กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--ปภ.
มท.2 มอบนโยบายการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ โดยให้จัดทำแผนป้องกันฯ และจัดซ้อมแผนฯ เป็นประจำทุกปี รวมทั้งจัดทำพื้นที่แก้มลิง ไว้รองรับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าท่วมและเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง ตลอดจนเตรียมความพร้อมบุคลากรและเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ตลอด 24 ชม. หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินให้รีบแจ้งเตือนประชาชนทั้งในระบบ SMS เสียงตามสาย และการสื่อสารทุกช่องทาง เพื่อช่วยลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
นายบัญญัติ จันทน์เสนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จากการเดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสงขลา พบว่า มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชุมพร และสุราษฎร์ธานี รวม 19 อำเภอ 86 ตำบล 567 หมู่บ้าน โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพื้นที่ประสบภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแล้ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ได้มอบนโยบายการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้แก่จังหวัด อำเภอ ส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน 6 จังหวัดดังกล่าว โดยให้มีการจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ในทุกระดับพื้นที่ และจะต้องกำหนดให้มีการซ้อมแผนฯ ดังกล่าวเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ ควรประเมินความรุนแรงของสถานการณ์อุทกภัยให้สูงกว่าปกติ เพื่อที่จะสามารถเตรียมการป้องกันและแก้ไขได้ทันท่วงที พร้อมทั้งจัดหาพื้นที่แก้มลิงไว้รองรับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าท่วมในพื้นที่และเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ทั้งนี้ ให้สำรวจและเตรียมความพร้อมของบุคลากรและเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และให้แต่ละจังหวัด เร่งฝึกอบรมสมาชิก อปพร.ให้ครบตามเป้าหมาย คือ ร้อยละ 2 ของจำนวนประชากร รวมถึงต้องจัดฝึกอบรมทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบลให้ครบถ้วนและมีการสั่งปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ ในส่วนของการเฝ้าระวังและการแจ้งเตือนภัย ให้แต่ละจังหวัดแจ้งไปยังอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อุทกภัยตลอด 24 ชั่วโมง หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินให้รีบแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนโดยด่วน ทั้งในระบบ SMS เสียงตามสายของหมู่บ้าน และการสื่อสารทุกช่องทาง สำหรับการใช้จ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พ.ศ.2549 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2549 ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) รัฐบาลต้องการให้ส่วนราชการต่างๆ ใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด คำนึงถึงความจำเป็นและความคุ้มค่า โดยยึดประชาชนผู้ประสบภัยเป็นหลัก เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม