SPPT รุกหนักธุรกิจเปลี่ยนขยะเป็นน้ำมัน เตรียมติดตั้งเครื่องที่ 2 เทศบาลเมืองหัวหิน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 3, 2008 08:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--ออนไลน์ แอสเซ็ท ธุรกิจเปลี่ยนขยะเป็นน้ำมันของ SPEE ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ SPPT ฉายแววสดใสหลังติดตั้งเครื่องแรกที่จังหวัดระยอง ล่าสุดบรรลุข้อตกลงกับเทศบาลเมืองหัวหินอีก 1 เครื่อง เตรียมติดตั้งพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2552 โดยรับขยะได้มาถึง 10 ตันต่อวันและจะกลั่นเป็นน้ำมันได้ถึง 5,000-7,500 ลิตร ด้วยระบบไพโรไลสิต ซึ่งทำให้ไม่มีมลภาวะในเรื่องเสียงและกลิ่นรบกวนชุมชน คาดปีหน้าขายได้อีกไม่ต่ำกว่า 5 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าขายรวมไม่ต่ำกว่า 250 ลบ. นายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)(SPPT) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินธุรกิจของ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ เอ็นเนอร์ยี่ แอนด์ เอ็นไวรอนเม้นท์ จำกัด (SPEE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SPPT ว่ามีแนวโน้มที่สดใส หลังจากที่ได้ติดตั้งเครื่องจักรนำร่อง ณ เทศบาลนครระยอง โดยปัจจุบันได้ดำเนินการติดตั้งไปแล้วกว่า 90% และคาดว่าจะสามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนธันวาคมนี้ (SPEE เป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ ซึ่งบริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท Northern Technology International ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยและในกลุ่มประเทศอินโดจีนที่ได้รับลิขสิทธิ์ในการนำเข้านวัตกรรม ในการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันดิบซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากประเทศโปแลนด์) ล่าสุด 16 อปท.ประจวบคีรีขันธ์ตอนเหนือได้บรรลุข้อตกลงรับการสนับสนุนจากกระทรวงพลังงาน และให้ SPEE นำเทคโนโลยีแปรรูปขยะพลาสติดเป็นน้ำมัน หรือ Polymer Energy Technology เครื่องที่ 2 มาติดตั้งโดยมีเทศบาลเมืองหัวหินเป็นแกนนำ ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งเสร็จและผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2552 โดยสามารถรองรับขยะพลาสติกได้มากถึง 10 ตันต่อวัน และจะผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 5,000-7,500 ลิตร หรือประมาณ 30-47 บาร์เรล( ขึ้นอยู่กับความสะอาดของพลาสติก)โดยน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผลิตได้จะแบ่งเป็น เบนซิน 20% ดีเซล 50% และน้ำมันเตา 30% "หลังจากที่ติดตั้งเครื่องจักรนำร่องที่เทศบาลนครระยอง และเทศบาลเมืองหัวหินเป็นเครื่องที่ 2 ถือเป็น การส่งสัญญาณที่ดีสำหรับธุรกิจนี้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีการเติบโตที่ดีในอนาคต โดยคาดว่าในปี 2552 จะสามารถขายเครื่องจักร Polymer Energy เพิ่มได้อีกไม่ต่ำกว่า 5 เครื่องซึ่งจะทำให้ SPEE มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท นอกจากนี้ยังจะมีรายได้อีกส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายสารเร่งปฎิกิริยาและการดูแลซ่อมบำรุง ซึ่งจะส่งเป็นผลบวกกับ SPPT ในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SPEE ด้วย " นายประพจน์กล่าวในที่สุด นายพีระพล สาครินทร์ หัวหน้าคณะผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานให้ความสนใจเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อการสร้างพลังงานทางเลือกเสมอซึ่ง Polymer Energy Technology เป็นอีกทางเลือกที่สำคัญทำให้ได้รับพลังงานน้ำมันจากกระบวนการแปรรูปขยะพลาสติก ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นฝังอยู่ใต้ดินจะสามารถนำมาผลิตเป็นน้ำมันที่มีคุณค่าต่อท้องถิ่นทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และประเทศไทยมีวัตถุดิบที่สามารถนำมาแปรรูปได้หลายสิบล้านตัน ทดแทนการนำเข้าน้ำมันดิบได้ 7-10% คิดเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท นางสันติวิภา พานิชกุล กรรมการบริหาร บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ เอ็นเนอร์ยี่ แอนด์ เอ็นไวรอนเม้นท์ จำกัด (SPEE) กล่าวเสริมว่าเทคโนโลยีการผลิตน้ำมันจากขยะพลาสติกโดยวิธีการโพโรไลซิส ด้วยตัวเร่งปฏิกิริยาพิเศษแบบต่อเนื่อง จะไม่ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะทั้งทางเสียงและกลิ่นกับชุมชน โดยได้รับรางวัลชนะเลิศการประดิษฐ์นวัตกรรมเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปในปี 2006 ข้อมูลโดยสังเขป : บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)(SPPT) กลุ่มบริษัทประกอบด้วยบริษัทย่อย 2 บริษัท คือ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ เมดิคอล พาร์ท จำกัด (“SPMP”) ถือหุ้นโดยบริษัทร้อยละ 49.99 ดำเนินธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Grade) และบริษัท ซิงเกิ้ลพอยท์ เอ็นเนอร์ยี่ แอนด์ เอ็นไวรอนเม้นท์ จำกัด (“SPEE”) ถือหุ้นโดยบริษัทร้อยละ 49.99 ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทนโดยการจำหน่าย ประกอบและติดตั้งเครื่องจักรแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ และจำหน่ายสารเร่งปฏิกริยาในการแปรรูปเศษพลาสติกเป็นน้ำมันดิบลักษณะผลิตภัณฑ์ของบริษัทแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังต่อไปนี้ 1. ส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (Hard Disk Drive) 1.1 ชิ้นส่วนสำหรับนำไปประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ Pivot ซึ่งเป็นตัวยึดแขนอ่าน 1.2 ชิ้นส่วนสำหรับนำไปประกอบเป็นผลิตภัณฑ์ Spindle Motor ซึ่งใช้ในการขับเคลื่อนแผ่นจานเก็บข้อมูล 2. ส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (Non Hard Disk Drive) 2.1 ส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มคอนซูมเมอร์ อิเล็คโทรนิค และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (Consumer Electronic &Entertainment) เช่น ชิ้นส่วนสำหรับกล้องถ่ายรูป กล้องถ่ายวีดิโอ เอมพี 3 เครื่องเล่นเกมส์ 2.2 ส่วนประกอบสำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ชิ้นส่วนสำหรับรถจักรยานยนต์ 3. ชิ้นส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท SPMP โดยได้ดำเนินการจดสิทธิบัตรของผลิตภัณฑ์วาล์วพลาสติกที่ประเทศญี่ปุ่นสำหรับอุปกรณ์การไหลเวียนของเหลวซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่สามารถให้ยาแก่ผู้ป่วยที่มีการต่อสายยางจากร่างกายโดยไม่ต้องใช้เข็มฉีดยา 4. เครื่องจักรแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ ดำเนินธุรกิจภายใต้บริษัท SPEE ทั้งนี้ SPEE จะนำเข้าเครื่องจักรแปรรูปขยะเป็นน้ำมันดิบจากต่างประเทศมาขายและติดตั้งให้กับลูกค้า และมีการบริการต่อเนื่องในการขายเครื่องจักรดังกล่าว คือ การขายตัวเร่งปฏิกิริยาในการสลายพลาสติกเป็นน้ำมันดิบ (Catalyst), การให้บริการในการดูแลรักษาเครื่องจักร (Maintenance) และการบริการขนส่งน้ำมันดิบที่ได้จากขยะไปยังโรงกลั่นน้ำมัน (Logistic) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย) 02-554-9396 , 085-133-0184

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ