กรุงเทพ--15 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2548 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. นโยบายต่างประเทศจะดำเนินการในเชิงรุกและสร้างสรรค์ในเวทีโลก เพื่อประโยชน์ของภาคเอกชนและคนไทย โดยการสร้างพันธมิตรทางการเมืองและเศรษฐกิจกับประเทศต่างๆ กล่าวคือจะมีการเจาะลึกถึงความเหมาะสมในการส่งเสริมความสัมพันธ์กับแต่ละประเทศอย่างชัดเจนและครบวงจรทั้งด้านการเมือง การค้า การลงทุน การศึกษา ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ และสาธารณสุข
2. จะให้ความสำคัญกับประเทศเพื่อนบ้านคือกลุ่มอาเซียน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีกำหนดการที่จะเดินทางไปเยือนประเทศเหล่านี้โดยเร็วที่สุด
3. สำหรับบทบาทด้านการค้ากับนโยบายต่างประเทศนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศกล่าวว่า โลกยุคโลกาภิวัตน์จำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับการค้า การลงทุน การขยายตลาด และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าไทย โดยการผลักดันอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างพันธมิตรและโอกาสทางการค้าระหว่างภาคเอกชนไทยกับต่างประเทศ เนื่องจากในยุคปัจจุบันเศรษฐกิจถือเป็นส่วนสำคัญของการทูตแล้ว
4. ในการเปิดตลาดภายใต้กรอบการเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ เป็นสิ่งที่จำเป็นโดยเฉพาะในระดับทวิภาคี ซึ่งไทยจะทำในลักษณะเป็นพันธมิตรโดยเลือกสรรอย่างรอบคอบและค่อยเป็นค่อยไป สำหรับในระดับพหุภาคีคือองค์การการค้าโลก (WTO) รัฐบาลจะมีบทบาทอย่างเต็มเพื่อให้ WTO ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในเรื่องการค้าคือการค้าเสรีจะต้องเป็นไปอย่างยุติธรรม ทั้งสองประเด็นต้องดำเนินไปควบคู่กัน
5. บทบาทของเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศในฐานะ CEO และหัวหน้าทีมประเทศไทยจะต้องเป็นผู้สร้างโอกาสให้กับภาคเอกชนไทย คือเป็นผู้ที่ช่วยเปิดประตูการค้าทั้งในประเทศที่ประจำอยู่รวมถึงประเทศในเขตอาณาด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2548 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
1. นโยบายต่างประเทศจะดำเนินการในเชิงรุกและสร้างสรรค์ในเวทีโลก เพื่อประโยชน์ของภาคเอกชนและคนไทย โดยการสร้างพันธมิตรทางการเมืองและเศรษฐกิจกับประเทศต่างๆ กล่าวคือจะมีการเจาะลึกถึงความเหมาะสมในการส่งเสริมความสัมพันธ์กับแต่ละประเทศอย่างชัดเจนและครบวงจรทั้งด้านการเมือง การค้า การลงทุน การศึกษา ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ และสาธารณสุข
2. จะให้ความสำคัญกับประเทศเพื่อนบ้านคือกลุ่มอาเซียน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีกำหนดการที่จะเดินทางไปเยือนประเทศเหล่านี้โดยเร็วที่สุด
3. สำหรับบทบาทด้านการค้ากับนโยบายต่างประเทศนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศกล่าวว่า โลกยุคโลกาภิวัตน์จำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับการค้า การลงทุน การขยายตลาด และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าไทย โดยการผลักดันอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างพันธมิตรและโอกาสทางการค้าระหว่างภาคเอกชนไทยกับต่างประเทศ เนื่องจากในยุคปัจจุบันเศรษฐกิจถือเป็นส่วนสำคัญของการทูตแล้ว
4. ในการเปิดตลาดภายใต้กรอบการเจรจาจัดตั้งเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ เป็นสิ่งที่จำเป็นโดยเฉพาะในระดับทวิภาคี ซึ่งไทยจะทำในลักษณะเป็นพันธมิตรโดยเลือกสรรอย่างรอบคอบและค่อยเป็นค่อยไป สำหรับในระดับพหุภาคีคือองค์การการค้าโลก (WTO) รัฐบาลจะมีบทบาทอย่างเต็มเพื่อให้ WTO ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในเรื่องการค้าคือการค้าเสรีจะต้องเป็นไปอย่างยุติธรรม ทั้งสองประเด็นต้องดำเนินไปควบคู่กัน
5. บทบาทของเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศในฐานะ CEO และหัวหน้าทีมประเทศไทยจะต้องเป็นผู้สร้างโอกาสให้กับภาคเอกชนไทย คือเป็นผู้ที่ช่วยเปิดประตูการค้าทั้งในประเทศที่ประจำอยู่รวมถึงประเทศในเขตอาณาด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-