'อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ เพิ่มศักยภาพเทคโนโลยีการผลิตก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 นำเข้าเครื่องจักร-ซอฟต์แวร์ จาก HOMAG GROUP เยอรมนี

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 4, 2020 11:43 —ThaiPR.net

'อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ เพิ่มศักยภาพเทคโนโลยีการผลิตก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 นำเข้าเครื่องจักร-ซอฟต์แวร์ จาก HOMAG GROUP เยอรมนี กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย 'อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ หรือ ILM ขานรับนโยบาย 'ไทยอินดัสทรี 2022’ ก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาท นำเข้าเครื่องจักรพร้อมระบบซอฟต์แวร์คุณภาพสูงจาก HOMAG GROUP ผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี เครื่องจักรงานไม้ ที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลก จากเยอรมนี ติดตั้งในโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพ เพิ่มความรวดเร็ว แม่นยำ และลดต้นทุน ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ นายเอกลักษณ์ ปัทมสัตยาสนธิ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาธุรกิจ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน ของตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถด้านการผลิต เพื่อพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง พร้อมตอกย้ำภาพลักษณ์ รวมถึงความสำเร็จในการเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับสากลของกลุ่มบริษัทฯ โดยปี 2561-2562 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ทำการสั่งและติดตั้งเครื่องจักรพร้อมด้วยระบบซอฟต์แวร์ (Software) ที่ทันสมัยจาก HOMAG GROUP ซึ่งเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี สำหรับเครื่องจักรงานไม้ และระบบซอฟต์แวร์ด้านการออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ ที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลก จากเยอรมนี ด้วยงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตเฟอร์นิเจอร์ภายในโรงงานของบริษัทฯ ซึ่งรวมทุกกระบวนการผลิต อาทิ ระบบซอฟต์แวร์ ซึ่งจะช่วยบริหารจัดการงานผลิตทั้งระบบตั้งแต่งานออกแบบ ควบคุม วางแผน ต่างๆ , การติดตั้งหุ่นยนต์ (Robot) สำหรับจัดเก็บไม้แบบ Customize order, เครื่องตัดไม้ ที่ใช้ระบบ Fully Barcode System ระบบอัตโนมัติในขั้นตอนการปิดบาร์โค้ดของไม้ทุกแผ่น ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระบบ MES Controller ส่งข้อมูลตามคำสั่งว่าไม้แผ่นนี้จะตัด ขนาดเท่าไหร่ , ปิดขอบสีอะไร เจาะรูแบบไหน เป็นต้น ก่อนลำเรียงต่อไปที่เครื่องตัดไม้ , เครื่องปิดขอบ Tandem Line โดยสามารถเลือกปิดแถบได้หลากหลายสี โดยไม่ต้องหยุดเครื่องจักรในการเปลี่ยนขอบ และเครื่องเจาะ ที่เป็นระบบ Top High Speed ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังจาก บริษัทฯ ติดตั้งเครื่องจักรและระบบซอฟต์แวร์ดังกล่าว สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและกำลังการผลิตที่รวดเร็วขึ้น 3-4 เท่าต่อ 1 กะ โดยไม่ต้องหยุดพัก เพื่อปรับไลน์การผลิต อีกทั้งเพิ่มความแม่นยำ ลดต้นทุนประหยัดเวลา และได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพระดับสากล นอกจากนี้ ยังนับเป็นโรงงานที่นำระบบจัดเก็บข้อมูลหุ่นยนต์เข้ามาใช้เป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับซอฟต์แวร์ได้อย่างสมบูรณ์ สอดคล้องกับนโยบาย 'ไทยอินดัสทรี 2022’ ของรัฐบาลในการสนับสนุนให้อุตสาหกรรมการผลิตของไทยนำระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และไอทีมากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน และก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ที่นำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติที่ทันสมัยมาใช้ในภาคการผลิต “ที่ผ่านมาเราได้คัดสรรและนำเข้าเครื่องจักรจากบริษัทชั้นนำของโลก เพื่อพัฒนาการผลิตเฟอร์นิเจอร์ในกลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ฯ อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพฐานการผลิตควบคู่กับการลดต้นทุน ขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตออกมามีคุณภาพสูงสุด” นายเอกลักษณ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ