พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๗๕๗) พ.ศ. ๒๕๖๕

ข่าวทั่วไป Saturday November 5, 2022 11:38 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๗๕๗) พ.ศ. ๒๕๖๕ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ

พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๕

เป็นปีที่ ๗ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ในบางกรณี อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๓ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๗๕๗) พ.ศ. ๒๕๖๕"

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ในพระราชกฤษฎีกานี้ "จังหวัดท่องเที่ยวรอง" หมายความว่า เขตจังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดกาแพงเพชร จังหวัดจันทบุรี จังหวัดชัยนาท จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดชุมพร จังหวัดเชียงราย จังหวัดตรัง จังหวัดตราด จังหวัดตาก จังหวัดนครนายก จังหวัดนครพนม จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดน่าน จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดปัตตานี จังหวัดพะเยา จังหวัดพัทลุง จังหวัดพิจิตร จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดแพร่ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดยโสธร จังหวัดยะลา จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดระนอง จังหวัดราชบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดเลย จังหวัดลาปาง จังหวัดลาพูน จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสกลนคร จังหวัดสตูล จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสระแก้ว จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดสุโขทัย จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลาภู จังหวัดอ่างทอง จังหวัดอานาจเจริญ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุทัยธานี และ จังหวัดอุบลราชธานี

มาตรา ๔ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับเงินได้ที่ได้จ่ายไปในการอบรมสัมมนาภายในประเทศที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจัดให้แก่ลูกจ้าง ดังต่อไปนี้

(๑) สำหรับเงินได้เป็นจานวนร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายในการอบรมสัมมนาที่บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจัดให้แก่ลูกจ้าง ณ ท้องที่ในจังหวัดท่องเที่ยวรองหรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใด ที่อธิบดีประกาศกำหนด

(๒) สำหรับเงินได้เป็นจานวนร้อยละห้าสิบของรายจ่ายในการอบรมสัมมนาที่บริษัทหรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจัดให้แก่ลูกจ้าง ณ ท้องที่อื่นซึ่งมิใช่ท้องที่ตาม (๑)

(๓) สำหรับเงินได้เป็นจานวนร้อยละห้าสิบของรายจ่ายในการอบรมสัมมนาที่บริษัทหรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจัดให้แก่ลูกจ้างในท้องที่ต่อเนื่องกัน ระหว่างท้องที่ตาม (๑) และท้องที่อื่นซึ่งมิใช่ท้องที่ตาม (๑) และเป็นรายจ่ายในการอบรมสัมมนาที่ไม่สามารถแยกได้โดยชัดแจ้งว่าส่วนใด เป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้นในท้องที่ใด

การประกาศกำหนดเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดตาม (๑) ให้อธิบดีกำหนดโดยคาแนะนาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

มาตรา ๕ การได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามมาตรา ๔ ต้องเป็นรายจ่ายที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ทั้งนี้ เฉพาะรายจ่ายดังต่อไปนี้

(๑) ค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนา ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจ่าย

(๒) ค่าบริการที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนาเที่ยว และมัคคุเทศก์เพื่อการอบรมสัมมนา

การได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่อธิบดีประกาศกำหนด

มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นายกรัฐมนตรี

ที่มา: http://www.rd.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ