ทริสเรทติ้งประกาศ “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” แก่อันดับเครดิตองค์กร “บ. ทีพีไอ โพลีน”

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 21, 2008 12:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศ “เครดิตพินิจ” แนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ” สำหรับเครดิตองค์กรของ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) โดยยังคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทไว้ที่ระดับ “BBB” การประกาศ “เครดิตพินิจ” ในครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลอาญาแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำสั่งศาลอาญาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2550 ทั้งนี้ แนวโน้ม “ลบ” สะท้อนความกังวลว่าการบังคับคดีตามคำสั่งศาลจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องและการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญแม้ว่าธุรกิจหลักของบริษัทยังคงสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งก็ตาม
ทริสเรทติ้งรายงานว่า การฟ้องร้องเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2549 และเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2550 ศาลอาญาได้พิพากษาว่าบริษัททีพีไอ โพลีนได้กระทำผิดโดยละเมิด พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยการเผยแพร่ข้อมูลนอกเหนือจากข้อมูลที่ได้แจ้งไว้กับตลาดหลักทรัพย์ และพิพากษาปรับบริษัทเป็นจำนวนเงิน 6,900 ล้านบาท ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2551 บริษัทได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลอาญาต่อศาลอุทธรณ์ โดยเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2551 บริษัทได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอระงับการบังคับคดีไว้ก่อน แต่ศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้อง ต่อมาเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2551 บริษัทจึงได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งยกคำร้องของศาลอาญาต่อศาลอุทธรณ์ เนื่องจากขณะนี้คดีต่างๆ เหล่านี้อยู่ภายใต้การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ บริษัทจึงมีความเห็นว่ายังไม่ต้องชำระค่าปรับตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 และเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2551 ศาลอาญาได้มีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ต่อมาเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2551 บริษัทได้ยื่นคำร้องคัดค้านการแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีต่อศาลอาญา ซึ่งศาลอาญาได้มีคำสั่งรับคำร้องคัดค้านดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัททีพีไอ โพลีนยึดหลักความระมัดระวังโดยการตั้งสำรองหนี้สินจากค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 6,900 ล้านบาทไว้ในงบการเงิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 โดยบริษัทยังคงดำเนินการอุทธรณ์และโต้แย้งตามกระบวนการทางศาลต่อไป ทั้งนี้ ถึงแม้สำรองเงินค่าปรับจะเป็นรายการที่ไม่กระทบต่อตัวเงิน แต่ก็ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทลดลงจาก 57,837 ล้านบาท (ก่อนการตั้งสำรอง) เหลือ 50,937 ล้านบาท (หลังการตั้งสำรอง) ซึ่งทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทลดลง
ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งจะปลดเครดิตพินิจออกเมื่อการประเมินผลกระทบที่จะมีต่อฐานะทางการเงินของบริษัททีพีไอ โพลีน อันเกิดจากคดีเหล่านี้เป็นที่ชัดเจนแล้ว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ