พม.ร่วมกับ ปคม.แถลงข่าวจับกุมขบวนการค้ามนุษย์หลอกหญิงไทยไปค้าประเวณีมาเลเซีย

ข่าวทั่วไป Monday July 5, 2010 16:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--พม. วันนี้ (๕ ก.ค.๕๓) เวลา ๑๑.๐๐ น. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) แถลงข่าวช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่ประเทศมาเลเซีย ณ ห้องประชุมกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ ๓๐ มิ.ย.๕๓ ศูนย์ประชาบดี ๑๓๐๐ ได้รับแจ้งจากน.ส.วนันยา อายุ ๒๐ ปี ให้ช่วยติดตามนางเอ (นามสมมุติ) อายุ ๓๕ ปี มารดา ซึ่งได้รับการชักชวนจากนางวรียา เฉลียวเกรียงไกร ให้ไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย เป็นพนักงานเสิร์ฟ โดยบอกว่าจะได้รับเงินเดือนๆ ละ ๑๕,๐๐๐ บาท ซึ่งต่อมานางฤทัยได้แอบโทรศัพท์ติดต่อกลับมาว่าไม่อยากไปทำงานแล้ว และให้ทางบ้านหาเงินจำนวน ๙๕,๐๐๐ บาท เพื่อมาไถ่ตัวคืน น.ส.วนันยา ทราบข่าวช่องทางการติดต่อศูนย์ประชาบดี ๑๓๐๐ จากโทรทัศน์ จึงโทรศัพท์ติดต่อมาเพื่อขอความช่วยเหลือ นายอิสสระ กล่าวต่อว่า หลังได้รับแจ้ง ศูนย์ประชาบดีจึงประสานกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เพื่อดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิด ซึ่งต่อมาสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ ๒ คน คือนางศรีวรรณ ชัยศรี และนายสมคิด ทองชูช่วย โดยจากการสอบถามรายละเอียดในเบื้องต้นทราบว่า นางเอได้รับการชักชวนจากนางวรียา เฉลียวเกรียงไกร เพื่อนที่รู้จักกันมานานให้ไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย เป็นเด็กเสิรฟ์ รายได้เดือนละ ๑๕,๐๐๐ บาท จึงเดินทางไปที่อ.หาดใหญ่เพื่อพบนางวรียา และพักอยู่บ้านนางวรียาเป็นเวลา ๑๐ วัน ระหว่างรอทำพาสปอร์ต โดยมีนายสมคิดเป็นผู้จัดหาตั่วเครื่องบินให้ จากนั้นจึงไปขึ้นเครื่องบินที่จ.ภูเก็ตเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย มีผู้เดินทางไปด้วย ๔ คน คือ นางเอ นางวรียา และผู้หญิงอีก ๒ คน คือ เก๋ และขวัญ ซึ่งมาทราบภายหลังว่า นางวรียาจะได้ค่าหัวในการนำพาคนละ ๑๐,๐๐๐ บาท เมื่อนางเอไปถึงสนามบิน มีนายตั้ง กิม ตี๋ เจ้าของร้านคาราโอเกะชื่อ เปรันงิไอ ที่เมืองยะโฮบารู เป็นผู้มารับ โดยทั้งหมดถูกยึดหนังสือเดินทาง และเมื่อทำงานได้ ๓ วัน จึงถูกบังคับให้ขายบริการให้กับลุกค้าที่มาเที่ยว แต่นางเอขัดขืน ไม่ยินยอม นายตั้ง กิม ตี๋ จึงโทรศัพท์แจ้งนางศรีวรรณ ซึ่งเป็นภรรยา ให้แจ้งเป็นภาษาไทยกับนางเอ และให้นำเงินมาไถ่คืนเป็นจำนวน ๙๕,๐๐๐ บาท โดยห้ามแจ้งตำรวจ นางเอจึงติดต่อมาทางบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือดังกล่าว นายอิสสระ กล่าวด้วยว่า จากนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯจะดำเนินการช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยในเบื้องต้นจะจ่ายเงินสงเคราะห์ยังชีพเป็นจำนวน ๓,๐๐๐ บาท และนำเงินสนับสนุนจากกองทุนป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เป็นทุนส่งเสริมการประกอบอาชีพตามฐานานุรูปของผู้เสียหายต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ