กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--ซีพีเอฟ
กลุ่มพืชฯ เครือซีพี ทุ่มทุนวิจัย และพัฒนาพันธุ์ข้าวลูกผสมประสบความสำเร็จ อนาคตผลิตข้าวครบวงจร ขยายพื้นที่ปลูก 2 ล้านไร่ เปิดโอกาสคนรุ่นใหม่นักศึกษา ม.ศรีปทุม เรียนรู้เรื่องข้าวพัฒนาศักยภาพด้านการผลิตสื่อโฆษณาเชื่อมโยงความรู้สู่ประสบการณ์จริงขององค์กรธุรกิจ หวังนักศึกษานำทักษะประสบการณ์ออกไปทำงานได้จริง
เมื่อเร็ว ๆนี้นายมนตรี คงตระกูลเทียน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม พร้อมด้วย คุณวิวัฒน์ ไม้แก่นสาร รองกรรมการผู้จัดการบริหาร และคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจพืชครบวงจรให้การต้อนรับ อ.ศรายุทธ ยืนยง หัวหน้าภาควิชาการโฆษณา คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งนำคณะนักศึกษาจากภาควิชาของสถาบันจำนวน 38 คนมานำเสนองาน ภายหลังจากการที่กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยศรีปทุมจัดทำโครงการสหกิจศึกษา ซึ่งได้มีการเซ็นต์สัญญา MOU ไปเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2550 ที่ผ่านมา
โครงการสหกิจศึกษาซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจเอกชน กับสถาบันการศึกษาโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาได้มีโอกาสไปปฏิบัติงานในสถานประกอบการอย่างเป็นระบบเพื่อเชื่อมโยงความรู้สู่ประสบการณ์จริง และทางกลุ่มธุรกิจพืชครบวงจรได้ไปถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์ทำงาน พร้อมทั้งให้โจทย์ในการตลาด และการโฆษณาในการออกแบบโฆษณาผลิตภัณฑ์ของเมล็ดพันธุ์ข้าวลูกผสมพันธุ์ C.P.304 และพันธุ์ C.P.357 จากนั้นเมื่อวันที่ 12 — 13 กรกฎาคม 2550 ได้มีการลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลแปลงสาธิตการปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าว ณ ฟาร์มกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร รวมทั้งเก็บข้อมูลต่างๆสำหรับใช้ประกอบในการทำโฆษณา
ในการนำเสนองานครั้งนี้ได้แบ่งนักศึกษาออกเป็น 4 กลุ่ม คือ การโฆษณาทางโทรทัศน์, การโฆษณาทางวิทยุ, การออกแบบผลิตภัณฑ์, และสื่อโฆษณาประเภทสิ่งพิมพ์ และแต่ละกลุ่มจะทำการเสนอผลงานด้วยตัวเอง พร้อมทั้งให้คณะผู้บริหารเป็นคณะกรรมการตัดสินให้คะแนนผลงานการนำเสนอครั้งนี้ ซึ่งภายหลังจากการนำเสนอผลงานเสร็จสิ้นแล้วทาง อ.ศรายุทธ ยืนยง ได้ขอสานต่อโครงการโดยนำข้อแนะนำติชมไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อพัฒนาผลงานโฆษณาให้ชัดเจนเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้นในระยะเวลาที่นักศึกษาจะจบการศึกษาอีก 4 เดือน โดย อ.มนตรี คงตระกูลเทียน ได้ตอบตกลงและยินดีเป็นอย่างยิ่งพร้อมทั้งให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการออกไปสานต่อทำงานด้านการออกแบบโฆษณาของนักศึกษาด้วย ทั้งนี้การทำกิจกรรมในครั้งนี้นับได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทักษะของนักศึกษาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ปัจจุบันการทำนาข้าวในประเทศไทยนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับผลผลิตข้าวในต่างประเทศพบว่ายังคงมีผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่ำเพียง 439 กิโลกรัมต่อไร่เท่านั้น ดังนั้นบริษัทเจริญโภคพันธุ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้มีวิสัยทัศน์ในการผลิตข้าวครบวงจรคือจะเป็นผู้นำด้านธุรกิจเมล็ดพันธุ์ข้าวลูกผสมแบบครบวงจร ในประเทศไทย และในประเทศเพื่อนบ้าน โดยการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสม ให้เกษตรกรมีรายได้ และ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งได้ เปิดตัวข้าวลูกผสมพันธุ์ดี ให้ผลิตต่อไร่สูง มีลักษณะดีเด่นประจำของพันธ์ทั้ง 2 สายพันธุ์ ดังนี้คือ
ข้าวลูกผสมซีพี 304
เป็นข้าวเจ้า ไม่ไวต่อช่วงแสง สามารถปลูกได้ทั้งนาปี และนาปรัง อายุการเก็บเกี่ยวสั้นที่ 90-105 วัน (ขึ้นอยู่กับสภาพดิน และฤดูกาล)ลักษณะพิเศษ ลำต้นตั้งตรง ใบและกาบใบมีสีเขียว ใบธงตั้งตรง คอรวงสั้น เมล็ดยาว 7.4 มิลลิเมตร มีจำนวนเมล็ดต่อรวงที่ 250 เมล็ด ในขณะที่ข้าวไปมีจำนวนรวงต่อเมล็ดที่ 150 รวงต่อเมล็ด มีปริมาณอมิโลสที่ 23-24% ข้าวสุกมีลักษณะ ร่วน นุ่มปานกลาง ให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,200-1,500 กิโลกรัมต่อไร่
ลักษณะเด่น : มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น ให้ผลผลิตสูง ต้นเตี้ยไม่ล้มง่าย ต้านทานต่อโรคและแมลง
พื้นที่แนะนำ: พื้นที่นาในเขตชลประทาน
ลักษณะประจำพันธ์
ข้าวลูกผสมซี.พี. 357
เป็นข้าวเจ้าไม่ไวต่อช่วงแสง สามารถปลูกได้ทั้งนาปี และนาปรัง อายุการเก็บเกี่ยวที่ 110-120 วัน (ขึ้นอยู่กับสภาพดิน และฤดูกาล) ลักษณะพิเศษ : ลำต้นตั้งตรง ใบและกาบใบมีสีเขียว ใบธงตั้งตรง คอรวงสั้น เมล็ดยาว 7.7 มิลลิเมตร มีจำนวนเมล็ดต่อรวงที่ 300 เมล็ด ในขณะที่ข้าวไปมีจำนวนรวงต่อเมล็ดที่ 150 รวงต่อเมล็ด มีปริมาณอมิโลสที่ 16 -17% ข้าวสุกมีลักษณะเหนียว นุ่ม ให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,600 กิโลกรัมต่อไร่
ลักษณะเด่น : คุณภาพการหุงต้มดี ท้องไข่น้อย ให้ผลผลิตสูง เมล็ดเรียวยาว ต้านทานต่อโรคและแมลง
พื้นที่แนะนำ : พื้นที่นาในเขตชลประทาน
แปลงทดสอบ/แปลงสาธิต : ขณะนี้ได้มีการนำข้าวลูกผสมไปทดสอบในพื้นที่ปลูกข้าวในเขตนาชลประทานรวม 14 จังหวัด ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ
พื้นที่ส่งเสริมการปลูกข้าวลูกผสมในอนาคต
บริษัทเจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด ได้วางป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกในเขตนาชลประทานที่มีดินดี น้ำดี เป็นหลัก โดยได้วางเป้าหมายการส่งเสริมการปลูกข้าวลูกผสมในพื้นที่ 20 จังหวัด ในอีก 5 ปี ข้างหน้าที่ 7 แสนไร่ และใน 10 ปีในพื้นที่ 2 ล้านไร่ ซึ่งจะเข้าไปมีส่วนแบ่งพื้นที่ปลูกข้าวลูกผสมในกลุ่มเป้าหมายนาข้าวในเขตชลประทาน คิดเป็น 9 % ในจำนวนพื้นที่นาข้าวชลประทานทั้งหมด 22 ล้านไร่ ทั่วประเทศ
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net