ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๓๔) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการหรือค่าที่พักสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยว

ข่าวทั่วไป Monday January 14, 2019 11:22 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร

เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๓๔)

เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่าย

เป็นค่าบริการหรือค่าที่พักสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใด

ที่อธิบดีประกาศกำหนด

___________

อาศัยอำนาจตามความในกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๓๕ (พ.ศ. ๒๕๖๑) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๔๐ (พ.ศ. ๒๕๖๑) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการหรือค่าที่พัก สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนด ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้เพิ่มบทนิยามดังต่อไปนี้ ต่อจากคาว่า "ผู้ประกอบกิจการโฮมสเตย์ไทย" ในข้อ ๑ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๒๒) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการหรือค่าที่พักสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนด ลงวันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑

"ผู้ประกอบกิจการสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม" หมายความว่า ผู้ประกอบกิจการให้บริการที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม

"สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม" หมายความว่า สถานที่พักที่มีจานวนห้องพักในอาคารเดียวกันหรือหลายอาคารรวมกันไม่เกินสี่ห้องและมีจานวนผู้พักรวมกันทั้งหมดไม่เกินยี่สิบคน ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน อันมีลักษณะเป็น การประกอบกิจการเพื่อหารายได้เสริม และได้แจ้งให้นายทะเบียนทราบตามแบบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกำหนด ตามข้อ ๑ แห่งกฎกระทรวง กำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑

"ธนาคาร" หมายความว่า ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน และธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น และได้ทาบันทึกข้อตกลงกับกรมสรรพากร ซึ่งเป็นข้อตกลงการรับส่งข้อมูลการรับชำระค่าบริการท่องเที่ยวของผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยวที่รับชำระค่าบริการโดย QR Code สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๓๕(พ.ศ. ๒๕๖๑) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๔๐ (พ.ศ. ๒๕๖๑) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร

ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในข้อ ๒ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๒๒) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการหรือค่าที่พักสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนด ลงวันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

"ข้อ ๒ การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายเป็นค่าบริการ หรือค่าที่พัก สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ตามที่กำหนด ในกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๓๕ (พ.ศ. ๒๕๖๑) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๔๐ (พ.ศ. ๒๕๖๑) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

(๑)เป็นการจ่ายค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยว สำหรับ

(ก) การเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใด ที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยคาแนะนาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

(ข) การเดินทางท่องเที่ยวในท้องที่ใดท้องที่หนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยคาแนะนาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับท้องที่ในเขตจังหวัดอื่น ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

(๒) เป็นการจ่ายค่าที่พักในท้องที่ใดท้องที่หนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขต พื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยคาแนะนาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดังนี้

(ก) ค่าที่พักในโรงแรม ที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม

(ข) ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยจากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบกิจการโฮมสเตย์ไทย

(ค) ค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบกิจการสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม

(๓) เป็นผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล และให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามจานวนที่ได้จ่ายจริง แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท

(๔) กรณีสามีหรือภริยามีเงินได้ฝ่ายเดียว ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่สามีหรือภริยาซึ่งเป็น ผู้มีเงินได้ตามจานวนที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายจริง แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท

(๕) กรณีสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้

(ก) ถ้าต่างฝ่ายต่างยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินที่ตนได้รับ หรือแยกยื่นรายการและเสียภาษีเฉพาะส่วนที่เป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา ๔๐ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร โดยไม่ถือเป็นเงินได้ของอีกฝ่ายหนึ่ง ตามมาตรา ๕๗ ฉ แห่งประมวลรัษฎากร ให้ต่างฝ่ายต่างได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ ตามจานวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท

(ข) ถ้าสามีภริยาตกลงยื่นรายการและเสียภาษีรวมกัน โดยถือเอาเงินได้พึงประเมิน ของตนเป็นเงินได้ของสามีหรือภริยาอีกฝ่ายหนึ่ง ตามมาตรา ๕๗ ฉ แห่งประมวลรัษฎากร ให้ผู้มีเงินได้ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามจานวนที่ได้จ่ายจริง เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท และได้รับยกเว้น ภาษีเงินได้ส่วนของสามีหรือภริยาได้ตามจานวนที่ได้จ่ายจริง แต่ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท"

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๔ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๒๒) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการหรือค่าที่พักสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนด ลงวันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

"ข้อ ๔ ผู้มีเงินได้ต้องมีหลักฐานการรับเงินจากผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยว ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ผู้ประกอบกิจการโฮมสเตย์ไทย หรือผู้ประกอบกิจการสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม โดยหลักฐานดังกล่าวต้องระบุชื่อของผู้มีเงินได้ จานวนเงิน วัน เดือน ปี ที่จ่ายเงิน ท้องที่ในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือ เขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยคาแนะนาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และสำหรับ

(๑) หลักฐานการรับชำระค่าบริการตามข้อ ๒ (๑) (ข) ผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยวต้อง ระบุลำดับที่ของเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในหลักฐาน การรับเงินด้วย

(๒) หลักฐานการรับชำระค่าที่พักตามข้อ ๒ (๒) (ค) ผู้ประกอบกิจการสถานที่พัก ที่ไม่เป็นโรงแรม ต้องระบุเลขที่รับแจ้งและจังหวัด ตามหนังสือรับแจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ที่ออกโดยนายทะเบียนกระทรวงมหาดไทยด้วย

กรณีที่ผู้มีเงินได้ได้ชำระค่าบริการสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวตามข้อ ๒ (๑) (ก) และ (ข) ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยวผ่านธนาคารโดย QR Code และผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยวดังกล่าวได้มี การทาสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรตั้งตัวแทน และมอบอำนาจให้ธนาคารส่งข้อมูลการรับชำระค่าบริการนั้นให้กรมสรรพากร โดยกำหนดให้ธนาคารจัดส่งข้อมูลการรับชำระค่าบริการให้กรมสรรพากรภายในวันที่ ๗ มกราคม ของปีถัดไป ตามรูปแบบและวิธีการนำส่งข้อมูลที่ธนาคารทาไว้กับกรมสรรพากร ข้อมูลการรับชำระค่าบริการที่ธนาคารส่งให้กรมสรรพากรดังกล่าว ถือเป็นหลักฐานการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ของผู้มีเงินได้ตามประกาศนี้ โดยไม่ต้องแสดงหลักฐานการรับเงินตามวรรคหนึ่งต่อเจ้าพนักงานประเมิน"

ข้อ ๔ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑

ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒

เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ

(นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)

อธิบดีกรมสรรพากร

ที่มา: http://www.rd.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ