ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ ๓๐) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำ ส่ง รับ และเก็บรักษา ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์บนระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain)

ข่าวทั่วไป Wednesday January 20, 2021 14:35 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร

(ฉบับที่ ๓๐) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำ ส่ง รับ และเก็บรักษา ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์บนระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain)

อาศัยอานาจตามมาตรา 3 โสฬส แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 48) พ.ศ. 2562 อธิบดีกรมสรรพากรกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทา ส่ง รับ และเก็บรักษาใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์บนระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ในประกาศนี้ "ระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain)" หมายความว่า ระบบการจัดทา ส่ง รับ และเก็บรักษาใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบของบล็อก (Block) โดยแบ่งฐานข้อมูล (Shared Database) ให้กับผู้ใช้งานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแต่ละบล็อก (Block) จะเชื่อมโยงกันด้วยค่าแฮชฟังค์ชั่น (Hash Function) ซึ่งเมื่อข้อมูลถูกบันทึกแล้ว หากมีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าว จะสามารถตรวจสอบการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนั้นได้ และจะมีการบันทึกข้อมูลไว้ทุกครั้งที่มีการทาธุรกรรมเกิดขึ้น โดยสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ ทุก ๆ บล็อก (Block) ย้อนกลับไปจนถึงบล็อก (Block) เริ่มต้น

"ผู้ให้บริการ" หมายความว่า ผู้เข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นาเทคโนโลยีมาสนับสนุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการด้านภาษี (Tax Sandbox) ซึ่งได้รับอนุมัติจากอธิบดีตามประกาศฉบับนี้ และอนุญาตให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีสิทธิจัดทา ส่ง รับ และเก็บรักษาใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์บนระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain)

"ใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า ใบกากับภาษี ตามมาตรา 86/4 ใบเพิ่มหนี้ ตามมาตรา 86/9 และใบลดหนี้ ตามมาตรา 86/10 ที่ได้จัดทาข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และนาเข้าสู่ระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain)

"ใบรับอิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า ใบรับ ตามมาตรา 105 ทวิ ที่ได้จัดทาข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และนาเข้าสู่ระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain)

"ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า ข้อความที่ได้สร้าง ส่ง รับ และเก็บรักษา หรือประมวลผลด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

/ "ผู้ออก ...

"ผู้ออกใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่มีสิทธิจัดทาใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์บนระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain)

"ผู้ออกใบรับอิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่มีสิทธิจัดทาใบรับอิเล็กทรอนิกส์บนระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain)

"ลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature)" หมายความว่า ข้อความหรือสัญลักษณ์ที่สร้างขึ้น ทางอิเล็กทรอนิกส์โดยการคานวณทางคณิตศาสตร์เข้ารหัสอัลกอริทึมแบบอสมมาตร (Asymmetric Key Algorithms) บนพื้นฐานวิทยาการเข้ารหัสลับ (Encryption) และใช้กับระบบคู่กุญแจ (Key Pair) โดยนาไปคานวณร่วมกับกุญแจส่วนตัว (Private Key) ของผู้ลงลายมือชื่อในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในลักษณะที่สามารถจะใช้กุญแจสาธารณะ (Public Key) ของผู้ลงลายมือชื่อตรวจสอบได้ว่าลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์นั้นได้สร้างขึ้นโดยกุญแจส่วนตัว (Private Key) ของผู้ลงลายมือชื่อนั้นหรือไม่ และข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการลงลายมือชื่อดังกล่าวได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงภายหลังการลงลายมือชื่อหรือไม่ รวมถึงการทาให้เจ้าของลายมือชื่อไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดจากข้อความที่ตนเองลงลายมือชื่อได้

ข้อ 2 ผู้ประสงค์จะเป็นผู้ให้บริการต้องมีคุณสมบัติและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังต่อไปนี้

๒.๑ ต้องเป็นผู้เข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นาเทคโนโลยีมาสนับสนุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการด้านภาษี (Tax Sandbox) ของกรมสรรพากร

๒.๒ มีระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ที่ผ่านการรับรองหรือให้ความเห็น เป็นหนังสือจากสานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ดังนี้

(1) ระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ และสามารถพิสูจน์ได้ว่า หากข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้มีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงจะสามารถตรวจสอบการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนั้นได้

(2) ใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จัดทา ส่ง รับ และเก็บรักษาบนระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) มีข้อความถูกต้องครบถ้วนเช่นเดียวกันกับขณะที่จัดทา ส่ง รับ และเก็บรักษาโดยใช้วิธีการที่เชื่อถือได้ และสามารถแสดงข้อความได้ในภายหลังโดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งสามารถพิสูจน์ได้ว่าใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จัดทา ส่ง รับ และเก็บรักษาดังกล่าว หากมีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงจะสามารถตรวจสอบการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนั้นได้

2.3 ต้องมีระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ตามวิธีการที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ ทั้งในส่วนของระบบฮาร์ดแวร์ (Hardware) และระบบซอฟต์แวร์ (Software) และมีระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อควบคุมการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างน้อย ดังต่อไปนี้

(1) สามารถแสดงภาพการทางานรวม (System Flowchart) ของระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain)

(2) เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เมื่อบันทึกข้อมูลแล้วจะแก้ไขรายการนั้น ๆ โดยไร้ร่องรอยไม่ได้ การแก้ไขรายการไม่ให้ใช้วิธีลบทิ้ง หรือล้างรายการออก ถ้าจะแก้ไขต้องบันทึกรายการปรับปรุงเพิ่มเข้าไปเพื่อแสดงให้เห็นรายการก่อนปรับปรุงและหลังปรับปรุง และต้องมีรายงานการแก้ไขรายการเพื่อการตรวจสอบได้

(3) แสดงระดับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผู้ใช้ระบบ โดยระบุจานวนและระดับเจ้าหน้าที่ที่สามารถบันทึก อ่าน หรือเข้าไปใช้ระบบงานในแต่ละระดับได้

(4) มีการควบคุมโดยใช้รหัสผ่านสาหรับผู้มีสิทธิเข้าไปใช้ระบบงานทุกระดับ และมีระบบงานที่บันทึกการเปลี่ยนรหัสผ่านทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง

(5) มีรายงานบันทึกการใช้ระบบงานโดยระบุให้ทราบถึงรหัสประจาตัวของเจ้าหน้าที่ผู้ใช้ระบบงานที่ทา วัน เดือน ปี และเวลาที่เข้าใช้ระบบงาน (Access) ในกรณีที่มีการแก้ไขรายการจะต้องระบุให้ทราบถึงรหัสประจาตัวของเจ้าหน้าที่ผู้ใช้ระบบ จานวน และรายละเอียดของรายการที่แก้ไขปรับปรุง

(6) มีระบบการตรวจสอบผู้เข้าใช้หรือผู้เข้าไปแก้ไขข้อมูลในระบบ และมีกระบวนการในการตรวจสอบข้อมูลที่บันทึกไว้ในระบบที่สามารถแสดงว่าข้อมูลดังกล่าวได้บันทึกไว้ครบถ้วนทุกรายการแล้ว และไม่มีการแก้ไขรายการของเอกสารที่มีข้อความอยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

๒.4 ยื่นคาร้องขออนุมัติต่ออธิบดีตามแบบคาขอเป็นผู้ให้บริการระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ตามแบบแนบท้ายประกาศนี้ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 พร้อมแนบหนังสือรับรองจาก สพธอ. เพื่อประกอบการพิจารณา และต้องได้รับอนุมัติจากอธิบดีตามแบบคาขอนั้น

ข้อ ๓ ผู้ให้บริการที่ได้รับอนุมัติตามข้อ ๒ แล้ว ต้องปฏิบัติดังนี้

๓.๑ จัดให้มีการลงทะเบียนเพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียน ที่ประสงค์จะใช้บริการระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ของผู้ให้บริการ สาหรับการจัดทา ส่ง รับ และเก็บรักษาใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ โดยการลงทะเบียนเพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนนั้นต้องมีระดับความน่าเชื่อถือตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

๓.2 จัดทาข้อตกลงกับผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เข้าร่วมระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) สาหรับการจัดทา ส่ง รับ และเก็บรักษาใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ดังนี้

(๑) ให้ผู้ออกใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือผู้ออกใบรับอิเล็กทรอนิกส์รับรองและยอมรับข้อความในใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ที่จัดทาบนระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ว่าข้อความมีความถูกต้องครบถ้วนเช่นเดียวกับขณะที่สร้างข้อความเสร็จสมบูรณ์ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ของข้อความ และ

(๒) ยินยอมให้ผู้ให้บริการแจ้งรายชื่อ และเลขประจาตัวผู้เสียภาษีของผู้ประกอบการจดทะเบียน รวมถึงนาส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่กรมสรรพากร

๓.3 จัดทาข้อมูลใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งข้อมูลอื่นใดบนระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ในรูปแบบ XML File Format ตามข้อเสนอแนะมาตรฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่จาเป็นต่อธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ว่าด้วยข้อความอิเล็กทรอนิกส์สาหรับการซื้อขายสินค้าและบริการ (ขมธอ. 3-2560) ลงวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2560 ทั้งนี้ ขนาดของข้อมูลที่นาส่งต้องไม่เกินกว่าที่ระบบของกรมสรรพากรให้บริการ

3.4 นาส่งข้อมูลใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่กรมสรรพากรเป็นรายเดือนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป โดยระบบงานสาหรับการนาส่งข้อมูลใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์นั้นต้องเชื่อมต่อกับระบบของกรมสรรพากร พร้อมทั้งลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) บนข้อมูลดังกล่าว และต้องมีความมั่นคงปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือตามข้อเสนอแนะมาตรฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่จาเป็นต่อธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศสาหรับผู้ให้บริการจัดทา ส่งมอบ และเก็บรักษาข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (ขมธอ. 21-2562) ลงวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2562

3.5 เก็บรักษาความลับของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ที่จัดทาบนระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) และต้องไม่นาข้อมูลนั้นไปใช้หรือเปิดเผย ไม่ว่าด้วยประการใด ๆ เว้นแต่เป็นการใช้หรือเปิดเผยตามหน้าที่ของผู้ให้บริการภายใต้โครงการทดสอบนวัตกรรมที่นาเทคโนโลยีมาสนับสนุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการด้านภาษี (Tax Sandbox) โดยได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ใช้บริการระบบโครงข่ายบล็อกเชนของผู้ให้บริการ หรือตามที่กฎหมายบัญญัติ

ข้อ ๔ ผู้ออกใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือผู้ออกใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้บริการระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ของผู้ให้บริการต้องปฏิบัติดังนี้

๔.๑ จัดทาใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ โดยต้องมีรายการ ที่เป็นสาระสาคัญ ตามมาตรา 86/4 มาตรา 86/9 มาตรา 86/10 และมาตรา 105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร แล้วแต่กรณี

4.2 ใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อ 4.1 ต้องจัดทาด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งหรือหลาย ๆ วิธีการ ดังนี้

(1) จัดทาเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบ Excel File และนาเข้าสู่ระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain)

(2) จัดทาตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 15) เรื่อง กาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทา ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562 และนาเข้าสู่ระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain)

(3) จัดทาบนระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ตามรูปแบบและวิธีการ ที่ผู้ให้บริการกาหนด

๔.๓ จัดส่งใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการตามมาตรา ๘๖ แห่งประมวลรัษฎากร หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ผู้ซื้อ ผู้เช่าซื้อ ผู้จ่ายเงินหรือผู้ชาระราคาตามมาตรา ๑๐๕ แห่งประมวลรัษฎากร ผ่านระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งเป็นระบบข้อมูลที่ผู้รับใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ได้กาหนดไว้โดยเฉพาะตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

กรณีผู้ให้บริการได้นาส่งข้อมูลใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ตามข้อ 4.2 (2) แล้ว ผู้ออกใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ไม่ต้องนาส่งข้อมูลใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่กรมสรรพากรตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 15) เรื่อง กาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทา ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562 อีก

ข้อ 5 ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนตามข้อ 4 และผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการที่ได้รับใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์จากผู้ประกอบการจดทะเบียนนั้น จัดเก็บและรักษาใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ในลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้

5.1 ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(1) ข้อมูลใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์นั้นสามารถเข้าถึงและนากลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง

(2) เก็บรักษาข้อมูลใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์นั้น ให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นอยู่ในขณะที่จัดทา ส่ง หรือได้รับข้อมูลใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์นั้น หรืออยู่ในรูปแบบที่สามารถแสดงข้อความที่จัดทา ส่ง หรือได้รับให้ปรากฏอย่างถูกต้องได้ และ

(3) เก็บรักษาข้อความส่วนที่ระบุถึงแหล่งกาเนิด ต้นทาง และปลายทางของใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนวันและเวลาที่ส่งหรือได้รับข้อความดังกล่าว ถ้ามี

5.2 จัดเก็บและรักษาข้อความในสภาพที่เป็นมาแต่เดิมอย่างเอกสารต้นฉบับ ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(1) ใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ได้ใช้วิธีการที่เชื่อถือได้ในการรักษาความถูกต้องของข้อความตั้งแต่การสร้างข้อความเสร็จสมบูรณ์ รวมถึงความครบถ้วนและไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดของข้อความ เว้นแต่การรับรองหรือบันทึกเพิ่มเติม หรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ตามปกติในการติดต่อสื่อสาร การเก็บรักษา หรือการแสดงข้อความซึ่งไม่มีผลต่อความถูกต้องสมบูรณ์ ของข้อความนั้น และ

(2) สามารถแสดงข้อความนั้นในภายหลังได้

5.3 จัดเก็บและรักษาในรูปของสิ่งพิมพ์ออกตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์โดยระบบโครงข่ายบล็อกเชน (Blockchain) ต้องทาให้ใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ที่พิมพ์ออกมานั้นปรากฏข้อความด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ว่า "เอกสารนี้ได้จัดทาและส่งข้อมูลให้แก่กรมสรรพากรด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์" และให้ถือว่าสิ่งพิมพ์ออกของใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวใช้แทนต้นฉบับได้

ข้อ 6 การยกเลิกใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ฉบับเดิมเพื่อออกใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ฉบับใหม่ ให้ผู้ออกใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จัดเตรียมข้อความของใบกากับภาษีฉบับใหม่ขึ้นเป็นข้อความอิเล็กทรอนิกส์โดยใช้เลขที่ใบกากับภาษีใหม่ และลงวัน เดือน ปี ที่ออกใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ฉบับใหม่ พร้อมหมายเหตุ ไว้ในใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ฉบับใหม่ว่า "เป็นการยกเลิกและออกใบกากับภาษีฉบับใหม่แทนใบกากับภาษีฉบับเดิม เลขที่ ... วัน เดือน ปี ที่ออกใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ฉบับเดิม" ทั้งนี้ ให้หมายเหตุการยกเลิกใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ไว้ในรายงานภาษีขายของเดือนภาษีที่จัดทาใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ฉบับใหม่ด้วย

การยกเลิกใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ฉบับเดิมเพื่อออกใบกากับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ฉบับใหม่ ตามวรรคหนึ่ง ให้นาความในข้อ 3.4 ข้อ 4.3 และข้อ 5 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

ข้อ 7 การยกเลิกใบรับอิเล็กทรอนิกส์ฉบับเดิมเพื่อออกใบรับอิเล็กทรอนิกส์ฉบับใหม่ ให้นาความในข้อ 3.4 ข้อ 4.3 ข้อ 5 และข้อ 6 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

ข้อ 8 ผู้ให้บริการที่ได้รับอนุมัติจากอธิบดีให้เป็นผู้ให้บริการ หากไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กาหนดในประกาศนี้ อธิบดีมีอานาจสั่งยุติการเป็นผู้ให้บริการ โดยให้มีผลนับตั้งแต่ผู้ให้บริการได้รับแจ้งจากกรมสรรพากรเป็นต้นไป

ข้อ 9 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 ประกาศ ณ วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2564

เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ

          (นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)         อธิบดีกรมสรรพากร

ที่มา: http://www.rd.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ