กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค           เอสซี แอสเสท เผยทิศทางการดำเนินงานปี 48 ตั้งเป้าการเติบโตขยายตัวไม่ต่ำกว่า 30 % ตอกย้ำมืออาชีพด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เดินหน้าเปิด 5 โครงการใหม่ ย่านทำเลทอง ภายใต้ i-home Concept  จับตลาดบ้านเดี่ยว,  ทาวน์ฮ้าส์,  คอนโดมิเนียม และ อาคารสำนักงานให้เช่า มูลค่ารวมกว่า  5,000 ล้านบาท  เร่งชูแบรนด์ผู้นำตลาดบ้านแห่งนวัตกรรมใหม่          นายสุรเธียร จักรธรานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยถึง ทิศทางและนโยบายการดำเนินงานในปี 2548 ว่า ตั้งเป้าอัตราการเติบโตขยายตัวไม่ต่ำกว่า 30 % โดยในปี 2548  อัตราการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังคงมีแนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่องจากปัจจัยสนับสนุนการพัฒนาโครงการ เมกกะโปรเจ็กต์ที่จะเกิดขึ้นภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งรวมถึงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐที่จะรองรับกับความต้องการของชุมชนที่จะขยายตัวตามจากผลของเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมต่อกัน  ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้า ส่วนต่อขยายหรือสายใหม่ แนวคิดการพัฒนาเมืองศูนย์กลางการบินสุวรรณภูมิ เป็นต้น ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของเมือง และการย้ายถิ่นฐานสูงมาก            ดังนั้นแผนการพัฒนาโครงการของบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญเรื่องของทำเล ที่ตั้งที่มีศักยภาพ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างต่อเนื่อง  นโยบายการซื้อที่ดินของบริษัทฯ จึงเลือกเฉพาะแปลงที่ดินที่มีศักยภาพสูง ตั้งอยู่ริมถนนไม่เกินเขตที่ตั้งของวงแหวนรอบนอก สามารถเดินทางเข้าสู่ย่านธุรกิจชั้นในของกรุงเทพมหานคร โดยมีรัศมีการเดินทางไม่เกิน 1 ชั่วโมง รวมทั้งใกล้กับโครงข่ายเส้นทางคมนาคมสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนยกระดับต่างๆ รวมถึงสถานีรถไฟฟ้าที่จะพัฒนาใหม่ในอนาคต          สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2548 บริษัทฯ กำหนดยุทธศาสตร์ ในการพัฒนาโครงการ โดยมีรูปแบบการพัฒนา 3 รูปแบบ  ภายใต้  3 แบรนด์หลัก ดังนี้             1) โครงการทาวน์เฮ้าส์ ภายใต้ชื่อแบรนด์  “ Vista Park ”  ได้แก่  โครงการวิสต้า ปาร์ค วัชรพล  ทาวน์เฮ้าส์หรู 3 ชั้น และคอมเมอร์เชียลเฮ้าส์ 3.5 ชั้น  บนเนื้อที่ 14  ไร่ 1 งาน  ราคาเริ่มต้นทาวน์เฮ้าส์  2.85 - 4  ล้านบาท ส่วนคอมเมอร์   เชียลเฮ้าส์ 3.8-7.5  ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 420 ล้านบาท             2) โครงการอาคารชุดพักอาศัย ภายใต้ชื่อแบรนด์  “ Centric Scene ”  ได้แก่ โครงการเซ็นทริค ซีน  พหลโยธินซอย 9 คอนโดระดับหรูย่านใจกลางเมือง ใกล้สถานีรถไฟฟ้าซอยอารีย์ ตรงข้ามอาคาร ชินวัตรทาวเวอร์ 2  เนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน สูง 24 ชั้น จำนวน 206 ยูนิต ขนาด 45-114 ตรม. ราคาเริ่มต้น 2. 55 — 7 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 710 ล้านบาท            3) โครงการบ้านเดี่ยว ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ บางกอก บูเลอวาร์ด ”  นอกจากบางกอกบูเลอวาร์ด รามอินทรา-วงแหวน-นวมินทร์ ที่มีความคืบหน้าด้านการตัดถนนรัชดา-รามอินทราอย่างชัดเจนแล้ว มีกำหนดจะเปิดโครงการใหม่ บางกอกบูเลอวาร์ด พระราม 5 บ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิรน์ โคโลเนียล จำนวน 242 ยูนิต ขนาด 52-140 ตรว. ระดับราคา 4.85 —9 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,650 ล้านบาท          ทั้ง 3 โครงการข้างต้น บริษัทฯ กำหนดเปิดตัวโครงการภายในไตรมาสที่ 1-2 ของปีนี้  สำหรับช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทกำหนดแผนที่จะเปิดโครงการเพิ่มอีก 2 โครงการมูลค่าโครงการรวมกว่า 2,000 ล้านบาท  ซึ่งอยู่ระหว่างการสรุปรูปแบบการพัฒนาโครงการ คือ โครงการที่ถนนแจ้งวัฒนะ — สามัคคีตัดใหม่ และโครงการถนนวิภาวดี คาดว่าจะเป็นโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย พร้อมกับอาคารสำนักงานประเภทโลว์ไรส์  รวมมูลค่าของทั้ง 5 โครงการประมาณ 5,000 ล้านบาท              นายสุรเธียร กล่าวต่อว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ โดยมีรายได้ประจำจากการขายที่เติบโตอย่างรวดเร็วจากธุรกิจที่อยู่อาศัย และรายได้จากการเช่าจากธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า ในสัดส่วนร้อยละ 70 และ 30 ตามลำดับ และพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อสร้างความแตกต่างและจุดขายที่เหนือกว่าคู่แข่ง           นางสาวกัลยา โตวรรธกวณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักการตลาดและการขาย กล่าวเสริม ด้านยุทธศาสตร์ทางการตลาด และการขายของบริษัทฯ ในปีนี้ว่า เพื่อเป็นการบริหารงบประมาณการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ  จะมุ่งเน้นแนวคิดหลักในการพัฒนาคุณค่าเพิ่มให้ลูกค้าโดยตรงอย่างต่อเนื่อง (Customer- value chain) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รูปแบบกิจกรรมจึงมุ่งเน้นที่การให้ความสำคัญกับการสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งทางด้านอรรถประโยชน์และความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยมี 4 แนวทางหลัก ดังนี้            1) แนวทางการเสริมสร้างภาพลักษณ์เฉพาะโครงการในเครือเอสซี แอสเสท ( Brand Identity ) โดยมุ่งพัฒนาโครงการโดยผนวกนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี ทั้งทางด้านสารสนเทศและการประหยัดพลังงานเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ภายใต้ชื่อ “ i-home ”              2) แนวทางการจัดกิจกรรมการตลาดและการขายแบบ One — to — One Marketing เพื่อสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ในลักษณะส่วนตัว ( Personal Approach )  ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดโปรโมชั่นราคา แบบ Time Pricing การจัดส่วนลด หรือของแถมตามที่ลูกค้าแต่ละคนต้องการเลือกเอง หรือการใช้สื่อรูปแบบใหม่เสริมกับสื่อหลัก (High impact-mass media ) ที่มีการสื่อสารแบบเทคโนโลยีไร้สาย เช่น SMS  หรืออินเตอร์เน็ตถึงลูกค้าแต่ละรายได้อย่างเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เป็นต้น              3) แนวทางจัดกิจกรรมการตลาดที่สร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า  ( CRM : Customer Relationship Management )  ภายใต้ชื่อโครงการ ” i Club ” เพื่อจัดกิจกรรมเสริมสร้างและพัฒนาความรู้เกี่ยวกับแบบแผนการใช้ชีวิต การอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่  นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ และกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างลูกบ้าน ทั้งในโครงการเดียวกันและโครงการในเครือเอสซี แอสเสท ทั้งหมด           4) การจัดให้มีการบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลสภาพที่อยู่อาศัยให้มีมูลค่าเพิ่มในอนาคต ด้วยการจัดให้มีหน่วยงานหลักรองรับงานในส่วนนี้ภายใต้ชื่อ ”SC SMART SERVICE ” รวมถึงการจัดให้มี ”SC Privilege Card ” เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้เป็นบัตรสิทธิพิเศษในการได้รับสิทธิประโยชน์และส่วนลดในการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของร้านค้าและบริษัทคู่สัญญาทั้งกับบริษัทในเครือและบริษัทอื่นๆ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิดของการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึงความต้องการในอนาคต          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ           คุณภัทธิรา บุรี  หรือ คุณฤดี ธรรมเทียร            บริษัท พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค จำกัด          โทร.0-2937-4518-9  โทรสาร. 0-2937-4596           Email : patthira@pr-one , [email protected]           สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--