีการพัฒนาให้รองรับการใช้งานระบบจัดเก็บข้อมูลจากโฮสต์ได้ถึง 256 เครื่องรวมทั้งไอบีเอ็มปรับปรุงให้ SVC สามารถบริหารการจัดเก็บข้อมูลในสภาพแวดล้อมแบบ High Availability เช่น ในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้ระบบ General Parallel File System (GPFS) หรือ High Availability Cluster Multiprocessing (HACMP) สำหรับ AIX รวมทั้งการใช้ HACMP/XD สำหรับการสำรองระบบแบบทางไกล นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังประกาศตัวระบบสำรองไฟฉุกเฉิน (UPS) สำหรับ SAN Volume Controller อีกด้วย และด้วยความร่วมมือจากบริษัทซิสโก้ SAN Volume Controller สามารถใช้งานได้กับสวิตช์/ไดเร็กเตอร์ ในตระกูล Cisco MDS9000 ที่พร้อมไปด้วยคุณสมบัติการทำงานใหม่มากมาย เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ประกอบด้วยอุปกรณ์ระบบ SAN ต่างชนิดกันโดยช่วยให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การบริหารจัดการข้อมูลแบบออนดีมานด์
ในโลกของธุรกิจ ความต้องการใช้งาน จัดการและการแสดงข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพได้พลิกโฉมหน้าตลาดไอทีอย่างมาก บริษัทคอมพิวเตอร์ที่ล้าหลัง ขาดเทคโนโลยีและมีแต่ฮาร์ดแวร์กำลังเสื่อมความนิยมเพราะทุกบริษัทต้องดิ้นรนกับข้อกำหนดของรัฐและความจำเป็นของธุรกิจที่ต้องเก็บและเชื่อมโยงข้อมูลที่อยู่ในองค์กรทั้งหมดเข้าด้วยกันในแบบเรียลไทม์ แนวทางการสร้างระบบข้อมูลแบบออนดีมานด์ของไอบีเอ็ม เป็นการผสมผสานความชำนาญและความเข้าใจทางธุรกิจอย่างลึกซึ้งเข้ากับระบบการจัดเก็บข้อมูลชั้นสูง ที่ทำงานด้วยมาตรฐานระบบเปิด ประกอบกับซอฟต์แวร์การจัดการระบบและจัดการข้อมูลอันล้ำสมัย นับเป็นหนทางของการสร้างระบบสารสนเทศที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ราคาประหยัดและคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมใด ไอบีเอ็มพร้อมช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับข้อมูลเพื่อให้เกิดเป็นแบบออนดีมานด์
เกี่ยวกับไอบีเอ็ม
ไอบีเอ็มเป็นบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยครองความเป็นผู้นำในการช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สรรค์สร้างนวัตกรรมใหม่มานานกว่า 80 ปี ไอบีเอ็มนำเสนอบริการ โซลูชั่น และเทคโนโลยีที่หลากหลายที่ช่วยให้ลูกค้าทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กได้รับประโยชน์จากโลกยุคใหม่แห่งอี-บิสิเนสได้อย่างเต็มที่ โดยมีทรัพยากรจากไอบีเอ็มและบริษัทคู่ค้าหลัก ๆ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมของไอบีเอ็ม กรุณาเยี่ยมชมที่http://www.ibm.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
คุณอรอุมา วัฒนะสุข โทร 02-273-4117 อีเมล์ onumav@th.ibm.com--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ