ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่อยู่แถวหน้าในการใช้เทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรสมัยใหม่ ในการผลิตอาหาร

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday April 20, 2005 10:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่อยู่แถวหน้าในการใช้เทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตรสมัยใหม่ เป็นอีกหนึ่ง
ทางเลือกในการผลิตอาหารเพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนประชากรของประเทศที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน บรรเทาความยากจนของเกษตรกร รวมทั้งส่งผลทางอ้อมต่อสถานภาพของสตรี เนื่องจากผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร
ดร. ไคล์ฟ เจมส์ ประธานกรรมการแห่งองค์การไอซ่า (ISAAA) ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้ข้อมูลด้านเทคโนโลยี ชีวภาพสมัยใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ มีเกษตรกรจำนวน 8.1 ล้านคน ทั่วโลกที่ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี
ชีวภาพการเกษตรสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่กำลังพัฒนา
ในประเทศฟิลิปปินส์ เกษตรกรประมาณ 50,000 คน ได้ปลูกข้าวโพดบีที หรือข้าวโพดปรับปรุงพันธุ์ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ ซึ่งสามารถต้านแมลงที่กัดกินฝักข้าวโพดได้
ดร. เจมส์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคระบาดในการเกษตรกล่าวว่า ในพื้นที่ที่ปลูกข้าวโพดบีที
ในจังหวัดควาซูลู นาตัล ของประเทศอาฟริกาใต้ และแคว้นซินเกียงในประเทศจีน สตรีมีบทบาทสำคัญ ในการส่งเสริมเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร
“สตรีเป็นผู้ผลิตอาหารทั้งสำหรับมนุษย์และสัตว์ ประมาณร้อยละ 80 ของผลิตผลทั้งหมดในประเทศ
อาฟริกาใต้ และเป็นเรื่องที่ประหลาดใจเมื่อพบว่า ในประเทศฟิลิปปินส์ เกษตรกรสตรีส่วนใหญ่ มีส่วนสำคัญในการปลูกข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรม” ดร.เจมส์กล่าว
ประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ นางกลอเรีย มาคาปากัล อาโรโย่ เป็นผู้อนุมัติให้มีการใช้เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อการเกษตรสมัยใหม่ในฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดี อาโรโย่ เป็นตัวจักรกลสำคัญในการใช้เทคโนโลยี
ชีวภาพสมัยใหม่ในฟิลิปปินส์ และเป็นแม่แบบให้แก่ประเทศอื่นๆ ในเอเชีย
ดร. เจมส์ ระบุว่า เทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ช่วยเพิ่มผลผลิตของข้าวโพดถึงร้อยละ 40 หรือ แปดเท่าของผลผลิตที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ในสหรัฐอเมริกา โดยมูลค่าของผลผลิตจากพืชปรับปรุงพันธุ์ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ในปี 2545 มีถึง 44,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1,760,000 ล้านบาท)
เขากล่าวต่อไปว่า เทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่จะสามารถเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความสามารถในการเลี้ยงประชากรโลกในปีค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) ซึ่งเป็นปีที่ประชากรร้อยละ 90 จะเป็นประชากรของประเทศที่กำลังพัฒนาในเอเชีย ลาตินอเมริกา และอาฟริกา
เขากล่าวว่า เทคโนโลยีชีวภาพจะช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันมิให้ดินสึกกร่อน และขณะนี้ มีนักวิทยาศาสตร์อีกกลุ่มหนึ่ง กำลังค้นคว้าหาพันธุ์พืชที่ต้านความแห้งแล้งได้
“เทคโนโลยีดัดแปรพันธุกรรมได้พิสูจน์ด้วยตัวมันเองว่ามีความปลอดภัย ซึ่งจากประสบการณ์ถึง 10 ปี
ที่มีการปลูกพืชชนิดนี้ ยังไม่ปรากฎว่า มีผู้เสียชีวิตจากการรับประทานพืชดังกล่าว มีเกษตรกรเป็นพันๆ คนที่พิสูจน์ได้ว่า เทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่มีประโยชน์อย่างสูง และยังไม่เคยมีรายงานว่าเกษตรกรคนใด ขาดทุน หรือเสียชีวิตจากการใช้เทคโนโลยีนี้” ดร. เจมส์กล่าวสรุป
ในรายงานประจำปี 2547 ขององค์การไอซ่า (ISAAA) ประเทศฟิลิปปินส์ ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 14 ในบรรดาประเทศที่ผลิตอาหารจากพืชปรับปรุงพันธุ์ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพการเกษตรสมัยใหม่
ข้อมูลจาก
http://www.bworld.com.ph/weekender/agribusiness/agribusiness3.html--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ