กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมฯ (สอท.) หนุนสินเชื่อเครื่องจักรเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิต เป็นเงินทุนให้เอสเอ็มอีใช้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของเครื่องจักร วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท ผ่อนสูงสุด 5 ปี ตั้งเป้าปล่อยกู้ 5,000 ล้านบาท
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารและ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ได้ร่วมให้ความช่วยเหลือแก่เอสเอ็มอีในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยได้เปิดโครงการสินเชื่อเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกสิกรไทย (K-SME Machine Credit) เพื่อให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่เอสเอ็มอีนำไปพัฒนาเครื่องจักร การปรับปรุงเครื่องจักรเดิมหรือการติดตั้งเครื่องจักร
โครงการดังกล่าว จะให้การสนับสนุนสินเชื่อสำหรับเอสเอ็มอีรายละ 5-50 ล้านบาท อัตรา ดอกเบี้ยต่ำระหว่าง MLR-2.25% ถึง MLR+1% โดยสามารถกู้ได้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน สำหรับการขอสินเชื่อที่มีระยะเวลาการผ่อนชำระไม่เกิน 3 ปี และกู้ได้สูงสุด 80% ของราคาประเมิน สำหรับสินเชื่อที่มีระยะเวลาการผ่อนชำระมากกว่า 3 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี โดยสามารถนำเครื่องจักรที่ตั้งอยู่บนที่ดินและ สิ่งปลูกสร้างที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้กู้มาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้
สำหรับเอสเอ็มอีที่จะขอสินเชื่อเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกสิกรไทย จะต้องเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางที่มียอดขายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทต่อปี หรือเป็นธุรกิจที่มีสินทรัพย์ถาวรสุทธิ ไม่เกิน 200 ล้านบาท หรือมีแรงงานไม่เกิน 200 คน โดยธนาคารฯ คาดว่าจะสามารถปล่อยกู้ให้ ผู้ประกอบการที่สนใจได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ธนาคารฯ มีข้อเสนอพิเศษสำหรับเอสเอ็มอีที่เข้าร่วมโครงการ 100 รายแรก และได้รับอนุมัติสินเชื่อจะได้รับบัตรกำนัลมูลค่า 10,000-20,000 บาท พร้อมทั้งส่วนลด 10% สำหรับค่าเบี้ยประกันเครื่องจักรเสียหาย (Machinery Breakdown) รวมถึงประกันอัคคีภัยอาคารโรงงานที่เครื่องจักรตั้งอยู่จาก ภัทรประกันภัย
นอกจากนี้ในกรณีที่เอสเอ็มอีเป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมฯ จะได้รับสิทธิพิเศษในการสำรองที่นั่งเข้าอบรมโครงการส่งเสริมการจัดการที่ยั่งยืนของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อม (K SME Care) ของธนาคารกสิกรไทยด้วย
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการ สินเชื่อเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตกสิกรไทย จะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อเอสเอ็มอีของไทย เนื่องจากขณะนี้เอสเอ็มอีกำลังเผชิญปัญหาหลายด้าน ทั้งการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่ง ภาวะต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นอันเนื่องมาจากน้ำมันราคาแพง ค่าแรงเพิ่ม ตลอดจนสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการโดยทั่วไป แนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถคงความสามารถในการแข่งขันไว้ได้ คือ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้น โดยการปรับปรุง พัฒนาเครื่องจักรเก่าที่มีอยู่ หรือการเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้น และลดต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลง
ทั้งนี้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมจะให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแต่ละราย เรื่องความคุ้มค่าและแนวทางในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งในกรณีที่ผู้ประกอบการมีความจำเป็นจะต้องลงทุนเพิ่มด้านเครื่องจักรเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ธนาคารกสิกรไทยจะทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนแก่ผู้ประกอบการในการซื้อเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพการผลิตสูงกว่ามาทดแทน หรือเพื่อใช้ในการซ่อมแซมปรับปรุงเครื่องจักรที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพการผลิตสูงขึ้น คาดว่าจะมีผู้ประกอบการได้รับการสนับสนับสนุนทางการเงินจากโครงการนี้ประมาณ 220-250 ราย
ผู้ประกอบการที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ K-Contact Center 0 2888 8888 กด 05 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป