ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. เศรษฐกิจปีนี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวดี แต่มีอัตราชะลอตัวลงจากปีก่อน ธปท. เปิดเผยรายงาน
แนวโน้มธุรกิจที่จัดทำขึ้นโดยใช้ชื่อโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจธุรกิจระหว่าง ธปท. และนักธุรกิจ เป็น
การแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ประกอบการทั่วประเทศ จำนวน 112 ราย ในช่วงวันที่ 25 มี.ค. — 25 มิ.ย.47
ทำให้เห็นภาพแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 47 ซึ่งสอดคล้องกับครั้งที่ผ่านมาที่สำรวจในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
โดยนักธุรกิจมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวในเกณฑ์ดี แต่มีอัตราที่ชะลอลงจากปีก่อนเล็กน้อยจากการ
ชะลอตัวของการบริโภคที่อ่อนลงในไตรมาสที่ 2 จากปัจจัยเสี่ยงที่บั่นทอนความเชื่อมั่น ได้แก่ ราคาน้ำมันและ
ราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น และปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ รวมถึงการระบาดซ้ำของไข้หวัดนก ส่วนการลง
ทุนนั้นมีการลงทุนเพิ่มขึ้นชัดเจนในหลายสาขา ทั้งภาคการผลิต การค้าปลีก การค้าส่ง การก่อสร้าง ธุรกิจสื่อ
สาร และการขนส่ง โดยเฉพาะสาขาอุตสาหกรรมที่ใช้กำลังการผลิตเต็มที่แล้ว รวมทั้งธุรกิจโรงแรมแม้จะมี
จำนวนห้องพักส่วนเกินแต่ก็ยังมีการลงทุนเพิ่มหลายแห่งทั้งในภาคเหนือ ภาคใต้ และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
โดยการที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศอยู่ในระดับต่ำนอกจากจะส่งผลโดยตรงต่อการลงทุนแล้วยังส่งผลทางอ้อม
โดยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายบริโภคสินค้าและบริการ ด้านภาคการส่งออกแนวโน้มการส่งออกสินค้าหลายชนิด
ยังขยายตัวได้ดี ได้แก่ ยางพารา ข้าว อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น เนื่องจากความต้องการของประเทศ
คู่ค้ายังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การจ้างงานโดยภาพรวมยังไม่มีปัญหาแรงงานตึงตัว ยกเว้นแรงงานฝีมือ
ช่างเทคนิค และวิศวกรในธุรกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวดีมีปัญหาขาดแคลนแรงงานมากขึ้น สำหรับภาคธุรกิจการ
เงินการปล่อยสินเชื่อในปี 47 มีแนวโน้มขยายตัวสูงในภาคเศรษฐกิจที่มีอัตราการขยายตัวดี เช่น อุตสาหกรรม
ยานยนต์ เหล็ก และการก่อสร้างของภาครัฐ ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ ผลกระทบจากราคาน้ำมัน การ
ชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และค่าเงินดอลลาร์ สรอ. ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น สำหรับการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
และอัตราดอกเบี้ย ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ใช้เงินทุนจากผลประกอบการเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญในการดำเนิน
ธุรกิจและขยายกิจการ นอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจหลายรายเห็นอัตราดอกเบี้ยต่ำส่งผลดีต่อธุรกิจ ทำให้ต้นทุน
การดำเนินธุรกิจลดลงสามารถแข่งขันได้ สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุน
การดำเนินงานมากนัก แต่จะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคและการผ่อนชำระคืนหนี้
(โลกวันนี้)
2. ก.คลังจะเจรจากับ ธ.พาณิชย์เพื่อยืดหยุ่นเกณฑ์การค้ำประกันการโอนหนี้ นายบุญศักดิ์ เจียม
ปรีชา รองปลัด ก.คลัง ในฐานะประธานคณะทำงานการติดตามปรับโครงสร้างหนี้นอกระบบ เปิดเผยว่า ได้
รับการร้องเรียนจากลูกหนี้นอกระบบที่ได้เจรจาปรับโครงสร้างหนี้และอยู่ระหว่างการดำเนินการโอนหนี้นอก
ระบบเป็นหนี้ในระบบของธนาคารว่า ธนาคารได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการปล่อยกู้โอนหนี้ค่อนข้างเข้มงวดมาก
โดยธนาคารจะรับโอนหนี้ก็ต่อเมื่อลูกหนี้จะต้องมีข้าราชการเป็นผู้ค้ำประกัน ซึ่งเป็นอุปสรรคมาก ดังนั้น จะมี
การเจรจากับธนาคารเพื่อพิจารณายืดหยุ่นหลักเกณฑ์การค้ำประกันให้มากขึ้นและอาจรวมถึงการลดอัตรา
ดอกเบี้ยด้วย ซึ่งขณะนี้มีจำนวนลูกหนี้นอกระบบที่ได้โอนหนี้สู่ระบบแล้วประมาณ 5-6 แสนรายเท่านั้น คิดเป็น
ร้อยละ 40 ของจำนวนลูกหนี้ที่เจรจาปรับโครงสร้างหนี้สำเร็จ ทั้งนี้ ในส่วนลูกหนี้นอกระบบที่ทำการเจรจา
ปรับโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จ ขั้นตอนต่อไปธนาคารก็จะรับโอนหนี้สู่ระบบและดูแลไม่ให้เป็นเอ็นพีแอล ส่วนลูกหนี้
ที่ยังเจรจาไม่เสร็จและไม่ผ่านหลักเกณฑ์ของธนาคารทางการคงต้องเข้าไปช่วยเหลือ สำหรับความคืบหน้า
การดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้นอกระบบ ณ วันที่ 6 ส.ค.47 มีลูกหนี้ได้รับการแก้ไขแล้วเสร็จ 1,206,600
ราย จากยอดลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนทั้งหมด 1,765,030 ราย คิดเป็นร้อยละ 68.36 (ข่าวสด,
บ้านเมือง, โลกวันนี้)
3. ก.คลังเตรียมขึ้นบัญชีดำ ธ.พาณิชย์ที่ปฏิเสธการขอจองซื้อพันธบัตรของประชาชนรายย่อย
รายงานข่าวจาก ก.คลัง เปิดเผยว่า ก.คลังได้ประสานไปยัง ธปท. เพื่อให้เข้าไปสุ่มตรวจการจัดสรร
พันธบัตรออมทรัพย์ประจำปี งปม. 47 จำนวน 70,000 ล้านบาท ที่จะเปิดให้จองในวันที่ 16 ส.ค.47 ของ
ธ.พาณิชย์ไทยทั้ง 14 แห่งทั่วประเทศ โดยให้จัดตั้งทีมงานเดินสายออกสำรวจว่า ธ.พาณิชย์ใดปฏิเสธการขอ
จองซื้อของประชาชนรายย่อย และขอให้ขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ธนาคารนั้น ๆ ไว้ว่าไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล
เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากได้โทรศัพท์มาร้องเรียนว่า ธ.พาณิชย์ต่าง ๆ ได้ปฏิเสธการจองซื้อพันธบัตรดัง
กล่าวแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ถึงวันเปิดรับจองแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าการเปิดจองและเปิดจำหน่ายครั้งนี้จะใช้วิธี
ใครมาก่อนได้ก่อน แต่หาก ธ.พาณิชย์ได้กันพันธบัตรไว้ให้กับลูกค้ารายใหญ่จนหมด ก.คลังและ ธปท.ก็ต้องเข้า
ไปดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรมเช่นกัน เพื่อให้พันธบัตรกระจายถึงประชาชนรายย่อยอย่างทั่วถึงมากที่สุด
ซึ่งหาก ธ.พาณิชย์ไทยไม่สามารถกระจายพันธบัตรได้อย่างทั่วถึง ต่อไปในการออกจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์
รุ่นใหม่ ก.คลังจะใช้วิธีเปิดประมูลให้สถาบันการเงินเข้ามาเป็นผู้รับประกันการจำหน่ายและจำหน่ายพันธบัตร
(อันเดอร์ไรเตอร์) แทนวิธีปัจจุบัน หากสถาบันใดให้เงื่อนไขการกระจายพันธบัตรที่ดีกว่าก็จะเป็นผู้ได้รับหน้าที่
ดังกล่าวไปเพียงรายเดียว (เดลินิวส์)
4. กลต. จะปรับปรุงเกณฑ์ให้กองทุนอสังหาฯ กู้ยืมเงินได้ น.ส.ดวงมน ธีระวิคาวี ผอฝ.กำกับ
ธุรกิจจัดการลงทุน สนง.กลต. เปิดเผยว่า ขณะนี้ กลต.อยู่ระหว่างปรับปรุงเกณฑ์ของกองทุนอสังหาริมทรัพย์
กอง 1 โดยจะอนุญาตให้กองทุนสามารถกู้ยืมเงินได้ไม่เกินร้อยละ 35 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ เพื่อเสริมสภาพ
คล่องให้แก่กองทุน จากเดิมที่ไม่ให้ก่อหนี้หรือกู้ยืมใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อเงินลงทุนของผู้ถือ
หน่วยลงทุน อย่างไรก็ตาม กลต. ได้นำเรื่องดังกล่าวสอบถามไปยัง บลจ.ต่าง ๆ รวมทั้งรายละเอียดส่วนอื่น
ๆ ของกอง 1 ว่าควรปรับปรุงกฎเกณฑ์ใด ๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดยให้ตอบกลับมายัง กลต. ภายในวันที่ 25
ส.ค.นี้ (โพสต์ทูเดย์)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ยอดค้าปลีกของสรอ.ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย รายงานจาก วอชิงตัน
เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 47 ก.พาณิชย์สรอ.เปิดเผยว่า ในเดือนก.ค. 47 ยอดค้าปลีกของสรอ. มากกว่าที่คาด
ไว้เล็กน้อย อยู่ที่ระดับ 336.5 พันล. ดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 จากที่ลดลงร้อยละ 0.5 ในเดือน
มิ.ย. (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) ขณะที่การขอรับสวัสดิการการว่างงานลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 ( รอยเตอร์)
2. ดัชนีชี้วัดราคาขายส่งของญี่ปุ่นในเดือน ก.ค.47 ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปี รายงาน
จากโตเกียวเมื่อ 11 ส.ค.47 ธ.กลางญี่ปุ่น เปิดเผยว่า The corporate goods price index (CGPI)
ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดราคาขายส่งของญี่ปุ่น ในเดือน ก.ค.47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เทียบต่อเดือน โดยเป็นการเพิ่ม
ขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปี ขณะที่เมื่อเทียบต่อปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 สูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค.34 ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้น
ของ CGPI มีสาเหตุจากราคาน้ำมันซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 30 ในปีนี้ เนื่องจากความต้องการ
จำนวนมากจากทั่วโลก โดยราคาน้ำมันล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาในตลาดนิวยอร์กอยู่ที่ 45.04 ดอลลาร์
สรอ./บาร์เรล สูงสุดในรอบ 21 ปี โดยราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ต้นทุนการผลิตวัตถุดิบและสินค้า
กึ่งสำเร็จรูปสูงขึ้น แต่ยังไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาสินค้าสำเร็จรูป นอกจากนี้ ราคากระแสไฟฟ้าที่
เพิ่มขึ้นตามปกติในช่วงฤดูร้อนเนื่องจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุให้ CGPI ในเดือน ก.ค.ดัง
กล่าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์มองว่า CGPI ที่เพิ่มขึ้นยังคงไม่แสดงสัญญาณว่าญี่ปุ่น
จะหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด เนื่องจากดัชนีราคาผู้บริโภคยังคงชะลอตัว ซึ่ง ธ.กลางญี่ปุ่นได้เคยกล่าวว่าดัชนี
ราคาผู้บริโภคจะยังไม่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีเสถียรภาพในระยะเวลาอันใกล้นี้ (รอยเตอร์)
3. อัตราเงินเฟ้อของจีนในเดือนก.ค. 47 เพิ่มขึ้นถึงระดับร้อยละ 5.3 รายงานจาก ปักกิ่ง
เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 47 รัฐบาลจีนเปิดเผยว่า ในเดือนก.ค. อัตราเงินเฟ้อของจีนอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.3
จากช่วงเดืยวกันปีที่แล้ว เพิ่มจากระดับร้อยละ 5.0 ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านั้นและเป็นการ
สูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี ขณะที่เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ขยายตัวร้อยละ 9.6 จาก
ช่วงเดียวกันปีที่แล้วชะลอตัวจากที่เติบโตร้อยละ 9.8 ในไตรมาสที่ 1 ปี 47 ซึ่งเป็นผลจากชะลอตัวของการ
ให้สินเชื่อและการลงทุน ขณะที่ ธ.กลางจีนวิตกเรื่องเงินเฟ้อแต่นักเศรษฐศาสตร์จาก Daiwa Securities
ในฮ่องกง เห็นว่า ธ.กลางจีนจะยังไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้ โดยต้องดูตัวเลขเศรษฐกิจใน
ไตรมาสที่ 3 ( รอยเตอร์)
4. ธ.กลางเกาหลีใต้ลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 3.5 ต่อปีต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ รายงานจากโซล เมื่อ 12 ส.ค.47 ธ.กลางเกาหลีใต้ตัดสินใจลดอัตรา
ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมข้ามคืนร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 3.5 ต่อปีต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และเป็นครั้งแรกในรอบ
13 เดือนหลังจากลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเมื่อเดือน ก.ค.46 ร้อยละ 0.25 เพื่อหวังกระตุ้นการบริโภคใน
ประเทศที่ยังอยู่ในภาวะซบเซาจากความกังวลว่าการส่งออกซึ่งเป็นตัวหลักในการผลักดันเศรษฐกิจในขณะนี้จะ
ชะลอตัวลงจากการที่เศรษฐกิจของจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของเกาหลีใต้ลดความร้อนแรงลง โดย ธ.กลางเกาหลี
ใต้ตั้งเป้าหมายให้เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 5.0 ในปีหน้า ธ.กลางเกาหลีใต้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยแม้ว่า
ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือน ก.ค.47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบต่อปีสูงสุดในรอบ 16 เดือนจากราคา
น้ำมันที่สูงขึ้นในขณะนี้ก็ตาม ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคหลักซึ่งไม่รวมราคาน้ำมันและสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ
3.1 ซึ่งยังอยู่ในเป้าหมายที่ ธ.กลางเกาหลีใต้ตั้งไว้ระหว่างร้อยละ 2.5 ถึง 3.5 ต่อปี รัฐบาลคาดว่า
เศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวเกินกว่าร้อยละ 5.0 และขยายตัวระหว่างร้อยละ 5.2 ถึง 5.3 ในปีหน้า (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 13 ส.ค. 47 11 ส.ค. 47 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.502 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 41.2995/41.5842 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.1000-1.2800 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 595.60/13.75 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,700/7,800 7,700/7,800 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 39.03 38.23 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 20.59*/14.59 20.59*/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 60 สตางค์ เมื่อ 11 ส.ค.47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. เศรษฐกิจปีนี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวดี แต่มีอัตราชะลอตัวลงจากปีก่อน ธปท. เปิดเผยรายงาน
แนวโน้มธุรกิจที่จัดทำขึ้นโดยใช้ชื่อโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจธุรกิจระหว่าง ธปท. และนักธุรกิจ เป็น
การแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ประกอบการทั่วประเทศ จำนวน 112 ราย ในช่วงวันที่ 25 มี.ค. — 25 มิ.ย.47
ทำให้เห็นภาพแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 47 ซึ่งสอดคล้องกับครั้งที่ผ่านมาที่สำรวจในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
โดยนักธุรกิจมองว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวในเกณฑ์ดี แต่มีอัตราที่ชะลอลงจากปีก่อนเล็กน้อยจากการ
ชะลอตัวของการบริโภคที่อ่อนลงในไตรมาสที่ 2 จากปัจจัยเสี่ยงที่บั่นทอนความเชื่อมั่น ได้แก่ ราคาน้ำมันและ
ราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น และปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ รวมถึงการระบาดซ้ำของไข้หวัดนก ส่วนการลง
ทุนนั้นมีการลงทุนเพิ่มขึ้นชัดเจนในหลายสาขา ทั้งภาคการผลิต การค้าปลีก การค้าส่ง การก่อสร้าง ธุรกิจสื่อ
สาร และการขนส่ง โดยเฉพาะสาขาอุตสาหกรรมที่ใช้กำลังการผลิตเต็มที่แล้ว รวมทั้งธุรกิจโรงแรมแม้จะมี
จำนวนห้องพักส่วนเกินแต่ก็ยังมีการลงทุนเพิ่มหลายแห่งทั้งในภาคเหนือ ภาคใต้ และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
โดยการที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศอยู่ในระดับต่ำนอกจากจะส่งผลโดยตรงต่อการลงทุนแล้วยังส่งผลทางอ้อม
โดยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายบริโภคสินค้าและบริการ ด้านภาคการส่งออกแนวโน้มการส่งออกสินค้าหลายชนิด
ยังขยายตัวได้ดี ได้แก่ ยางพารา ข้าว อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น เนื่องจากความต้องการของประเทศ
คู่ค้ายังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การจ้างงานโดยภาพรวมยังไม่มีปัญหาแรงงานตึงตัว ยกเว้นแรงงานฝีมือ
ช่างเทคนิค และวิศวกรในธุรกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวดีมีปัญหาขาดแคลนแรงงานมากขึ้น สำหรับภาคธุรกิจการ
เงินการปล่อยสินเชื่อในปี 47 มีแนวโน้มขยายตัวสูงในภาคเศรษฐกิจที่มีอัตราการขยายตัวดี เช่น อุตสาหกรรม
ยานยนต์ เหล็ก และการก่อสร้างของภาครัฐ ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญคือ ผลกระทบจากราคาน้ำมัน การ
ชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และค่าเงินดอลลาร์ สรอ. ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น สำหรับการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
และอัตราดอกเบี้ย ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ใช้เงินทุนจากผลประกอบการเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญในการดำเนิน
ธุรกิจและขยายกิจการ นอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจหลายรายเห็นอัตราดอกเบี้ยต่ำส่งผลดีต่อธุรกิจ ทำให้ต้นทุน
การดำเนินธุรกิจลดลงสามารถแข่งขันได้ สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุน
การดำเนินงานมากนัก แต่จะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคและการผ่อนชำระคืนหนี้
(โลกวันนี้)
2. ก.คลังจะเจรจากับ ธ.พาณิชย์เพื่อยืดหยุ่นเกณฑ์การค้ำประกันการโอนหนี้ นายบุญศักดิ์ เจียม
ปรีชา รองปลัด ก.คลัง ในฐานะประธานคณะทำงานการติดตามปรับโครงสร้างหนี้นอกระบบ เปิดเผยว่า ได้
รับการร้องเรียนจากลูกหนี้นอกระบบที่ได้เจรจาปรับโครงสร้างหนี้และอยู่ระหว่างการดำเนินการโอนหนี้นอก
ระบบเป็นหนี้ในระบบของธนาคารว่า ธนาคารได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการปล่อยกู้โอนหนี้ค่อนข้างเข้มงวดมาก
โดยธนาคารจะรับโอนหนี้ก็ต่อเมื่อลูกหนี้จะต้องมีข้าราชการเป็นผู้ค้ำประกัน ซึ่งเป็นอุปสรรคมาก ดังนั้น จะมี
การเจรจากับธนาคารเพื่อพิจารณายืดหยุ่นหลักเกณฑ์การค้ำประกันให้มากขึ้นและอาจรวมถึงการลดอัตรา
ดอกเบี้ยด้วย ซึ่งขณะนี้มีจำนวนลูกหนี้นอกระบบที่ได้โอนหนี้สู่ระบบแล้วประมาณ 5-6 แสนรายเท่านั้น คิดเป็น
ร้อยละ 40 ของจำนวนลูกหนี้ที่เจรจาปรับโครงสร้างหนี้สำเร็จ ทั้งนี้ ในส่วนลูกหนี้นอกระบบที่ทำการเจรจา
ปรับโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จ ขั้นตอนต่อไปธนาคารก็จะรับโอนหนี้สู่ระบบและดูแลไม่ให้เป็นเอ็นพีแอล ส่วนลูกหนี้
ที่ยังเจรจาไม่เสร็จและไม่ผ่านหลักเกณฑ์ของธนาคารทางการคงต้องเข้าไปช่วยเหลือ สำหรับความคืบหน้า
การดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้นอกระบบ ณ วันที่ 6 ส.ค.47 มีลูกหนี้ได้รับการแก้ไขแล้วเสร็จ 1,206,600
ราย จากยอดลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนทั้งหมด 1,765,030 ราย คิดเป็นร้อยละ 68.36 (ข่าวสด,
บ้านเมือง, โลกวันนี้)
3. ก.คลังเตรียมขึ้นบัญชีดำ ธ.พาณิชย์ที่ปฏิเสธการขอจองซื้อพันธบัตรของประชาชนรายย่อย
รายงานข่าวจาก ก.คลัง เปิดเผยว่า ก.คลังได้ประสานไปยัง ธปท. เพื่อให้เข้าไปสุ่มตรวจการจัดสรร
พันธบัตรออมทรัพย์ประจำปี งปม. 47 จำนวน 70,000 ล้านบาท ที่จะเปิดให้จองในวันที่ 16 ส.ค.47 ของ
ธ.พาณิชย์ไทยทั้ง 14 แห่งทั่วประเทศ โดยให้จัดตั้งทีมงานเดินสายออกสำรวจว่า ธ.พาณิชย์ใดปฏิเสธการขอ
จองซื้อของประชาชนรายย่อย และขอให้ขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ธนาคารนั้น ๆ ไว้ว่าไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล
เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากได้โทรศัพท์มาร้องเรียนว่า ธ.พาณิชย์ต่าง ๆ ได้ปฏิเสธการจองซื้อพันธบัตรดัง
กล่าวแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ถึงวันเปิดรับจองแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าการเปิดจองและเปิดจำหน่ายครั้งนี้จะใช้วิธี
ใครมาก่อนได้ก่อน แต่หาก ธ.พาณิชย์ได้กันพันธบัตรไว้ให้กับลูกค้ารายใหญ่จนหมด ก.คลังและ ธปท.ก็ต้องเข้า
ไปดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรมเช่นกัน เพื่อให้พันธบัตรกระจายถึงประชาชนรายย่อยอย่างทั่วถึงมากที่สุด
ซึ่งหาก ธ.พาณิชย์ไทยไม่สามารถกระจายพันธบัตรได้อย่างทั่วถึง ต่อไปในการออกจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์
รุ่นใหม่ ก.คลังจะใช้วิธีเปิดประมูลให้สถาบันการเงินเข้ามาเป็นผู้รับประกันการจำหน่ายและจำหน่ายพันธบัตร
(อันเดอร์ไรเตอร์) แทนวิธีปัจจุบัน หากสถาบันใดให้เงื่อนไขการกระจายพันธบัตรที่ดีกว่าก็จะเป็นผู้ได้รับหน้าที่
ดังกล่าวไปเพียงรายเดียว (เดลินิวส์)
4. กลต. จะปรับปรุงเกณฑ์ให้กองทุนอสังหาฯ กู้ยืมเงินได้ น.ส.ดวงมน ธีระวิคาวี ผอฝ.กำกับ
ธุรกิจจัดการลงทุน สนง.กลต. เปิดเผยว่า ขณะนี้ กลต.อยู่ระหว่างปรับปรุงเกณฑ์ของกองทุนอสังหาริมทรัพย์
กอง 1 โดยจะอนุญาตให้กองทุนสามารถกู้ยืมเงินได้ไม่เกินร้อยละ 35 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ เพื่อเสริมสภาพ
คล่องให้แก่กองทุน จากเดิมที่ไม่ให้ก่อหนี้หรือกู้ยืมใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อเงินลงทุนของผู้ถือ
หน่วยลงทุน อย่างไรก็ตาม กลต. ได้นำเรื่องดังกล่าวสอบถามไปยัง บลจ.ต่าง ๆ รวมทั้งรายละเอียดส่วนอื่น
ๆ ของกอง 1 ว่าควรปรับปรุงกฎเกณฑ์ใด ๆ เพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดยให้ตอบกลับมายัง กลต. ภายในวันที่ 25
ส.ค.นี้ (โพสต์ทูเดย์)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ยอดค้าปลีกของสรอ.ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย รายงานจาก วอชิงตัน
เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 47 ก.พาณิชย์สรอ.เปิดเผยว่า ในเดือนก.ค. 47 ยอดค้าปลีกของสรอ. มากกว่าที่คาด
ไว้เล็กน้อย อยู่ที่ระดับ 336.5 พันล. ดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 จากที่ลดลงร้อยละ 0.5 ในเดือน
มิ.ย. (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) ขณะที่การขอรับสวัสดิการการว่างงานลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 ( รอยเตอร์)
2. ดัชนีชี้วัดราคาขายส่งของญี่ปุ่นในเดือน ก.ค.47 ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปี รายงาน
จากโตเกียวเมื่อ 11 ส.ค.47 ธ.กลางญี่ปุ่น เปิดเผยว่า The corporate goods price index (CGPI)
ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดราคาขายส่งของญี่ปุ่น ในเดือน ก.ค.47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เทียบต่อเดือน โดยเป็นการเพิ่ม
ขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปี ขณะที่เมื่อเทียบต่อปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 สูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค.34 ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้น
ของ CGPI มีสาเหตุจากราคาน้ำมันซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 30 ในปีนี้ เนื่องจากความต้องการ
จำนวนมากจากทั่วโลก โดยราคาน้ำมันล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาในตลาดนิวยอร์กอยู่ที่ 45.04 ดอลลาร์
สรอ./บาร์เรล สูงสุดในรอบ 21 ปี โดยราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ต้นทุนการผลิตวัตถุดิบและสินค้า
กึ่งสำเร็จรูปสูงขึ้น แต่ยังไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาสินค้าสำเร็จรูป นอกจากนี้ ราคากระแสไฟฟ้าที่
เพิ่มขึ้นตามปกติในช่วงฤดูร้อนเนื่องจากความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุให้ CGPI ในเดือน ก.ค.ดัง
กล่าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์มองว่า CGPI ที่เพิ่มขึ้นยังคงไม่แสดงสัญญาณว่าญี่ปุ่น
จะหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด เนื่องจากดัชนีราคาผู้บริโภคยังคงชะลอตัว ซึ่ง ธ.กลางญี่ปุ่นได้เคยกล่าวว่าดัชนี
ราคาผู้บริโภคจะยังไม่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีเสถียรภาพในระยะเวลาอันใกล้นี้ (รอยเตอร์)
3. อัตราเงินเฟ้อของจีนในเดือนก.ค. 47 เพิ่มขึ้นถึงระดับร้อยละ 5.3 รายงานจาก ปักกิ่ง
เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 47 รัฐบาลจีนเปิดเผยว่า ในเดือนก.ค. อัตราเงินเฟ้อของจีนอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.3
จากช่วงเดืยวกันปีที่แล้ว เพิ่มจากระดับร้อยละ 5.0 ในเดือนมิ.ย. มากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านั้นและเป็นการ
สูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี ขณะที่เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ขยายตัวร้อยละ 9.6 จาก
ช่วงเดียวกันปีที่แล้วชะลอตัวจากที่เติบโตร้อยละ 9.8 ในไตรมาสที่ 1 ปี 47 ซึ่งเป็นผลจากชะลอตัวของการ
ให้สินเชื่อและการลงทุน ขณะที่ ธ.กลางจีนวิตกเรื่องเงินเฟ้อแต่นักเศรษฐศาสตร์จาก Daiwa Securities
ในฮ่องกง เห็นว่า ธ.กลางจีนจะยังไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้ โดยต้องดูตัวเลขเศรษฐกิจใน
ไตรมาสที่ 3 ( รอยเตอร์)
4. ธ.กลางเกาหลีใต้ลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 3.5 ต่อปีต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ รายงานจากโซล เมื่อ 12 ส.ค.47 ธ.กลางเกาหลีใต้ตัดสินใจลดอัตรา
ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมข้ามคืนร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 3.5 ต่อปีต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และเป็นครั้งแรกในรอบ
13 เดือนหลังจากลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดเมื่อเดือน ก.ค.46 ร้อยละ 0.25 เพื่อหวังกระตุ้นการบริโภคใน
ประเทศที่ยังอยู่ในภาวะซบเซาจากความกังวลว่าการส่งออกซึ่งเป็นตัวหลักในการผลักดันเศรษฐกิจในขณะนี้จะ
ชะลอตัวลงจากการที่เศรษฐกิจของจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของเกาหลีใต้ลดความร้อนแรงลง โดย ธ.กลางเกาหลี
ใต้ตั้งเป้าหมายให้เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 5.0 ในปีหน้า ธ.กลางเกาหลีใต้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยแม้ว่า
ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือน ก.ค.47 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบต่อปีสูงสุดในรอบ 16 เดือนจากราคา
น้ำมันที่สูงขึ้นในขณะนี้ก็ตาม ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคหลักซึ่งไม่รวมราคาน้ำมันและสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ
3.1 ซึ่งยังอยู่ในเป้าหมายที่ ธ.กลางเกาหลีใต้ตั้งไว้ระหว่างร้อยละ 2.5 ถึง 3.5 ต่อปี รัฐบาลคาดว่า
เศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวเกินกว่าร้อยละ 5.0 และขยายตัวระหว่างร้อยละ 5.2 ถึง 5.3 ในปีหน้า (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 13 ส.ค. 47 11 ส.ค. 47 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.502 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 41.2995/41.5842 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 1.1000-1.2800 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 595.60/13.75 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 7,700/7,800 7,700/7,800 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 39.03 38.23 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 20.59*/14.59 20.59*/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับเพิ่ม ลิตรละ 60 สตางค์ เมื่อ 11 ส.ค.47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-