ไอเอ็นจีประกาศผลกำไรไตรมาส 1 ปี 2553 มีกำไรสุทธิ (Underlying net profit) 1,018 ล้านยูโร

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 18, 2010 17:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ ผลกำไรสุทธิ (Underlying net profit) ไตรมาส 1 ปี 2553 จำนวน 1,018 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีที่แล้วที่มีผลขาดทุน 236 ล้านยูโร ? กำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2553 เพิ่มขึ้นเป็น 1,326 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีผลขาดทุน 793 ล้านยูโร ? การขายเงินลงทุนในกิจการ (Divestments & special items) เท่ากับ 306 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งมี มูลค่าเท่ากับ -558 ล้านยูโร ? กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เป็น 0.35 ยูโร เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ -0.39 ยูโร ? ผลตอบแทนต?อส?วนของผู?ถือหุ?น เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.3% เป็น 11.3% ธุรกิจการธนาคารเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2553 โดยมีผลกำไรก่อนหักภาษี 1,278 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2552 ซึ่งมีผลกำไรก่อนหักภาษี 769 ล้านยูโร ? รายได้ปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากมีอัตรากำไรและปริมาณเงินฝากและสินเชื่อบ้านเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจการธนาคารเพื่อรายย่อย (Retail Banking) ? การด้อยค่าของสินทรัพย์และผลกระทบทางการตลาดอื่นๆ ลดลงเหลือ -181 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับ -219 ล้าน ยูโร ของไตรมาส 1 ปี 2552 และ -992 ล้านยูโร ของไตรมาส 4 ปี 2552 ? อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ปรับตัวดีขึ้นเป็น 57.5% หรือ 53.5% ไม่รวมการด้อยค่าของสินทรัพย์ และผลกระทบทางการตลาดอื่นๆ ? การตั้งสำรองหนี้เสียลดลงเหลือ 497 ล้านยูโร หรือ 59 bps ของสินทรัพย์เสี่ยงเฉลี่ย ธุรกิจประกันภัยเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2553 โดยมีผลกำไรก่อนหักภาษี 269 ล้านยูโร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2552 ซึ่งมีผลขาดทุน 954 ล้านยูโร ? กำไรจากการดำเนินงานเท่ากับ 415 ล้านยูโร หรือเพิ่มขึ้น 62.7% เนื่องจากอัตรากำไรเพิ่มขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่าย ? อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้จากการดำเนินงานของธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ลดลงจาก 47.0% เป็น 43.4% ? ยอดขาย 1,242 ล้านยูโร หรือเพิ่มขึ้น 20.5% จากไตรมาส 4 ปี 2552 เทียบเท่ากับยอดขายไตรมาส 1 ปี 2552 ส่วนของผู้ถือหุ้น เพิ่มขึ้น 4.4 พันล้านยูโร รวมเป็น 38.2 พันล้านยูโร หรือ 10.10 ยูโรต่อหุ้น ? อัตราส่วน Bank core Tier 1 เพิ่มขึ้นจาก 7.8% เป็น 8.4% ณ สิ้นปี 2552 เกินเป้าหมายที่วางไว้ 7.5% ? อัตราส่วน Insurance Groups Directive Solvency I เพิ่มขึ้นจาก 251% เป็น 261% ? อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้นเท่ากับ 11.8% และอัตราส่วน FiCo เพิ่มขึ้นเท่ากับ 162% สารจากประธาน นายแจน ฮอมเมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไอเอ็นจีกรุ๊ป กล่าวว่า “ไอเอ็นจีเริ่มต้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2553 ด้วยการฟื้นตัวของรายได้ ทั้งธุรกิจการธนาคารและประกันภัย” “การดำเนินงานของธุรกิจการธนาคารและประกันภัยมีการปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่ผลกระทบที่เกี่ยวกับภาวะทางการตลาดลดลงในไตรมาสแรก เนื่องจากสภาวะตลาดโดยรวมมีการฟื้นตัว โดยยอดขายของธุรกิจประกันภัยเริ่มฟื้นตัวจากไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว จำนวนเงินออมเพิ่มขึ้นแม้ว่ายอดสินเชื่อยังไม่มีการเติบโต ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนส่วนของผู้ถือหุ้นของไอเอ็นจี กรุ๊ป เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงเป็น 11.3%” “การพัฒนาประสิทธิภาพของธุรกิจการธนาคารที่ได้ริเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วปัจจุบันประสบความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรก่อนหักภาษีถึง 1,278 ล้านยูโร สำหรับรายได้มีการปรับตัวถึงระดับก่อนที่จะเกิดวิกฤติและเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับรายได้ของไตรมาส 1 ของปีที่แล้ว เงินออมและสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น รวมทั้งอัตรากำไรมีการเติบโตขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจการธนาคารเพื่อรายย่อย (Retail Banking) ขณะที่อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ ลดลงเหลือ 53.5% ไม่รวมการด้อยค่าของสินทรัพย์และผลกระทบทางการตลาดอื่นๆ แสดงให้เห็นว่าไอเอ็นจีสามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินงานหลังจากที่ได้ออกมาตรการลดต้นทุนเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ ไอเอ็นจีมีอัตราส่วนหนี้สูญลดลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างการสำรองหนี้สงสัยจะสูญและตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกาเริ่มทรงตัว อย่างไรก็ตามมูลค่าความเสี่ยงในของธุรกิจขนาดกลางในประเทศกลุ่มเบเนลักซ์ยังคงอยู่ในระดับสูงอันเป็นผลมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ” “ผลประกอบการของธุรกิจประกันภัยปรับตัวดีขึ้น อันเป็นผลมาจากการดำเนินงานตามแผนที่ประกาศในเดือนเมษายน โดยไอเอ็นจีสามารถควบคุมต้นทุนและมีอัตรากำไรจากการลงทุนเติบโตส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 62.7% หรือเป็น 415 ล้านยูโร ยอดขายเพิ่มขึ้น 20.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และเท่าเดิมเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีที่แล้ว การฟื้นตัวของตลาดช่วยลดผลกระทบจากการด้อยค่าของสินทรัพย์และการปรับราคาสินทรัพย์ใหม่ เป็นผลให้ไอเอ็นจีมีกำไรก่อนหักภาษีจำนวน 269 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้วที่มีผลขาดทุน” “ผลประกอบการดังกล่าวก่อให้เกิดกำลังใจและสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของฝ่ายบริหารและพนักงานที่ร่วมกันทำงานเพื่อให้ผลประกอบการดีขึ้นและการควบคุมต้นทุนในการดำเนินงานอย่างจริงจัง เราพร้อมจะดำเนินงานอย่างเข้มแข็งเพื่อความสำเร็จในไตรมาสหน้า ทั้งนี้ เราจะต้องให้ความสำคัญกับสถานการณ์ของตลาดที่อยู่ในภาวะที่อาจจะผันแปรได้ง่าย ในขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่แข็งแรงพอ ดังที่เห็นได้ชัดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ตลาดมีการ เปลี่ยนแปลงและความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของรัฐบาล เรามีความตั้งใจที่จะเพิ่มมูลค่าของธุรกิจการธนาคารและประกันภัยเพื่อให้สามารถหลุดพ้นจากวิกฤติ สำหรับไอเอ็นจี สิ่งที่เราต้องให้ความสนใจเป็นอันดับแรก คือ ลูกค้า เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่โปร่งใสและเข้าใจง่ายต่อลูกค้าของเรา การให้คำแนะนำที่เชื่อถือได้ กระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการมอบบริการที่ดีกว่า ซึ่งจะทำให้เราแตกต่างจากบริษัทอื่นๆ” “ภารกิจแรกในปีนี้คือการดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่าการแยกธุรกิจการธนาคารและประกันภัยออกจากกันเป็นไปตามขั้นตอนและการปรับปรุงผลประกอบการของทั้งสองธุรกิจให้ดีขึ้น เพื่อให้ทั้งสองธุรกิจสามารถดำเนินการอย่างเป็นเอกเทศ ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี” “สำหรับไตรมาสแรกนี้ เราได้ดำเนินการแยกส่วนงานที่เคยผนวกรวมกันของธุรกิจการธนาคารและประกันภัยแล้วเสร็จ ปัจจุบันเรากำลังดำเนินการควบคุมต้นทุนการปรับโครงสร้างองค์กร และทำให้แน่ใจว่าธุรกิจการธนาคารและประกันภัยจะได้ประโยชน์จากการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลงนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป” สื่อมวลชนสัมพันธ์ อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ โทร 0 2252 9871-8 หงสินันท์ 081 842 0031/ จิตติมา 086 907 8340 / สาธิดา 083 788 5115
แท็ก ไอเอ็นจี  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ