กรุงเทพ--2 ก.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์มเพิ่มเติมเกี่ยวกับการช่วยเหลือคนไทย 22 คนจาก 49 คนที่ถูกพาไปเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนและขอความช่วยเหลือให้กลับประเทศไทย ว่า
1. เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2541 นางนิลวรรณ งามอุโฆษ อุปทูตฯ และเจ้าหน้าที่ล่ามของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ไปดูแลการเดินทางของกลุ่มคนไทยดังกล่าวที่สนามบินกรุงสตอกโฮล์ม (หลังจากที่เกิดเหตุการณ์และเป็นข่าว หจก.เลียงเจริญฯ ได้มาติดต่อกระทรวงฯ และยินยอมมอบเงินจำนวน 150,000 บาทเพื่อประกันค่าใช้จ่ายสำหรับคนไทย 22 คนซึ่งต้องเดินทางจากเมืองลูลีโอที่คนไทยเหล่านั้นไปเก็บผลไม้ป่ามายังสนามบินกรุงสตอกโฮล์ม และไม่มีเงินติดตัว)
2. คนไทยกลุ่มนี้เดินทางออกจากเมืองลูลีโอ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2541 เวลาประมาณ 16.00 น. โดยมีคนไทยที่อยู่แถบนั้นจัดหาอาหารกล่องสำหรับรับประทานเป็นมื้อเย็นให้ติดมาด้วย และเมื่อมาถึงสตอกโฮล์ม สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดอาหารกล่องให้คนไทยกลุ่มนี้รับประทานในตอนเช้า สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนว่า นายสมศักดิ์ฯ เพียงแต่จัดหารถยนต์ให้คนไทยกลุ่มนี้เดินทางเท่านั้น มิได้เหลียวแลในเรื่องอื่น ๆ และในกลุ่มไม่มีใครได้รับเงินติดตัวมาเลย
3. จากการสอบถาม ได้ทราบว่า แต่ละคนได้จ่ายเงินให้แก่ หจก.เลียงเจริญฯ รายละ 40,000 บาท เพื่อมาเก็บผลไม้ป่าจำหน่าย โดยจะต้องถูกหักเป็นค่าที่พักและค่าเช่ารถอีกคนละ 6,500 โครนาสวีเดน (ประมาณ 32,500 บาท) ส่วนค่าอาหารและค่าน้ำมันรถแต่ละคนจ่ายเอง แต่เมื่อมาถึงไม่เป็นอย่างที่สัญญาไว้ ไม่มีผลไม้ให้เก็บและไม่ได้รับเงินจากนายสมศักดิ์ฯ เลย ทั้งๆ ที่เคยให้ความหวังว่าจะได้กำไรจากรายได้ประมาณ 70,000-90,000 บาท พวกตนจึงเห็นว่าถูกหลอกให้มา และที่ต้องการกลับบ้าน เนื่องจากไม่รู้จะอยู่ไปทำไม รายได้ก็ไม่มีเลย อากาศก็หนาวมาก
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งสรุปการให้ปากคำของคนไทยกลุ่มนี้ ซึ่งเขียนโดยนายทองสาย ทวีชัย หนึ่งในกลุ่มคนไทยมาให้ด้วย ตามแนบ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงสตอกโฮล์มเพิ่มเติมเกี่ยวกับการช่วยเหลือคนไทย 22 คนจาก 49 คนที่ถูกพาไปเก็บผลไม้ป่าในสวีเดนและขอความช่วยเหลือให้กลับประเทศไทย ว่า
1. เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2541 นางนิลวรรณ งามอุโฆษ อุปทูตฯ และเจ้าหน้าที่ล่ามของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ไปดูแลการเดินทางของกลุ่มคนไทยดังกล่าวที่สนามบินกรุงสตอกโฮล์ม (หลังจากที่เกิดเหตุการณ์และเป็นข่าว หจก.เลียงเจริญฯ ได้มาติดต่อกระทรวงฯ และยินยอมมอบเงินจำนวน 150,000 บาทเพื่อประกันค่าใช้จ่ายสำหรับคนไทย 22 คนซึ่งต้องเดินทางจากเมืองลูลีโอที่คนไทยเหล่านั้นไปเก็บผลไม้ป่ามายังสนามบินกรุงสตอกโฮล์ม และไม่มีเงินติดตัว)
2. คนไทยกลุ่มนี้เดินทางออกจากเมืองลูลีโอ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2541 เวลาประมาณ 16.00 น. โดยมีคนไทยที่อยู่แถบนั้นจัดหาอาหารกล่องสำหรับรับประทานเป็นมื้อเย็นให้ติดมาด้วย และเมื่อมาถึงสตอกโฮล์ม สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดอาหารกล่องให้คนไทยกลุ่มนี้รับประทานในตอนเช้า สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนว่า นายสมศักดิ์ฯ เพียงแต่จัดหารถยนต์ให้คนไทยกลุ่มนี้เดินทางเท่านั้น มิได้เหลียวแลในเรื่องอื่น ๆ และในกลุ่มไม่มีใครได้รับเงินติดตัวมาเลย
3. จากการสอบถาม ได้ทราบว่า แต่ละคนได้จ่ายเงินให้แก่ หจก.เลียงเจริญฯ รายละ 40,000 บาท เพื่อมาเก็บผลไม้ป่าจำหน่าย โดยจะต้องถูกหักเป็นค่าที่พักและค่าเช่ารถอีกคนละ 6,500 โครนาสวีเดน (ประมาณ 32,500 บาท) ส่วนค่าอาหารและค่าน้ำมันรถแต่ละคนจ่ายเอง แต่เมื่อมาถึงไม่เป็นอย่างที่สัญญาไว้ ไม่มีผลไม้ให้เก็บและไม่ได้รับเงินจากนายสมศักดิ์ฯ เลย ทั้งๆ ที่เคยให้ความหวังว่าจะได้กำไรจากรายได้ประมาณ 70,000-90,000 บาท พวกตนจึงเห็นว่าถูกหลอกให้มา และที่ต้องการกลับบ้าน เนื่องจากไม่รู้จะอยู่ไปทำไม รายได้ก็ไม่มีเลย อากาศก็หนาวมาก
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งสรุปการให้ปากคำของคนไทยกลุ่มนี้ ซึ่งเขียนโดยนายทองสาย ทวีชัย หนึ่งในกลุ่มคนไทยมาให้ด้วย ตามแนบ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--