เคทีซีเผยผลประกอบการปี 2549 กำไรสุทธิ 439 ล้านบาท ฐานสมาชิกอยู่ที่ 1.77 ล้านราย ขยายตัวเพิ่ม 32%

ข่าวทั่วไป Friday February 23, 2007 13:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--บัตรกรุงไทย
เคทีซีรายงานผลการดำเนินงานสิ้นปี 2549 ฐานสมาชิกเติบโต 32% ขยายตัว 4.3 แสนบัญชี กำไรสุทธิรวม 439 ล้านบาท ลูกหนี้สุทธิรวมเพิ่มขึ้น 40% เทียบจากช่วงเดียวกันของปี 2548 ผลจากความสำเร็จของแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่ายได้ผลดี รวมถึงการเพิ่มฐานลูกค้าทั้งจากธุรกิจบัตรเครดิตและลูกค้าใหม่ของสินเชื่อพร้อมใช้ เคทีซี แคช รีโวล์ฟ เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น วางกลยุทธ์ปี 2550 เดินหน้าขยายฐานสมาชิกกลุ่มใหม่ พร้อมกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตรด้วยแคมเปญทางการตลาดที่มีประสิทธิผล และแผนรองรับสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง เน้นความคุ้มค่าแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้ผู้บริโภค พ่วงด้วยการรักษาคุณภาพพอร์ตลูกหนี้
นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2549 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 ว่า “ในปี 2549 ที่ผ่านมา บริษัทฯให้ความสำคัญกับการเพิ่มฐานจำนวนสมาชิกโดยมีธุรกิจบัตรเครดิตเป็นหลัก รองลงมาเป็นสินเชื่อบุคคล เคทีซี แคช (KTC CASH) รวมทั้งการจัดทำแคมเปญทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ที่ดีที่สุดให้แก่สมาชิกควบคู่ไปกับการสร้างแบรนด์เคทีซีให้แข็งแกร่ง ซึ่งแม้ว่าอาจจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ซึ่งมาจากภาวะอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น แต่เคทีซียังคงสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ด้วยปัจจัยหลักของความสำเร็จได้แก่ การใช้กลยุทธ์การตลาดเชิงรุกที่สร้างสรรค์และแปลกใหม่ตอบสนองตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ฐานสมาชิกที่เพิ่มมากขึ้น ทีมงานและผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูง และความสามารถในการบริหารจัดการความเสี่ยง”
เคทีซียังได้สร้างปรากฏการณ์ที่แปลกใหม่ในแวดวงสถาบันการเงินไทย โดยใช้งบการตลาดสร้างแบรนด์ผ่านรายการเรียลลิตี้ ควิซโชว์ทางโทรทัศน์รายการใหม่ “อัจฉริยะข้ามคืน” พร้อมทั้งจับมือกับพันธมิตรชั้นนำในหลากหลายธุรกิจ (Partnership Marketing) เพื่อสร้างสิทธิประโยชน์ทางการตลาดในลักษณะของ Cross Benefits รวมทั้งทำการตลาดแบบแบ่งกลุ่ม (Segmentation Marketing) เข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคอย่างเฉพาะเจาะจงตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่และแคมเปญร่วมกับบริษัทรถยนต์ชั้นนำ โรงพยาบาล การท่องเที่ยว สายการบินและด้านกีฬา เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้และเกิดความผูกพันกับแบรนด์เคทีซีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ ครองความเป็นผู้นำของธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในประเทศไทย”
“ในปี 2549 ฐานสมาชิกในทุกธุรกิจเพิ่มขึ้น 430,000 บัญชี ซึ่งการเพิ่มขึ้นของจำนวนสมาชิกนี้อาจมีผลกระทบต่อกำไรในระยะสั้น เพราะค่าใช้จ่ายในการรับสมัครสมาชิกใหม่ (Acquisition Cost) สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา แต่จำนวนฐานสมาชิกที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นจะช่วยสร้างความมั่นคงพร้อมผลกำไรในระยะยาว นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้คำนึงถึงลูกค้าที่ยังไม่มีคุณสมบัติที่พร้อมจะเป็นสมาชิกบัตรเครดิตในขณะนี้ แต่เป็นลูกค้าที่มีศักยภาพในอนาคตจึงได้ออกบัตรสิทธิพิเศษ “เคทีซี ทเวนตี้โฟร์” (KTC 24) เพื่อครองใจลูกค้าไว้ล่วงหน้า และคาดว่ากลุ่มสมาชิกดังกล่าว จะกลายมาเป็นลูกค้าผลิตภัณฑ์ทางการเงินของเคทีซีในอนาคตได้ไม่ยาก เนื่องจากเคทีซีมีจำนวนฐานสมาชิกกว่า
1.7 ล้านราย จึงได้ประโยชน์ทั้งในแง่ต้นทุนการดำเนินงานต่อหน่วยที่ต่ำลงในอนาคต รวมถึงเคทีซียังสามารถนำเสนอบริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้แก่สมาชิกข้ามสายผลิตภัณฑ์ (Cross Selling) ได้แก่ การเสนอบริการสินเชื่อ เคทีซี แคช ให้แก่สมาชิกบัตรเครดิต เป็นต้น ซึ่งมีผลต่อความสัมพันธ์ต่อสมาชิกของบริษัทฯในระยะยาว”
“สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2549 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2549 เคทีซีมีจำนวนฐานสมาชิกรวมเพิ่มขึ้น 32% จาก 1.34 ล้านราย เป็น 1.77 ล้านราย เมื่อเทียบกับปี 2548 ส่งผลให้จำนวนบัตรเครดิตรวมเท่ากับ 1,403,008 บัตร เคทีซี แคช (KTC Cash) 365,116 บัญชี และสินเชื่อผู้ประกอบการ KTC Million เท่ากับ 3,723 บัญชี ในขณะที่พอร์ตลูกหนี้สุทธิรวมเพิ่มขึ้นจาก 27,881 ล้านบาท เป็น 39,120 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2548 ถึง 40% เนื่องจากการจัดกิจกรรมกระตุ้นให้ใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซีมากกว่าบัตรเครดิตอื่น ๆ รวมถึงการเพิ่มฐานลูกค้าจากธุรกิจบัตรเครดิตและลูกค้าใหม่ของสินเชื่อพร้อมใช้ เคทีซี แคช รีโวล์ฟ (KTC Cash Revolve) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก”
“ในปี 2549 เคทีซีมีกำไรสุทธิจำนวน 439 ล้านบาท เปลี่ยนแปลงลดลงจาก 653 ล้านบาทในปี 2548 เนื่องจากต้นทุนเงินที่สูงขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการเพิ่มฐานสมาชิกใหม่และการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มตามฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าหากบริษัทฯไม่มีการหาสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น บริษัทฯจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการหาสมาชิกใหม่ได้จำนวนหนึ่ง แต่บริษัทฯเล็งเห็นถึงแนวทางการเติบโตของบริษัทฯที่จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนที่ดีในระยะยาว จึงดำเนินนโยบายเพิ่มจำนวนฐานสมาชิกใหม่ในปี 2549 ที่ผ่านมา”
“รายได้รวมสำหรับปี 2549 มีจำนวนทั้งสิ้น 8,118 ล้านบาท เติบโต 38% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยรวมรายได้ค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน และรายได้ค่าธรรมเนียมที่มีสัดส่วนคิดเป็น 68% และ 28% ของรายได้รวม โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยรับจากลูกหนี้บัตรเครดิต และเคทีซี แคช มีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้เพิ่มให้แก่บริษัทฯเป็นอย่างมาก ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้ (Cost to Income Ratio) เท่ากับ 56% ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 55% เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงความสามารถในการเพิ่มรายได้รวมให้มีอัตราการเติบโตในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีการขยายฐานสมาชิกเพิ่มมากขึ้นในปีที่ผ่านมาก็ตาม”
เคทีซีให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยง ทั้งจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทฯ และความสามารถในการชำระเงินคืนของลูกค้าในทุกธุรกิจสินเชื่อที่ให้บริการ โดยมีการวิเคราะห์กระแสเงินสดและวิเคราะห์สภาพคล่องทางการเงินโดยภาพรวมของบริษัทฯเป็นระยะๆ ในทุกช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลง พร้อมจัดตั้งทีมงานบริหารเงินและจัดการความเสี่ยงติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดเงินอย่างใกล้ชิด ทำให้บริษัทฯ สามารถจัดหาเงินทั้งระยะสั้นและระยะยาวได้สอดคล้องกับความต้องการ นอกจากนี้ ยังใช้การวิเคราะห์ความเสี่ยงรวมของลูกค้า ความสามารถในการชำระคืนหนี้ ตลอดจนการสร้างรูปแบบการจัดการความเสี่ยงสำหรับลูกค้าที่มีคุณลักษณะที่แตกต่างกัน จึงมีผลให้บริษัทฯ สามารถรักษาคุณภาพของลูกหนี้ได้ในระดับที่น่าพอใจ โดยมีอัตราการค้างชำระ 30-179 วัน (Delinquency Rate) ของลูกหนี้แต่ละธุรกิจอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม” นายนิวัตต์กล่าวปิดท้าย
ออกข่าวในนาม: ฝ่ายสื่อสารองค์กรและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
รายละเอียดเพิ่มเติม : กัณฑรัตน์ เจิมจิตรผ่อง โทรศัพท์ 02-665-5057
สุชาดา วีระสกุลรักษ์ โทรศัพท์ 02-665-5732 โทรสาร 02-665-5046 อีเมล์:ktc_pr@ktc.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ