กรุงเทพ--26 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวานนี้ ( 25 ตุลาคม 2548) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวกรณีนางชลิตา กมลนรนาถ หญิงไทยถูกฆาตกรรมที่ฮ่องกง สรุปสาระได้ดังนี้
กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกงดังนี้
1. นางชลิตา กมลนรนาถ (MRS. CHARITAR KAMOLNORANATH) อายุ 41 ปี ภูมิลำเนากรุงเทพฯ ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2548 ที่ฮ่องกง โดยนางชลิตาฯ ได้เดินทางติดตามไปท่องเที่ยวฮ่องกงกับแฟนของนางชลิตาฯ ซึ่งเป็นชาวออสเตรเลีย มีอาชีพเป็นช่างถ่ายภาพ และเดินทางไปฮ่องกงด้วยวัตถุประสงค์ในเรื่องงาน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรม Metropol ซึ่งเป็นที่พัก พบว่าในวันที่ 12 ตุลาคม 2548 เวลาประมาณ 14.00 น. นางชลิตาฯ ออกจากโรงแรมฯ โดยขึ้นรถบริการรับ — ส่งของโรงแรมเพื่อไปย่านช้อปปิ้ง Mong Kok ในเขตเกาลูน และไม่ได้กลับโรงแรมที่พักตั้งแต่บัดนั้น โดยในวันที่ 17 ตุลาคม 2548 เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงประกาศขอความร่วมมือจากสาธารณชนว่าหากผู้ใดพบเห็นหรือมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงไทยคนนี้ ขอให้แจ้งไปที่หน่วยงาน Regional Missing Persons Unit ของเขตเกาลูนฝั่งตะวันตก ทั้งนี้ ตำรวจฮ่องกงได้ติดตามสืบสวนข้อมูลต่างๆ อาทิ การใช้โทรศัพท์มือถือ และการใช้บัตรเครดิตซึ่งพบว่ามีการเบิกเงินสดจำนวน 20,000 ดอลลาร์ฮ่องกง
2. เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2548 เวลาประมาณ 12.30 น. คนงานชาวฮ่องกงได้พบศพผู้หญิงบนเครื่องระบายอากาศขนาดใหญ่บนชั้น 33 ของตึก Revenue Tower ซึ่งเป็นอาคารที่ทำงานของหน่วยงานราชการของฮ่องกง ต่อมาตำรวจฮ่องกงได้ยืนยันหลังจากที่แฟนของนางสาวชลิตาฯ เข้าดูศพแล้ว ว่าศพผู้หญิงดังกล่าวคือนางชลิตา กมลนรนาถ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงสันนิษฐานว่าถูกฆาตกรรม แต่ยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่แท้จริงของการฆาตกรรม และกำลังอยู่ในระหว่างชันสูตรพลิกศพ ในเบื้องต้นพบว่า ศพไม่มีร่องรอยของการทำร้ายด้วยอาวุธ หรือการรัดคอ แต่ถูกมัดมือไพล่หลังไว้ด้วยเชือกไนลอน และอยู่ในสภาพนอนหงาย ในสถานที่ที่พบศพก็ไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่มีการเคลื่อนย้ายศพมาจากที่อื่น ทั้งนี้ อดีตสามีและญาติของนางชลิตาฯ ได้เดินทางไปฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2548 ได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับสถานกงสุลใหญ่ฯ โดยตลอดเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการหายตัวไปของนางชลิตาฯ
3. กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป โฆษกกระทรวงการต่างประเทศตอบคำถามของสื่อมวลชนว่าจะมีการออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวไทยหรือไม่ว่า ปกติฮ่องกงมีความปลอดภัยสูง คดีดังกล่าวเป็นอุทธาหรณ์ว่า การเดินทางไปท่องเที่ยวไม่ว่าในประเทศใดจะต้องมีการระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
เมื่อวานนี้ ( 25 ตุลาคม 2548) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวกรณีนางชลิตา กมลนรนาถ หญิงไทยถูกฆาตกรรมที่ฮ่องกง สรุปสาระได้ดังนี้
กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกงดังนี้
1. นางชลิตา กมลนรนาถ (MRS. CHARITAR KAMOLNORANATH) อายุ 41 ปี ภูมิลำเนากรุงเทพฯ ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2548 ที่ฮ่องกง โดยนางชลิตาฯ ได้เดินทางติดตามไปท่องเที่ยวฮ่องกงกับแฟนของนางชลิตาฯ ซึ่งเป็นชาวออสเตรเลีย มีอาชีพเป็นช่างถ่ายภาพ และเดินทางไปฮ่องกงด้วยวัตถุประสงค์ในเรื่องงาน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรม Metropol ซึ่งเป็นที่พัก พบว่าในวันที่ 12 ตุลาคม 2548 เวลาประมาณ 14.00 น. นางชลิตาฯ ออกจากโรงแรมฯ โดยขึ้นรถบริการรับ — ส่งของโรงแรมเพื่อไปย่านช้อปปิ้ง Mong Kok ในเขตเกาลูน และไม่ได้กลับโรงแรมที่พักตั้งแต่บัดนั้น โดยในวันที่ 17 ตุลาคม 2548 เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงประกาศขอความร่วมมือจากสาธารณชนว่าหากผู้ใดพบเห็นหรือมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงไทยคนนี้ ขอให้แจ้งไปที่หน่วยงาน Regional Missing Persons Unit ของเขตเกาลูนฝั่งตะวันตก ทั้งนี้ ตำรวจฮ่องกงได้ติดตามสืบสวนข้อมูลต่างๆ อาทิ การใช้โทรศัพท์มือถือ และการใช้บัตรเครดิตซึ่งพบว่ามีการเบิกเงินสดจำนวน 20,000 ดอลลาร์ฮ่องกง
2. เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2548 เวลาประมาณ 12.30 น. คนงานชาวฮ่องกงได้พบศพผู้หญิงบนเครื่องระบายอากาศขนาดใหญ่บนชั้น 33 ของตึก Revenue Tower ซึ่งเป็นอาคารที่ทำงานของหน่วยงานราชการของฮ่องกง ต่อมาตำรวจฮ่องกงได้ยืนยันหลังจากที่แฟนของนางสาวชลิตาฯ เข้าดูศพแล้ว ว่าศพผู้หญิงดังกล่าวคือนางชลิตา กมลนรนาถ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงสันนิษฐานว่าถูกฆาตกรรม แต่ยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่แท้จริงของการฆาตกรรม และกำลังอยู่ในระหว่างชันสูตรพลิกศพ ในเบื้องต้นพบว่า ศพไม่มีร่องรอยของการทำร้ายด้วยอาวุธ หรือการรัดคอ แต่ถูกมัดมือไพล่หลังไว้ด้วยเชือกไนลอน และอยู่ในสภาพนอนหงาย ในสถานที่ที่พบศพก็ไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่มีการเคลื่อนย้ายศพมาจากที่อื่น ทั้งนี้ อดีตสามีและญาติของนางชลิตาฯ ได้เดินทางไปฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2548 ได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับสถานกงสุลใหญ่ฯ โดยตลอดเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการหายตัวไปของนางชลิตาฯ
3. กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป โฆษกกระทรวงการต่างประเทศตอบคำถามของสื่อมวลชนว่าจะมีการออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวไทยหรือไม่ว่า ปกติฮ่องกงมีความปลอดภัยสูง คดีดังกล่าวเป็นอุทธาหรณ์ว่า การเดินทางไปท่องเที่ยวไม่ว่าในประเทศใดจะต้องมีการระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-