กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--ธนาคารไทยพาณิชย์
ตามที่ธนาคารมีนโยบายปรับโครงสร้างการบริหารงานที่เกี่ยวกับการติดตามหนี้ โดยการจัดตั้งบริษัทติดตามหนี้ขึ้นในกลุ่มธุรกิจการเงินของธนาคาร และจะมีการโอนย้ายพนักงานในหน่วยงานเดิมที่เกี่ยวข้องไปสังกัดบริษัทใหม่ ซึ่งทำให้พนักงาน บางส่วนเกิดความไม่สบายใจและไม่มั่นใจในอนาคตการทำงานนั้น
ทางธนาคารขอเรียนยืนยันว่า คณะผู้บริหารธนาคารได้รับทราบถึงข้อกังวลใจของพนักงาน และมิได้นิ่งนอนใจต่อกรณีที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาธนาคารได้มีการพูดคุยกับพนักงานในข้อกังวลใจ และได้มีการปรับปรุงเงื่อนไขการโอนย้ายและการจ้างงานให้ชัดเจนยิ่งขึ้นตามข้อเสนอแนะของพนักงาน
ทั้งนี้ ธนาคารขอยืนยันเจตนารมณ์และขอชี้แจงความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ให้ท่านสื่อมวลชนได้รับทราบ ดังนี้
1. เจตนารมณ์ของธนาคารในการจัดตั้งบริษัทติดตามหนี้ในครั้งนี้ เป็นการรวบรวมความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาไว้ที่จุดเดียวเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารงาน มิได้มีจุดมุ่งหมายที่จะปลดหรือปรับลดพนักงานลงแต่อย่างใด
2. ธนาคารถือหุ้นในบริษัทแห่งใหม่นี้ 100% และไม่มีความตั้งใจที่จะลดจำนวนการถือหุ้นลงแต่อย่างใด
3. พนักงานที่จะถูกโอนไปบริษัทใหม่จะได้รับสิทธิ เงินเดือน สวัสดิการ และผลประโยชน์ต่างๆ เทียบเท่าการเป็นพนักงานธนาคารทุกประการ รวมถึงการนับอายุงานของพนักงานซึ่งจะเป็นการนับต่อเนื่องจากอายุงานธนาคารด้วย ความตั้งใจของธนาคารคือ ไม่ว่าพนักงานจะย้ายไปอยู่ที่ใด ทุกคนพูดได้ว่าเราเป็น “พนักงานไทยพาณิชย์”
4. ในส่วนของชื่อบริษัท ธนาคารได้ตระหนักถึงความสำคัญของความเป็น “ไทยพาณิชย์” และเพื่อให้พนักงานเกิดความมั่นใจ จึงได้มีการจดทะเบียนชื่อบริษัทใหม่เป็น “ไทยพาณิชย์ พลัส”
5. ธนาคารเปิดโอกาสให้พนักงานได้พิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ทั้งนี้ หากยังมีพนักงานที่มีความไม่สบายใจต่อกรณีดังกล่าว ผู้บริหารธนาคารยินดีให้ข้อมูลเพิ่มเติมและพูดคุยกับพนักงาน จนกว่าจะเกิดความเข้าใจที่ดีต่อกัน เนื่องจากพนักงานทุกคนเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวเดียวกันและยังมีความเป็น “ไทยพาณิชย์” เช่นเดิม
ติดต่อ:
สื่อสารองค์กร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
โทร. 02-544-4502, 02-544-4517
E-mail: [email protected]