กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 21 มีนาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,226.32-1,235.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,250 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,300 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ17 อยู่ที่ 20,350 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,380 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.14 น.ของวันที่ 21/03/2560)
แนวโน้มวันที่ 22 มีนาคม 2560
แถลงการณ์ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่ว่าจะเริ่มต้นกระบวนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit แม้กระบวนการเจรจาต่อรองกับอียูที่จะใช้เวลานาน 2 ปี แต่ประเด็นดังกล่าว ถูกนำไปเชื่อมโยงกับเสถียรภาพทางการเมืองของอังกฤษ จนโฆษกรัฐบาลอังกฤษต้องออกมายืนยันว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษไม่มีแผนที่จะเลือกตั้งก่อนกำหนด หลังจากที่ประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 29 มี.ค. สถานการณ์ดังกล่าว กระตุ้นแรงซื้อทองคำเพิ่มเติม ขณะที่อังกฤษยังคงต้องเผชิญกับปัญหาเพิ่มจากชาวสกอตแลนด์เรียกร้องให้ทำประชามติเรื่องการแยกตัวเป็นอิสระอีกครั้ง ประกอบกับ อังกฤษจะมีปัญหาจากการเดินทางข้ามพรมแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือกับไอร์แลนด์จะทำได้ยากมากยิ่งขึ้น หลังจากอังกฤษถอนตัวออกจากอียู ในขณะที่ไอร์แลนด์ยังคงเป็นสมาชิกอียูต่อไป ซึ่งทำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังการซื้อขายสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษหรือ Brexit, รวมทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส รอบแรกในวันที่ 23 เม.ย. และการเลือกตั้งรอบสองในวันที่ 7 พ.ค. โดยผู้มีสิทธิโหวตเกือบ 40% ระบุว่า ตนยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะสนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใดในบรรดาผู้สมัครสำคัญ 5 คน และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในเดือนเมษายน ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจากระดับติดลบในปัจจุบันด้วย โดยจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากก่อนที่มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จะสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ เบื้องต้นประเมินว่าราคาทองคำเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมา หากไม่สามารถผ่านไปได้จะเกิดการย่อตัวจากแรงขายทำกำไร แต่อย่างไรก็ตามหากราคามีการปรับย่อลงมายังคงสามารถทยอยสะสมได้ ซึ่งวายแอลจีเชื่อว่าจะมีแรงซื้อกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยังทดสอบแนวต้านที่ 1,242 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วน สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนให้เน้นไปที่การเข้าซื้อเก็งกำไร ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,212 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,222 (20,050บาท) 1,212 (19,900บาท) 1,203 (19,750บาท)
แนวต้าน 1,242 (20,400บาท) 1,250 (20,550บาท) 1,263 (20,750บาท)
GOLD FUTURES (GFJ17)
แนวรับ 1,222 (20,200บาท) 1,212 (20,050บาท) 1,203 (19,900บาท)
แนวต้าน 1,242 (20,550บาท) 1,250 (20,650บาท) 1,263 (20,900บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999