ปภ. เตือนประชาชนระมัดระวังอุบัติภัยต่างๆในช่วงฤดูฝน

ข่าวทั่วไป Wednesday September 10, 2008 15:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--ปภ.
ขณะนี้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากร่องความกดอากาศต่ำและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พาดผ่าน ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอุบัติภัยต่างๆขึ้นได้ในหลายรูปแบบ เช่น ฟ้าผ่า ป้ายโฆษณาล้มทับ ดินโคลนถล่ม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติภัยต่างๆ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะวิธีปฏิบัติตนอย่างปลอดภัย เพื่อป้องกันอุบัติภัยที่มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน ดังนี้ อุบัติภัยจากลมกระโชกแรง ประชาชนควรเก็บสิ่งของที่สามารถปลิวไปตามลมไว้ในที่มิดชิด หากอยู่กลางแจ้ง ควรรีบเข้าไปหลบพักในอาคารที่มีความมั่นคงแข็งแรง หรือบริเวณที่มีความปลอดภัย เพื่อป้องกันมิให้สิ่งของปลิวใส่จนได้รับอันตราย หากอยู่ในบ้านเรือน ควรปิดประตูหน้าต่างให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันแรงลมหอบพัดบ้านเรือน อุบัติภัยจากต้นไม้และป้ายโฆษณาล้มทับ หลีกเลี่ยงการหลบฝนในบริเวณใต้ต้นไม้หรือใกล้กับป้ายโฆษณา และ เสาไฟฟ้า เพราะอาจได้รับอันตรายจากการหักโค่นล้มทับ หมั่นตรวจสอบดูแลต้นไม้บริเวณรอบบ้าน โดยตัดกิ่งไม้ที่ไม่แข็งแรง เช่น ต้นไม้ชนิดที่ไม่มีแก่นหรือโคนต้นถูกน้ำกัดเซาะจนรากลอย เพราะหากโดนลมพายุพัดจะหักโค่นได้ง่ายและเสี่ยงต่อการล้มทับบ้านเรือน หากพบเห็นป้ายโฆษณาไม่แข็งแรง ควรแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบแก้ไขและรื้อถอนออก อุบัติภัยจากฟ้าผ่า ในช่วงที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง มักเกิดฟ้าผ่าเสมอ เพื่อความปลอดภัย ควรอยู่ในอาคารที่มีสายล่อฟ้า หลีกเลี่ยงการพกพาสื่อนำไฟฟ้าที่เป็นโลหะหรือใส่เครื่องประดับประเภทเงิน ทองแดง หรือนาค ไม่อยู่ใกล้บริเวณที่มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่เป็นโลหะ งดใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดฟ้าผ่า หากอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้งให้นั่งหมอบ ห้ามนอนราบอย่างเด็ดขาด และอย่าเข้าไปหลบฝนบริเวณใต้ต้นไม้สูง รวมถึงหลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นกีฬา ทำนา จับปลา เก็บเกี่ยวผลผลิต บริเวณกลางแจ้งในช่วงที่เกิดพายุ หากอยู่ในรถและฟ้าผ่าลงมาที่ตัวรถ ให้อยู่ภายในรถ ห้ามวิ่งหนีออกจากรถอย่างเด็ดขาด เพราะกระแสไฟจะไหลไปตามผิวโลหะของตัวถังภายนอกแล้วจะไหลลงสู่พื้นดิน โครงสร้างภายในรถจะเป็นเกราะคุ้มกันอันตรายจากฟ้าผ่า อุบัติภัยจากดินโคลนถล่ม จากการสำรวจข้อมูลทางธรณีวิทยา พบว่า พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินโคลนถล่ม ส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณหุบเขา พื้นที่ลาดชันสูง พื้นที่ราบลุ่มแอ่งกะทะ พื้นที่ถมดินใหม่ที่มีความลาดชัน ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สี่ยงดังกล่าว ควรเพิ่มความระมัดระวังโดยติดตามรับฟังพยากรณ์อากาศ จัดเวรยามเฝ้าระวัง ติดตามการพยากรณ์อากาศ และสังเกตสัญญาณเตือนภัยทางธรรมชาติ หากมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน (มากกว่า ๑๐๐ มม. ต่อวัน หรือตกนานกว่า ๖ ชั่วโมง) ระดับน้ำในห้วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สีของน้ำเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับสีดินบนภูเขา สัตว์ป่าแตกตื่น ให้สันนิษฐานว่าอาจเกิดดินถล่ม ควรรีบอพยพออกจากพื้นที่ทันที โดยหนีขึ้นที่สูงหรือสถานที่ปลอดภัย หาต้นไม้ขนาดใหญ่เกาะไว้และปีนขึ้นให้พ้นน้ำจึงจะปลอดภัย ถ้าจำเป็นต้องขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงภัยดินถล่มในช่วงฝนตก ควรระมัดระวังดินโคลนถล่มและก้อนหินหล่นลงมาปิดทับเส้นทาง สุดท้ายนี้ ประชาชนควรระมัดระวังอันตรายจากอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน เก็บสิ่งของบริเวณบ้าน ที่ไม่สามารถรับแรงลมให้อยู่ในที่มิดชิด หลีกเลี่ยงการหลบฝนใต้ต้นไม้หรือป้ายโฆษณา หากเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและฟ้าผ่า ควรงดใช้อุปกรณ์สื่อสาร และไม่ประกอบกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เก็บเกี่ยวผลผลิต เล่นกีฬา เป็นต้น ที่สำคัญ หากมีฝนตกหนักติดต่อกันในพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม ประชาชนควรติดตามรับฟังประกาศแจ้งเตือนภัย จากหน่วยงานภาครัฐ และจัดเวรยามเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อเตรียมพร้อมในการอพยพออกจากพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ