สภาหอฯ ย้ำ “ค้าเสรี” เป็นกระแสการเปลี่ยนแปลงทางการค้าโลก ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดสัมมนาเกี่ยวกับเขตการค้าเสรี เพื่อเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจให้แก่ภาครัฐ เอกชน เกษตรกร และประชาชน ใน 6 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช พังงา ภูเก็ต และพัทลุง เมื่อเร็วๆนี้ ณ จังหวัดกระบี่ ซึ่งนอกจากจะมีการบรรยายเรื่องความรู้และสถานการณ์เกี่ยวกับเขตการค้าเสรีแล้ว ยังได้มีการร่วมอภิปรายและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมสัมมนาด้วย นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการด้านเขตการค้าเสรีฯ ได้กล่าวถึงการจัดทำเขตการค้าเสรีว่า เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากเป็นกระแสการเปลี่ยนแปลงทางการค้าโลกที่กำลังดำเนินอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยต้องเตรียมพร้อมปรับตัวรองรับข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งการจัดทำเขตการค้าเสรีเป็นการกำหนดกติกา และ ข้อตกลงเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างกัน สิ่งสำคัญที่ภาคธุรกิจจะต้องตระหนักไว้เสมอคือ ผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตทุกระดับตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงระดับใหญ่ที่สุด ตลอดจนผู้บริโภคจะต้องอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุลในระบบเศรษฐกิจ หากหน่วยใดหน่วยหนึ่งเกิดปัญหา หรือขาดความพร้อมก็จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั้งระบบ ฉะนั้นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่จะต้องช่วยเหลือธุรกิจที่มีขนาดเล็ก เช่น การให้ ข้อมูลหรือแนะนำวิธีการผลิตระหว่างกัน เพื่อให้ได้คุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในภาพรวมของประเทศ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาที่จะทำให้เป็นอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศของไทยต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตามการจัดทำเขตการค้าเสรีเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากประเทศต่างๆได้ให้ความสนใจและจัดทำเขตการค้าเสรีระหว่างกันไปมากแล้ว หากเราไม่ให้ความสนใจก็จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้เพราะไม่สามารถเข้าไปแข่งขันในกลุ่มประเทศที่จัดทำเขตการค้าเสรี ซึ่งมีข้อตกลงระหว่างกันได้ ด้านนายเอกวิทย์ ภิญโญธรรมโนทัย เลขาธิการหอการค้าจังหวัดกระบี่ ในฐานะผู้แทนภาคเอกชนภาคใต้ กล่าวว่า ภาคธุรกิจจะต้องแสวงหาความได้เปรียบจากทรัพยากรที่มีอยู่ ด้วยการเน้นจุดเด่นที่จะทำให้แข่งขันได้ แล้วแสดงศักยภาพนั้นออกมาให้ชัดเจน เช่น บริการที่ดีเยี่ยมทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจมาก และคุณภาพที่ได้มาตรฐานสูง จะช่วยทำให้ประสบความสำเร็จและสามารถแข่งขันได้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้บางครั้งอาจต้องอาศัยมืออาชีพเข้ามาช่วยบ้างเพื่อย่นระยะเวลาที่จะใช้ในการปรับตัวใน การแข่งขันให้ทันเหตุการณ์ รวมทั้งอาจต้องอาศัยเทคโนโลยี หรือการร่วมทุนอีกด้วย ซึ่งภาคเกษตรกรได้ขอให้ภาครัฐตระหนักถึงขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการเกษตรด้วย เนื่องจากเกรงว่าการเปิดเสรีทางการค้าอาจทำให้ได้รับผลกระทบจากการแข่งขัน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่เข้ามาในประเทศไทย เช่น ผลไม้จากจีน เป็นต้น. กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775-สส-