สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 09 พฤศจิกายน 2560 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 9, 2017 17:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส สภาวะตลาดวันที่ 09 พฤศจิกายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,279.70-1,285.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,150 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,050 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ17 อยู่ที่ 20,240 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,170 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.13น. ของวันที่ 09/11/60) แนวโน้มวันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนจะเดินทางเยือนเวียดนามที่เมืองดานัง ในวันศุกร์นี้ แม้ว่าการเดินทางเยือนเวียดนามนอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ระหว่างวันที่ 10-11 พ.ย.นี้ แต่นักลงทุนจับการช่วงชิงความได้เปลี่ยนทางด้านการค้าและท่าทีกีดกันทางค้า ซึ่งล่าสุดทางการจีนรายงานว่า จีนและเวียดนามได้ลงนามในข้อตกลงทางการค้า 83 ข้อตกลงในวันพฤหัสบดีนี้ โดยคิดเป็นมูลค่ารวมกันได้ 1.94 พันล้านดอลลาร์ ก่อนที่การเดินทางเยือนเวียดนามในวันศุกร์ ขณะที่การเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งอย่างเป็นทางการ ซึ่งปธน.ทรัมป์ สามารถกระตุ้นการค้าของสหรัฐ-จีน ได้สำเร็จ เมื่อบริษัทเจเนอรัล อิเลคทริค (จีอี) สามารถลงนามข้อตกลงเชิงพาณิชย์ 3 ฉบับกับพันธมิตรในจีนซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวม 3.5 พันล้านดอลลาร์ หากมีความชัดเจนทางด้านกีดกันการค้าที่ชัดเจนขึ้น ก็จะกระตุ้นแรงซื้อทองคำเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปีในไตรมาส 3 ข้อมูลดังกล่าวสร้างมุมมองเชิงลบต่อแนวโน้มราคาทองคำ โดย WGC คาดว่าความต้องการทองคำจะอยู่ที่ 3,900-4,000 ตันในปีนี้ เทียบกับ 4,347 ตันในปีที่แล้ว ความต้องการใช้ทองคำของอินเดียลดลงเนื่องจากการเก็บภาษีแบบใหม่ตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. โดยคาดว่าความต้องการทองคำในปีนี้จะอยู่ที่ 650-750 ตัน ขณะที่ความต้องการทองคำในจีนจะอยู่ที่ 850-950 ตัน ขณะที่รายงานของกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ได้ลดสัดส่วนการถือครองทองคำลดลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน แนะนำให้ใช้กลยุทธ์เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นเป็นหลัก ราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านในโซน 1,288 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนไม่ได้ราคาอาจมีการปรับตัวลดลงมา หากไม่หลุดแนวรับแนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ให้รอเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดบริเวณแนวรับเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัว ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,271 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 1,288-1,296 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดให้รอเข้าซื้อที่แนวรับถัดไปบริเวณ 1,263-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ แต่ถ้าราคาทองคำสามารถทะลุผ่านแนวต้าน และรักษาระดับยืนเหนือกรอบราคาได้ แนะนำนักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ให้ถือต่อไป ซึ่งราคาทองคำน่าจะสามารถขยับตัวขึ้นต่อไปได้ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับแนะนำนักลงทุนสามารถทำการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจะการดีดตัว ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,271 (19,900บาท) 1,263 (19,750บาท) 1,254 (19,600บาท) แนวต้าน 1,288 (20,200บาท) 1,296 (20,300บาท) 1,307 (20,500บาท) GOLD FUTURES (GFZ17) แนวรับ 1,271 (20,030บาท) 1,263 (19,900บาท) 1,254 (19,760บาท) แนวต้าน 1,288 (20,300บาท) 1,296 (20,430บาท) 1,307 (20,600บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ