หัวเว่ยเปิดตัว ASEAN Academy เสริมศักยภาพบุคลากรด้านดิจิทัล เร่งพัฒนาอีโคซิสเต็มดิจิทัล

ข่าวเทคโนโลยี Friday May 22, 2020 08:51 —ThaiPR.net

หัวเว่ยเปิดตัว ASEAN Academy เสริมศักยภาพบุคลากรด้านดิจิทัล เร่งพัฒนาอีโคซิสเต็มดิจิทัล กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ หัวเว่ยเปิดตัว Huawei ASEAN Academy แห่งแรกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในประเทศมาเลเซีย โดยมุ่งให้เป็นศูนย์กลางหลักสูตรการฝึกอบรม ช่วยส่งเสริมความสามารถด้านดิจิทัลในระดับภูมิภาค สำหรับความมุ่งมั่นในครั้งนี้ หัวเว่ยตั้งเป้าฝึกอบรมบุคลากรให้ได้ 50,000 คน ภายในเวลา 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ศูนย์ฝึกอบรมดังกล่าวได้เปิดหลักสูตรอบรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มากกว่า 3,000 หลักสูตร พร้อมผู้อบรมที่มีความเชี่ยวชาญ 100 คนที่จะช่วยพัฒนาความสามารถของบุคลากรด้านดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ “Huawei ASEAN Academy ในประเทศมาเลเซียเป็นศูนย์ฝึกอบรมแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมีบทบาทสำคัญสำหรับการพัฒนาด้าน ICT เพื่อนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจดิจิทัล และที่สำคัญคือการอบรมและพัฒนาคนท้องถิ่นเพื่อให้พวกเขาได้รับความรู้ด้าน ICT อย่างเหมาะสมและสามารถนำไปปรับใช้กับโลกในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ กระทรวงการสื่อสารและมัลติมีเดีย (Ministry of Communications and Multimedia – KKMM) และหัวเว่ยได้สานสัมพันธ์และร่วมงานด้าน ICT กันมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่บริษัท หัวเว่ย มาเลเซีย ได้ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2544 และเรายังคงมุ่งหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะประสบความสำเร็จกับความร่วมมือต่างๆ อีกมากมายในภายภาคหน้า เพื่อผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลไปสู่แนวทางที่ถูกต้อง” นายวายบี ดาโต๊ะ ไซฟุดดิน อับดุลละห์ รัฐมนตรีประจำกระทรวงการสื่อสารและมัลติมีเดียของประเทศมาเลเซีย กล่าว โปรแกรมการฝึกอบรมด้าน ICT ของศูนย์ฝึกอบรมรวมถึงคอร์สต่างๆ ได้รับการออกแบบเพื่อหน่วยงานภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญในภาคอุตสาหกรรม และนักศึกษามหาวิทยาลัย และจะส่งมอบวิธีการที่ครอบคลุมสำหรับการพัฒนาอิโคซิสเต็มด้าน ICT ของประเทศ โครงการนี้จะนำวิธีการเรียนการสอนที่หลากหลายมาปรับใช้ อาทิ การฝึกอบรมโดยอิงพื้นฐานจากสถานการณ์จริงและจากการถ่ายทอดสดในรูปแบบออนไลน์ รวมถึงการไปทัศนศึกษาต่างประเทศ ศูนย์ฝึกอบรมดังกล่าวยังได้มอบโซลูชันที่มีหลากหลายมิติ สำหรับทักษะที่แตกต่างและความต้องการหลากหลายระดับ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโซลูชันเหล่านี้จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการทักษะที่ยังขาดแคลนในกลุ่มเอนเตอร์ไพรส์ปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ “ในขณะที่เรากำลังปรับตัวเข้าสู่การเว้นระยะห่างทางสังคมในฐานวิถีชีวิตใหม่ (new normal) โครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายดิจิทัลที่แข็งแกร่งมีความสำคัญมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยหัวใจสำคัญที่จะส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายดิจิทัลที่เข้มแข็งนั้นยังคงอยู่ที่บุคลากรผู้สร้างและดูแลการบริการต่างๆ เหล่านี้เพื่อชาวมาเลเซีย การอบรมทักษะและโปรแกรมต่างๆ จากศูนย์ฝึกอบรม ASEAN academy จะเสริมศักยภาพของบุคลากรในท้องถิ่นให้มีความพร้อมต่ออนาคตและสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของประเทศได้” นายไมเคิล หยวน ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย มาเลเซีย กล่าว อ้างอิงจากความต้องการของอุตสาหกรรม ศูนย์ฝึกอบรมดังกล่าวได้ตอบโจทย์แก้ความเหลื่อมล้ำด้านบุคลากรของประเทศในสามด้านหลัก คือ การแนะแนวทิศทางของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การเสริมศักยภาพบุคลากรด้านอีโคซิสเต็ม และการพัฒนาทักษะอื่นๆ ศูนย์ฝึกอบรมนี้ได้นำเทคโนโลยีมาใช้เป็นส่วนสำคัญในการเสริมทักษะและพัฒนาบุคลากร เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับรากฐานด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ในฐานะผู้นำด้านโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระดับโลก หัวเว่ย สนับสนุนให้เกิดอีโคซิสเต็มของบุคลากรด้าน ICT ที่เปิดกว้าง และการแบ่งปันข้อมูล จะส่งผลดีต่อทุกฝ่าย ศูนย์ฝึกอบรม Huawei ASEAN Academy แสดงให้เห็นถึงอีกก้าวหนึ่งของหัวเว่ย ในการพัฒนาบุคลากรด้าน ICT และขับเคลื่อนประเทศมาเลเซียให้เข้าสู้ยุคดิจิทัลไปพร้อมกัน เกี่ยวกับหัวเว่ย หัวเว่ย (Huawei) เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกในด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และอุปกรณ์อัจฉริยะ ด้วยโซลูชันแบบครบวงจรใน 4 เรื่องหลัก ได้แก่ เครือข่ายโทรคมนาคม ไอที สมาร์ทดีไวซ์และบริการคลาวด์ เรามุ่งมั่นที่จะนำระบบดิจิทัลไปสู่ทุกคน ทุกบ้านและทุกองค์กรเพื่อเชื่อมต่อกับโลกแห่งความล้ำสมัยด้านสติปัญญา ผลิตภัณฑ์ โซลูชัน และบริการที่ครบวงจรของหัวเว่ยมีศักยภาพด้านการแข่งขันทั้งยังมีความปลอดภัย จากการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในระบบเครือข่าย ทำให้หัวเว่ยสามารถสร้างสรรค์คุณค่าในระยะยาวให้แก่ลูกค้า เสริมประสิทธิภาพให้กับผู้คน ช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่บ้านมีความสะดวกสบาย รวมทั้งสร้างแรงบันดาลให้เกิดนวัตกรรมในองค์กรทุกรูปแบบ หัวเว่ยยังให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยเราได้ทุ่มงบประมาณให้กับการวิจัยและพัฒนา เพื่อค้นหาเทคโนโลยีที่ช่วยขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้า หัวเว่ยมีจำนวนพนักงานมากกว่า 194,000 คน ดำเนินธุรกิจใน 170 ประเทศทั่วโลก โดยบริษัทก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1987 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหัวเว่ย www.huawei.com หรือติดตามเราได้ที่ช่องทางดังต่อไปนี้ http://www.linkedin.com/company/Huawei http://www.twitter.com/Huawei http://www.facebook.com/Huawei http://www.youtube.com/Huawei

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ