ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๑๗) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การยกเว้นภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

ข่าวทั่วไป Wednesday March 14, 2018 13:26 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร

เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๑๗)

เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การยกเว้นภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องกับ

อุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์

________________

อาศัยอำนาจตามความในตามมาตรา ๔ และมาตรา ๗ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน ประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๖๔๐) พ.ศ. ๒๕๖๐ อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การยกเว้นภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละ หนึ่งร้อยของรายจ่ายเท่าที่ได้จ่ายเพื่อการลงทุนในอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขดังต่อไปนี้

(๑) เป็นการจ่ายเพื่อการลงทุนในอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเกิดขึ้นจากสัญญาที่ได้กระทาตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ และต้องเริ่มต้นหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาภายในกำหนดเวลาดังกล่าว

(๒) เป็นรายจ่ายที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อการลงทุนในอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นทรัพย์สิน ตามมาตรา ๖๕ ตรี (๕) แห่งประมวลรัษฎากร โดยให้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามจำนวนที่ได้จ่ายไปจริงในรอบระยะเวลาบัญชี ที่เริ่มต้นหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร

(๓) ต้องจัดทารายงานข้อมูลการติดตั้งและยกเลิกการติดตั้งอุปกรณ์รับชำระเงิน ทางอิเล็กทรอนิกส์ตามโครงการลงทุนที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติหรือผู้ที่คณะกรรมการดังกล่าวมอบหมาย พร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้

ข้อ ๒ การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมจากการรับชำระเงินด้วยบัตรเดบิตผ่านอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จ่ายตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขดังต่อไปนี้

(๑) ค่าธรรมเนียมจากการรับชำระเงินด้วยบัตรเดบิตผ่านอุปกรณ์รับชำระเงิน ทางอิเล็กทรอนิกส์ที่จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ หมายถึง ค่าธรรมเนียมส่วนลดร้านค้า (Merchant Discount Rate : MDR) ที่บุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้จ่ายให้แก่ผู้ให้บริการอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากการรับชำระเงินด้วยบัตรเดบิตผ่านอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว

(๒) ต้องไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตาม (๑) จากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ

(๓) ต้องมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่ามีการจ่ายค่าธรรมเนียมตาม (๑) พร้อมให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้

(๔) กรณีบุคคลธรรมดาที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขดังต่อไปนี้

(ก) มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๕) (๖) (๗) หรือ (๘) แห่งประมวลรัษฎากร

(ข) จ่ายค่าธรรมเนียมตาม (๑) เพื่อรับชำระเงินซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตาม (ก)

(ค) หากประสงค์จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมตาม (ข) สำหรับเงินได้พึงประเมินประเภทใด ในการคานวณภาษีเงินได้ตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร จะต้องหักค่าใช้จ่ายสำหรับเงินได้พึงประเมินประเภทนั้นตามความจำเป็นและสมควร และต้องมีเอกสารหลักฐานการจ่ายค่าธรรมเนียมแยกตามประเภทเงินได้พึงประเมินที่เลือกใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้พร้อมให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้

(ง) ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยนาเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีไปคานวณหักจากเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อได้หักตามมาตรา ๔๒ ทวิ ถึงมาตรา ๔๖ แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว

ข้อ ๓ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑

ประสงค์ พูนธเนศ

(นายประสงค์ พูนธเนศ)

อธิบดีกรมสรรพากร

ที่มา: http://www.rd.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ