พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร วัน จันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2549 ฉบับที่ 28/2549 คาดหมายลักษณะอากาศเพื่อการเกษตรใน 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่วันที่ 6-12 มีนาคม 2549 ในระยะนี้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน โดยจะมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในตอนเย็นและค่ำคลื่นลมในอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นประมาณ 2 เมตร ข้อควรระวัง ผลกระทบของลักษณะอากาศต่อการเกษตรตามภาคต่าง ๆ ในระยะ 7 วันข้างหน้า มีดังนี้ เหนือ # อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส เว้นแต่ในตอนเช้ามีหมอกและอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนกลางของภาคส่วนมากในช่วงวันที่ 6-7 มี.ค. ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. # อากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส เว้นแต่ในตอนเช้ามีหมอกและอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง 10 % ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนกลางของภาคส่วนมากในช่วงวันที่ 6-7 มี.ค. ลมอ่อน 6-12 กม./ชม. เนื่องจากระยะนี้อุณหภูมิแตกต่างกันมากระหว่างกลางวันและกลางคืน ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรควรปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้ำน้อย ตะวันออกเฉียงเหนือ # อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส เว้นแต่ในตอนเช้ามีอากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนกลางของภาคโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 6-7 มี.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. # อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส เว้นแต่ในตอนเช้ามีอากาศเย็นส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งส่วนมากทางตอนกลางของภาคโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 6-7 มี.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงการตากผลผลิตไว้กลางแจ้งในช่วงดังกล่าว เนื่องจากระยะนี้อากาศเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ฤดูร้อน จึงควรระวังการระบาดของโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหาร ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรฉีดวัคซีนให้แก่สัตว์เลี้ยงเพื่อป้องกันโรคที่อาจเกิดในฤดูร้อน กลาง # มีเมฆบางส่วน และอากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 %ของพื้นที่ส่วนมากในช่วงวันที่ 6-7 มี.ค. ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. # มีเมฆบางส่วน และอากาศร้อน อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง 10 %ของพื้นที่ส่วนมากในช่วงวันที่ 6-7 มี.ค. ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ระยะนี้อากาศแห้งดังนั้นจึงควรระวังการเกิดอัคคีภัยและไฟป่าโดยดับไฟให้สนิทหลังจากจุดไฟเพื่อใช้งานแล้ว และหลีกเลี่ยงการเผาเศษวัสดุการเกษตร นอกจากนี้ควรดูแลให้น้ำแก่พืชไร่และไม้ผลอย่างพอเพียง ตะวันออก # อากาศร้อนในตอนกลางวันทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง 10% ของพื้นที่ตามบริเวณชายฝั่งและเทือกเขา ส่วนมากในช่วงวันที่ 6-7 มี.ค. ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. # อากาศร้อนในตอนกลางวันทางตอนบนของภาค อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส กับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง 10% ของพื้นที่ตามบริเวณชายฝั่งและเทือกเขา ส่วนมากในช่วงวันที่ 6-7 มี.ค. ลมใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ในช่วงนี้สภาพอากาศแห้งดังนั้นจึงควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด เช่นเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ นอกจากนี้ควรวางแผนการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงฤดูแล้ง ใต้ # ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30%ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีเมฆบางส่วนและมีฝนบางแห่ง 10 %ของพื้นที่ส่วนมากในช่วงวันที่ 10-12 มี.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. # ทางฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ 10-30%ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ส่วนทางฝั่งตะวันตกมีเมฆบางส่วนและมีฝนบางแห่ง 10 %ของพื้นที่ส่วนมากในช่วงวันที่ 10-12 มี.ค. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. สำหรับบริเวณที่มีฝนตกน้อย เกษตรกรควรให้น้ำแก่พืชอย่างพอเพียงโดยเฉพาะไม้ผลที่อยู่ในระยะออกดอกและติดผล เพราะหากขาดน้ำจะทำให้ผลผลิตลดลง นอกจากนี้ควรระวังการระบาดของศัตรูพืชจำพวกปากดูด โดยเฉพาะเพลี้ยและไรชนิดต่างๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74-พห-