แมกน่าแจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 และผลประกอบการถึงปัจจุบัน

ข่าวทั่วไป Tuesday November 18, 2008 16:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 พ.ย.--จิ๊กซอว์ คอมมูนิเคชั่นส์ แมกน่า อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ (TSX: MG.A; NYSE: MGA) รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 และในรอบ 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 ในวันนี้ แมกน่าแจ้งยอดปริมาณการขายของบริษัทที่ 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อสิ้นสุดไตรมาสที่ 3 ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 ซึ่งลดลง 9% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 ระดับปริมาณการขายที่ลดลงนี้เป็นผลมาจากยอดขายจากการผลิตและการประกอบรถยนต์ทั้งคันในทวีปอเมริกาเหนือที่ต่ำลง แต่ในขณะเดียวกันยอดขายจากการผลิตรวมทั้งการบริการด้วยเครื่องมือ การวิศวกรรม และยอดขายอื่นๆ ในยุโรป และประเทศอื่นๆ ในโลกเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยสมทบส่วนที่ลดลง ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2551 มูลค่าชิ้นส่วนรถยนต์โดยเฉลี่ยต่อรถยนต์ 1 คันที่บริษัทได้รับในทวีปอเมริกาเหนือยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ในทวีปยุโรปนั้นเพิ่มสูงขึ้น 10% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ในปี 2549 นอกจากนี้การผลิตรถยนต์ในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปลดลง 18% และ 8% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับการผลิตในไตรมาสที่ 3 ของปี 2549 ยอดขายจากการประกอบรถยนต์ทั้งคันลดลง 20% มาอยู่ที่ 687 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 3 ของปี 2551 เมื่อเทียบกับ 859 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 และจำนวนรถยนต์ที่ประกอบทั้งคันลดลง 40% จากตัวเลขของไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้วมาอยู่ที่ 25,231 คัน ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2551 ผลประกอบการขาดทุน 112 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดทุนสุทธิ 215 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีผลต่อรายได้ต่อหุ้นปรับลดลงอยู่ที่ 1.93 เหรียญสหรัฐ ซึ่งลดลง 379 ล้านเหรียญสหรัฐ 370 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 3.31 เหรียญสหรัฐ ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ในปี 2550 ในช่วงสิ้นสุดไตรมาสเมื่อ 30 กันยายน 2551 บริษัทมีการบันทึกรายการนอกเหนือดังต่อไปนี้ ค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ระยะยาว การสำรองภาษีสินทรัพย์ในอนาคต การใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างของการดำเนินงาน และผลกำไรของค่าเงินตราต่างประเทศ ยอดรวมของค่าใช้จ่ายสุทธิของรายการนอกเหนือมีทั้งสิ้น 234 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในแต่ละหุ้นมียอดรวมของค่าใช้จ่ายสุทธิของรายการนอกเหนือเหล่านี้อยู่ที่ 2.10 เหรียญสหรัฐ และในช่วงสิ้นสุดไตรมาสที่ 3 เมื่อ 30 กันยายน 2551 เรามีรายได้ที่เป็นเงินสดจากการดำเนินงานต่างๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ดำเนินงานที่ไม่ได้อยู่ในรูปของเงินสดและหนี้สินจำนวน 285 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการลงทุนเงิน 35 ล้านเหรียญในสินทรัพย์ดำเนินงานที่ไม่ได้อยู่ในรูปของเงินสดและหนี้สิน กิจกรรมการลงทุนทั้งหมดในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 มีมูลค่าทั้งสิ้น 236 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมการเพิ่มสินทรัพย์ถาวรจำนวน 150 ล้านเหรียญสหรัฐ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 4 ล้านเหรียญสหรัฐ และการเพิ่มสินทรัพย์อื่นๆ จำนวน 82 ล้านเหรียญสหรัฐ ผลประกอบการรอบ 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 เรามีปริมาณการขายในช่วงรอบ 9 เดือนสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551 อยู่ที่ 18.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากช่วงรอบ 9 เดือนสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2550 ถึง 2% ระดับปริมาณการขายที่ลดลงนี้เป็นผลมาจากยอดขายจากการผลิตและการประกอบรถยนต์ทั้งคันในทวีปอเมริกาเหนือ แต่ในขณะเดียวกันยอดขายจากการผลิตรวมทั้งการบริการด้วยเครื่องมือ การวิศวกรรมและยอดขายอื่นๆ ในยุโรป และประเทศอื่นๆ ในโลกเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยสมทบส่วนที่ลดลง ในช่วงรอบ 9 เดือนสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551 มูลค่าชิ้นส่วนรถยนต์โดยเฉลี่ยต่อรถยนต์ 1 คัน ที่บริษัทได้รับในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปเพิ่มสูงขึ้น 2% และ 18% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับในช่วงรอบ 9 เดือนของปี 2550 แต่ในช่วงรอบ 9 เดือนสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551 การผลิตรถยนต์ในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปลดลง 14% และ 3% ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับการผลิตรถยนต์ในช่วงรอบ 9 เดือนของปี 2550 ในช่วงรอบ 9 เดือนสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551 ยอดขายจากการประกอบรถยนต์ทั้งคันลดลง 7% มาอยู่ที่ 2.827 พันล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2550 ที่มียอดขายอยู่ที่ 3.027 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์ประกอบทั้งคันลดลง 31% มาอยู่ที่ 108,503 คัน เปรียบเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 ในช่วงรอบ 9 เดือนสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551 มีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 493 ล้านเหรียญสหรัฐ มีรายได้สุทธิ 219 ล้านเหรียญสหรัฐ และผลรายได้ต่อหุ้นปรับลดอยู่ที่ 1.92 เหรียญสหรัฐ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 3 ในปี 2550 ยอดลดลง 456 ล้านเหรียญสหรัฐ 416 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 3.77 เหรียญสหรัฐตามลำดับ ในช่วงรอบ 9 เดือนสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551 บริษัทมีรายได้ที่เป็นเงินสดจากการดำเนินงานต่างๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ดำเนินงานที่ไม่ได้อยู่ในรูปของเงินสดและหนี้สินจำนวน 1.21 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีการลงทุนเงิน 532 ล้านเหรียญในสินทรัพย์ดำเนินงานที่ไม่ได้อยู่ในรูปของเงินสดและหนี้สิน กิจกรรมการลงทุนทั้งหมดในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2551 มีมูลค่าทั้งสิ้น 770 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งการเพิ่มสินทรัพย์ถาวรจำนวน 465 ล้านเหรียญสหรัฐ การซื้อบริษัทรายย่อยอีก 109 ล้านเหรียญสหรัฐ และการลงทุนและเพิ่มสินทรัพย์อื่นๆ จำนวน 196 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงรอบ 9 เดือนสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2551บริษัทยังได้มีการซื้อคืนหุ้นประเภทคลาส เอ ที่ด้อยสิทธิ์ลงมติด้วยเงินสดจำนวน 245 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามข้อตกลงในกระบวนการรับซื้อคืนตามปกติ มร.ดอน วอร์คเกอร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม ของ แมกน่า ให้ความคิดเห็นว่า “การที่เราตกอยู่ในสภาวะที่ท้าทายของวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ในอเมริกาเหนือเป็นอย่างมาก รวมไปถึงการผลิตและยอดขายรถยนต์ที่ลดลง ทำให้เราจำเป็นต้องปรับโครงสร้างขององค์กรต่อไปด้วยความระมัดระวัง อย่างไรก็ตามเรายังคงร่วมลงทุนในด้านโปรแกรมและเทคโนโลยีใหม่ๆกับลูกค้าของแมกน่าเพื่อความเจริญเติบโตที่จะเป็นผลประโยชน์ของลูกค้า พนักงาน และผู้ถือหุ้นของเราในปีต่อๆ ไป” มร.วินเซ็นต์ เจ กัลลิฟาย กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และ หัวหน้าฝ่ายการเงิน กล่าวว่า “ในช่วงไตรมาสที่ 3 ภาวะขาลงของอุตสาหกรรมรถยนต์ในทวีปอเมริกาเหนือแย่ลงและลามไปถึงยุโรปตะวันตก ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลที่ไม่ดีต่อทางการเงินของเราในช่วงไตรมาสที่ 3 และไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะดีขึ้นอย่างเป็นที่น่าสังเกตในระยะใกล้นี้ ภายในแมกน่า เรากำลังทบทวนทุกสิ่งทุกอย่างในการใช้เงินสดเพื่อที่จะรักษาสถานะการเงินที่มั่นคงท่ามกลางความยุ่งเหยิงที่ผู้ประกอบการอีกหลายรายในวงการรถยนต์กำลังเผชิญอยู่ และการที่คณะกรรมการของเราได้พิจารณาปรับการจ่ายเงินปันผลเนื่องจากผลกำไรที่ลดลง และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระยะเวลาที่อุตสาหกรรมจะฟื้นตัวในตลาดดังเดิมของเราที่สะท้อนถึงมุมมองนี้” รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 และในรอบ 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 ผลประกอบการในรอบไตรมาสที่ 3 ผลประกอบการในรอบ 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30กันยายน สิ้นสุดวันที่ 30กันยายน 2551 2550 2551 2550 ปริมาณการขาย $ 5,533 $ 6,077 $ 18,868 $ 19,231 รายได้(ขาดทุน)จากการดำเนินงาน $ (112) $ 267 $ 493 $ 949 รายได้(ขาดทุน)สุทธิ $ (215) $ 155 $ 219 $ 635 ผลรายได้(ขาดทุน)ต่อหุ้นปรับลด $ (1.93) $ 1.38 $ 1.92 $ 5.69 ผลประกอบการทั้งหมดจะรายงานเป็นจำนวนล้านเหรียญสหรัฐ ยกเว้นราคาต่อหน่วย สถานการณ์ในปี 2551 ในปี 2551 บริษัทได้ลดความคาดคะเนในการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กในอเมริกาเหนืออย่างมากตลอดปี ณ ตอนนี้เราคาดการณ์ว่ายอดผลิตรถยนต์ขนาดเล็กในอเมริกาเหนือจะอยู่ที่ประมาณ 12.8 ล้านคันในช่วงปี 2551และ 14.9 ล้านคันในยุโรป ดังนั้นเราคาดว่ายอดขายรวมทั้งปี 2551 จะอยู่ระหว่าง 23.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถึง 24.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่ามูลค่าชิ้นส่วนรถยนต์โดยเฉลี่ยต่อคันจะตกอยู่ระหว่าง 835 เหรียญสหรัฐถึง 860 เหรียญสหรัฐในสหรัฐอเมริกาเหนือ และระหว่าง 475 เหรียญสหรัฐถึง 495 เหรียญสหรัฐในยุโรป และตลอดทั้งปี 2551 เราคาดว่ายอดขายสำหรับรถยนต์ประกอบทั้งคันจะอยู่ระหว่าง 3.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถึง 3.45 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ เรายังคาดหวังว่าตลอดปี 2551 บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายในการซื้อสินทรัพย์ถาวรอยู่ที่ระหว่าง 700 ล้านเหรียญถึง 750 ล้านเหรียญสหรัฐ ข้อมูลทางธุรกิจ แมกน่า อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าทางด้านระบบยานยนต์ก้าวล้ำทางด้านเทคโนโลยี การประกอบรถยนต์ โมดูลและส่วนประกอบรถยนต์อื่นๆ ชั้นนำระดับโลก บริษัทออกแบบ พัฒนาและผลิตระบบรถยนต์ ประกอบรถยนต์ โมดูลและชิ้นส่วนรถยนต์ และวิศวกรรมและประกอบรถยนต์ทั้งคัน เพื่อขายให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ (“OEMs”) และรถบรรทุกขนาดเล็กเรามีความสามารถทางด้านยานยนต์ ในหลายๆ ด้านที่สำคัญ รวมไปถึงการออกแบบ การวิศวกรรม การทดสอบการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ของรถยนต์ ได้แก่ ระบบภายในรถยนต์ ระบบที่นั่ง ระบบปิด/เปิด โครงรถยนต์ที่เป็นเหล็กและระบบแชสซี (chassis system) ระบบกระจก ระบบไฟฟ้า ระบบภายนอกรถยนต์ ระบบขับเคลื่อนรถยนต์ ระบบหลังคา รวมทั้งการวิศวกรรมและประกอบรถยนต์ทั้งคัน บริษัทมีพนักงานประมาณ 80,000 คน ในโรงงาน 243 แห่ง และในศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และศูนย์วิศวกรรม 63 แห่ง ใน 24 ประเทศทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ เดวิด ทูกู๊ด กรรมการผู้จัดการ หรือวรลักษณ์ องค์รัตนะคณา (ผู้ประสานงาน) จิ๊กซอว์ คอมมูนิเคชั่นส์ โทร. 02-253-2793

แท็ก เนชั่น   สหรัฐ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ