กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--ธนชาต
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) พร้อมทะยานขึ้นเป็นบริษัทโบรกเกอร์ชั้นแนวหน้าของประเทศ ตั้งเป้าติด 1 ใน 5 ภายในปีนี้ด้วยส่วนแบ่งตลาด 4.5% โดยใช้กลยุทธ์ การวางกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (customer mix) คือ ลูกค้าสถาบันทั้งในและต่างประเทศ 40% และลูกค้าบุคคลธรรมดา 60% โดยในปัจจุบันบริษัทฯ มีส่วนแบ่งตลาด 4.16% ติดอันดับที่ 6 จากจำนวนโบรกเกอร์ทั้งหมดจำนวน 37 ราย
นางอัศวินี ไตลังคะ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ มีความมั่นใจที่จะขึ้นเป็นบริษัทโบรกเกอร์ชั้นแนวหน้าของประเทศ โดยตั้งเป้าหมายที่จะติดอันดับ 1 ใน 5 ภายในปีนี้ด้วยส่วนแบ่งตลาด 4.5% จากปัจจุบันติดอันดับที่ 6 กับส่วนแบ่งทางการตลาด 4.16% จากจำนวนโบรกเกอร์ทั้งหมดจำนวน 37 ราย โดยบริษัทฯ สามารถขยับเพิ่มขึ้นมาจากปี 2551 ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาด 3.98% และจากปี 2547 ที่อันดับ 15 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 2.76% เท่านั้น
การก้าวเป็นบริษัทโบรกเกอร์แถวหน้าของไทยได้นี้ บริษัทฯได้ใช้กลยุทธ์ การวางกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (customer mix) ที่บริษัทฯให้บริการอย่างสมดุลตามลูกค้าทั้ง 3 ประเภท คือ ลูกค้าสถาบันทั้งในและต่างประเทศ 40% และลูกค้าบุคคลธรรมดา 60% ซึ่งสอดคล้องกับภาพโดยรวมของอุตสาหกรรมธุรกิจหลักทรัพย์ เพื่อที่จะให้บริการที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละประเภทได้เป็นอย่างดี บริษัทฯ จึงได้เตรียมทีมงานนักวิเคราะห์ โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันทีมนักวิเคราะห์ของบริษัทฯ มีความสามารถเทียบเคียงได้เท่ากับระดับสากล โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้รับรางวัลที่ 2 จาก Institutional Investor Survey 2009 (ไต่ขึ้นมาจากอันดับที่ 7) ในเดือนพฤษภาคม 2552 และก่อนหน้านี้บริษัทฯ ยังได้รับรางวัลรองชนะเลิศของนักวิเคราะห์ยอดเยี่ยม สายนักลงทุนสถาบัน หรือ The Second Best Securities Analyst Awards: 2008 โดยสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ และในปี 2551 บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 3 (โดยรวมคะแนนกับ BNP Paribas) ของประเทศสำหรับรางวัล Overall Country Research จาก Asiamoney
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความคิดเห็นว่าการวิเคราะห์เป็นคุณค่าหลัก (core value) ของธุรกิจนายหน้าหลักทรัพย์ และมีการปรับปรุงบทวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เจ้าหน้าที่การตลาดและลูกค้าได้ข้อมูลที่ใช้ในการแนะนำและตัดสินใจลงทุนได้ดีที่สุด ซึ่งจะเป็นส่วนสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่การตลาดให้มีคุณภาพ โดยในปัจจุบันบริษัทฯ มีเจ้าหน้าการตลาดประมาณ 330 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่การตลาดเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอตลอดปี
นางอัศวินี กล่าวว่า นอกจากรางวัลคุณภาพที่บริษัทฯ ได้รับอย่างสม่ำเสมอแล้ว บริษัทฯยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ครอบคลุมเกือบทุกผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในตลาด เช่น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน (Investment Advisory--IA) ใบอนุญาตประกอบธุรกิจการเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยในสิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ธุรกิจนี้ของบริษัทฯ ได้อันดับ 11 มีส่วนแบ่งการตลาด 2.93% และจะเริ่มดำเนินธุรกิจใบอนุญาตประกอบธุรกิจประเภทกิจการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) ในครึ่งปีหลัง นอกจากนี้แล้วบริษัทฯ ยังเป็นตัวแทนในการขายกองทุนกว่า 250 กอง จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 13 แห่ง จึงเห็นได้ว่าบริษัทฯ ได้ให้บริการทางผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างครบครัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรักษาฐานลูกค้าปัจจุบันและเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ โดยในปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาทั้งหมด 27 สาขาทั่วประเทศ”
ส่วนธุรกิจวาณิชธนกิจ ตั้งแต่ต้นปี 2552 ที่ผ่านมาบริษัทฯ เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ บมจ. น้ำประปาไทย (TTW) มูลค่า 7,000 ล้านบาท หุ้นกู้ บมจ. ธนาคารธนชาต (TBANK) มูลค่า 2,000 ล้านบาท และหุ้นกู้ บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ส่วนในปี 2551 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ให้แก่ 5 บริษัทชั้นนำ ได้แก่ บมจ. ธนาคารธนชาต (TBANK), บมจ. เอ็ม บี เค (MBK), บมจ. การบินไทย (THAI), บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) และบมจ. ทุนธนชาต (TCAP) รวมมูลค่า 18,500 ล้านบาท
เผยแพร่ข่าวโดย
ฝ่ายผู้ลงทุนสัมพันธ์
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
โทร. 02-217-8888 ต่อ 5838